เคยอ่านจากในหนังสือว่าการดื่มน้ำปัสสาวะจะช่วยรักษาโรคจริงหรือเปล่าค่ะ แล้วในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าแนะนำให้ภิกษุฉันน้ำปัสสาวะจริงหรือเปล่าค่ะ
น้ำปัสสาวะรักษาโรคจริงหรือเปล่า
เริ่มโดย 131072, Feb 29 2008 08:58 PM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 08:58 PM
#2
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 09:44 PM
QUOTE
การดื่มน้ำปัสสาวะจะช่วยรักษาโรคจริงหรือเปล่าค่ะ
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เคยมีการทดลองกันบ้างแล้ว
ได้ผลดีในบางราย ขึ้นอยู่กับโรคทั่วไป หรือร้ายแรง (รวมถึงวิบากรรมด้วยครับ)
แต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเท่าใดนัก
เชิญแวะไปที่กระทู้
โอสถวิเศษของพระพุทธเจ้า รักษาโรคร้าย ร้าย
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2822
QUOTE
แล้วในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าแนะนำให้ภิกษุฉันน้ำปัสสาวะจริงหรือเปล่าค่ะ
ที่จริงการฉัน(ดื่ม)ยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า (น้ำปัสสาวะหมักดอง)
นับเป็นสิ่งที่พระอุปัชฌาย์ สอนแก่ภิกษุบวชใหม่ ตามธรรมวินัยด้วยนะครับ
เรียกว่า ให้ นิสสัย ๔
QUOTE
นิสสัย คือ ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตมี ๔ อย่าง ได้แก่
เที่ยวบิณฑบาต ๑
นุ่งห่มผ้าบังสุกุล ๑
อยู่โคนไม้ ๑
ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ๑
เที่ยวบิณฑบาต ๑
นุ่งห่มผ้าบังสุกุล ๑
อยู่โคนไม้ ๑
ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ๑
เรื่องน้ำมูตรเน่า / ยาดองน้ำมูตรเน่า มีบันทึกหลายแห่งครับ เช่น
อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต สตุลลปกายิกวรรคที่ ๔
อุชฌานสัญญีสูตรที่ ๕
http://84000.org/tip...?...p;i=106&p=1
ด้วยการอยู่เสนาสนะโคนไม้ ด้วยยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า
และย่อมกล่าวยกย่องบุคคลผู้ยังกิจนั้นให้สำเร็จสุดยอดแต่พระองค์เอง
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๖ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
อรรถกถา สังยุตตนิกาย นิทานวรรค กัสสปสังยุตต์
สันตุฏฐสูตร
http://84000.org/tip...?...p;i=462&p=1
ส่วนภิกษุที่วางสมอดองด้วยน้ำมูตรไว้ในภาชนะหนึ่ง วางของหวาน ๔ อย่างไว้ในภาชนะหนึ่ง
จึงห้ามของหวาน ๔ อย่าง ด้วยคิดว่า
ชื่อว่าสมอดองน้ำมูตร พระพุทธเจ้าเป็นต้นทรงสรรเสริญ ดังนี้
แล้วทำเภสัชด้วยสมอดองน้ำมูตร ก็ชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ
ป.ล. ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.larndham....o.pl/003433.htm
หรือเอกสารแนบ
1.doc 75.5K 954 ดาวน์โหลด
http://www.larndham....o.pl/004183.htm
2.doc 86K 1185 ดาวน์โหลด
จากนั้น วินิจฉัย เอาเองครับ
#3
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 10:17 PM
ข้อมูลเพียบเลย อิอิ สาธุๆๆ
#4
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 08:48 AM
เรื่องปัสสาวะนี่เคยอ่านจากหนังสือ สุขภาพนักสร้างบารมีมา ใจความว่า ถ้าดื่มเข้าไปแล้วร่างกายจะสร้างภูมิชนิดหนึ่งขึ้นมาเพื่อต่อต้านสิ่งที่มากับปัสสาวะซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการ(เพราะขับออกไปแล้ว) แล้วภูมิชนิดนั้นก็มีสรรพคุณต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บในร่างกายไปในตัว
แต่ก็มีคนเคยไปถามพระท่านว่า ถ้างั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องกินยาใช่มั้ย พระท่านว่า ลูกเอ้ย มียาให้กินก็กินไปเถอะ อย่าให้ถึงขนาดต้องดื่มปัสสาวะเลย นั่นมันทางเลือกสุดท้าย
แต่ก็มีคนเคยไปถามพระท่านว่า ถ้างั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องกินยาใช่มั้ย พระท่านว่า ลูกเอ้ย มียาให้กินก็กินไปเถอะ อย่าให้ถึงขนาดต้องดื่มปัสสาวะเลย นั่นมันทางเลือกสุดท้าย
#5
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 08:53 AM
หากเป็นนําปัสสะวะเพรียวๆ มีประโยชน์ไม่มากครับ บางรายอาจจะเป็นโทษต่อร่างกาย ในสมัยพุทธกาลก็มีอย่างที่คุณDd2683 กล่าวไว้ แต่พระองค์ไม่ได้ให้ใช้แบบเพรียวๆครับ ส่วนใหญ่จะใช้ในการหมักตัวยาสมุนไพรเสียมากกว่าครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 09:25 AM
เคยได้ยินหลวงพ่อทัตตะท่านเล่าว่าท่านก็เคยฉันเหมือนกันค๊ะ
100กะรัต
#7
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 09:35 AM
สาธุค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 08:40 PM
ได้ยินจากคนใกล้ชิด ที่เป็นคนจีนแท้ๆ บอกว่า น้ำปัสสาวะที่จะนำมาใช้ได้นั้น จะต้องนำมาจากปัสสาวะของเด็กทารกเท่านั้น คือ มีอายุไม่เกิน 1 ปี ( แต่ก็ไม่เคยลองพิสูจน์ ซะที ) ได้แต่ ฟัง ฟัง เขามา เท็จจริงเป็นเช่นไร โปรดใช้พิจารