มีใครรู้บ้างว่าท่าน Thich Quang Duc ท่านเป็นพระที่เผาตัวเอังในเวียดนามในปี1963 ตายแล้วไปไหนคับ ทำไมท่านถีงกล้าเผาตัวตายเพือรักษาพระพุทธศาสนาคับ
Thich Quang Duc
#1
โพสต์เมื่อ 01 September 2014 - 08:40 AM
#2
โพสต์เมื่อ 01 September 2014 - 10:20 AM
สัมปรายภพจากการปกปักษ์รักษาพุทธศาสนาโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยจิตที่เลื่อมใส มีสติไม่หลงตายย่อมมีสุคติ ท่านเป็นพระภิกษุมหายาน การกระทำท่านอาจดูขัดแย้งกับพระวินัยเถรวาทที่ว่าฆ่าตัวตายเป็นอาบัติหนัก
มุมมองพระคุณเจ้า กระทำเพื่อประโยชน์3 ทั้งปัจจุบัน(ประเทศ พุทธศาสนา) ภายภาคหน้า และปรมัตถ์...จิตของท่านคือโพธิญาณ พร้อมสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ น่ายกย่องอย่างยิ่ง
http://203.146.215.3...m_Buddhism.html
#3
โพสต์เมื่อ 01 September 2014 - 11:44 AM
ที่สืบเนื่องเกี่ยวกับเรื่อง "การยอมสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม" นี้.... ผมสงสัยมานานแล้วครับ แต่ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้... ผมเคยนึกเปรียบเทียบโยงไปถึงเรื่องของ "การให้อามิสทาน" ว่า ทำไม "การให้" ของบางอย่างไม่ได้บุญ ทั้งๆที่เป็นการให้ด้วยจิตที่ไม่ได้มุ่งร้าย เช่น เพื่อนฝูงรักใคร่มาพบปะกัน จึงอยากเลี้ยงสุราเพื่อนๆด้วยความเต็มใจ..... แต่กลับได้บาปด้วยซำ้... ได้นึกทบทวนขบคิดประเด็นนี้มาพอสมควร ก็มีข้อคิดบางประการเกิดขึ้น(ซึ่งไม่ได้หมายความว่าที่ผมเข้าใจต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)....
การสละทรัพย์ออกไปเพื่อหวังจะตัดความตระหนี่ ไม่ใช่ว่าจะได้บุญเสมอไป (ดังเช่น เราตัดใจ เอาชนะความขี้เหนียวเพื่อเลี้ยงสุราเพื่อนๆ ทั้งๆที่มีทรัพย์น้อย ) ถ้าสิ่งของนั้นๆจะกลายไปเป็นปัจจัยหรืออุปกรณ์ในการทำความชั่วต่อไป เช่น อาวุธ, สุรา, นารี ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ดังนั้น เรื่องของ "ทาน" ถ้าเราไม่มีปัญญาทางธรรมพิจารณาให้รอบคอบประกอบ แทนที่เราจะได้บุญ กลับอาจจะได้บาปด้วยซ้ำ
ดัวยหลักการข้างต้น... ในศีลข้อ 4 แม้การโกหก หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะที่จะทำให้ผู้อื่นเชื่อสนิทใจโดยหวังไม่ให้เกิดผลชั่วร้ายเกิดตามมา ก็อาจจะเป็นบุญหรือเป็นการสร้างบารมีข้ออื่นให้เกิดขึ้นก็ได้(ขอยำ้ว่า เป็นเพียงข้อคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอให้ผู้มีปัญญาช่วยกันพิจารณาด้วย) ดังเช่น ในชาดกหลายเรื่องที่พระโพธิสัตว์ใช้ปัญญาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบางประการเพื่อหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย อาทิ พระเตมีย์ แสร้งทำเป็นใบ้ ง่อยเปลี้ยเสียขาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ตนเป็นอย่างนั้นจริงๆ (ทั้งๆที่พระองค์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น) เป็นต้น
ทำนองเดียวกัน ในศีลข้อ 2 จะยกตัวอย่างการ ขโมยของเพื่อหวังไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้นตามมา "น่าจะ" ได้บุญ เช่น เราเห็นเพื่อนซ่อนปืนที่อุตสาห์ประดิษฐ์เองไว้ในกระเป๋า หวังจะไปยิงเพื่อนต่างสถาบันวันพรุ่งนี้... ในฐานะที่จะทำหน้าที่กัลยาณมิตรกันเพื่อนออกจากพฤติกรรมชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้น จึงตัดสินใจ ขโมยปืนเพื่อนไปทิ้งลงน้ำเสีย... แล้วเราก็โกหกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แม้เพื่อนจะถามตนว่า เห็นปืนของเขาหรือไม่ จนในที่สุดเพื่อนเลยไม่ได้ไปยิงใคร.....
แม้ศีลข้อที่ 1 ก็น่าจะทำนองเดียวกัน.... การฆ่าตัวตาย หากจงใจเพื่อต้องการให้เกิดสิ่งดีงามที่แท้จริงเกิดขึ้น ดังเช่น กรณีพระที่ท่านเจ้าของกระทู้ตั้งขึ้น ท่านคงพิจารณาถ้วนถี่แล้วด้วยปัญญาว่า แม้ทรัพย์, แม้กำลัง, แม้หนทางอื่นใด, ท่านก็คงคิดหาวิธีหมดทุกหนทางแล้วก็ไม่อาจจะช่วยรักษาพระพุทธศาสนา(ซึ่งรวมถึงพระธรรม)เอาไว้ได้แน่ๆ คงมีแต่เพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่ "พอจะ" หรือ "อาจจะ" ช่่วยกระตุ้นพลังใจให้ชาวพุทธทั้งหลายตื่นตัวขึ้นมาผนึกกำลังกันเพื่อรักษาและปกป้องพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ขึ้นมาได้... ก็คือ ยอมฆ่าตัวตาย (เรียกว่า สละชีวิต เพื่อรักษาธรรม) ด้วยการพิจารณาเลือกวันเวลาและสถานที่เพื่อให้เกิดผลให้มากที่สุด (Impact)...
ดังนั้น... นี่คือเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์เสี้ยวหนึ่งของพระพุทธศาสนาในเวียตนามที่บันทึกของ "การฆ่าตัวตาย" ที "ได้บุญ".... เพราะเป็นการตั้งเจตนา "ฆ่า" เพื่อรักษา "ธรรม" ให้ดำรงอยู่นั่นเอง.....
#4
โพสต์เมื่อ 01 September 2014 - 04:54 PM
เท่าที่ได้ฟังมา เคสนี้เป็นการสละชีวิตเป็นเดิมพัน ท่านจึงได้บารมีในระดับสูง เพราะท่านทำด้วยดวงใจที่สูงส่งมุ่งมั่นมาก หาไม่เจอแล้วเหมือนกันครับ
#5
โพสต์เมื่อ 01 September 2014 - 07:53 PM
ผมไม่กล้าทำเหมือนท่านหรอกคับ กลัวเจ็บกลัวตาย
#6
โพสต์เมื่อ 02 September 2014 - 03:59 PM
เวลาเราจับถูกอะไรร้อนๆ แล้วยังสะดุ้งเลย สำหรับท่านแล้วนิ่งมาก สมาธิต้องดีมากๆระดับหนึ่งเลย
" ในปี 2505 ศาสนาพุทธกำลังจะล่มสลายในเวียดนาม ฝรั่งเศสคิดล้มล้างพุทธศาสนา
ต้องการให้คนเวียดนามหันมานับถือศาสนาคริสต์ให้หมด คนนับถือศาสนาพุทธคือคนชั้นต่ำสุดในสังคม
ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในศาสนาคริสต์ ไม่มีประกันสังคม ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันสังคม ไม่มีโอกาสได้เข้ารับราชการ
คนที่ต่อต้านจะต้องตาย ตำรวจได้ขับรถเมลเหยียบพระภิกษุสามเณรตายกว่า 70 รูป และจับเกณฑ์พระเณรเข้าไปในโบสถ์ยิงทิ้ง
เจ้าอาวาสชื่อ Thick Quang Doc วัดเทียนมู่ ท่านทนไม่ได้จึงออกมาประท้วงนโยบายของรัฐบาลโงดินเดียมห์ ที่ริดรอนอิสรภาพในการนับถือศาสนา ท่านขับรถเองไปที่กรุงไซง่อนเมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อลงจากรถแล้ว ท่านให้พระภิกษุด้วยกันเอาน้ำมันราด ท่านนั่งท่าสมาธิ แล้วจุดไฟเผา
หลังจากที่มรณะภาพแล้ว ก็พบว่าหัวใจของท่านไม่ได้มอดไหม้ไปกับกองเพลิง จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่สถูปทองคำภายในวัด ซึ่งต่อมาก็ได้ยกเลิกนโยบายนี้ หลังจากที่มรณะภาพแล้ว เพราะศรัทธาของท่านได้ปลุกใจคนเวียดนาม แต่ถึงกระนั้นในเวียดนามยังคงเหลือคนที่นับถือศาสนาพุทธน้อยมาก..........................." ที่มา
สำหรับประเทศไทยคงไม่ประสบปัญหานี้ เพราะพวกเราทุกๆ คนช่วยกันค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 02 September 2014 - 07:07 PM
สาธุ สาธุ สาธุ น่ากลัวมากจริงๆนะ แต่ดูท่านใจเย็นมาก ไม่แสดงอาการหวาดกลัวใดๆเลยนะ
#8
โพสต์เมื่อ 04 September 2014 - 07:48 AM
Sadhu sadhu sadhu when watching the video I placed my mind at CG. I felt that I totally understand him ka.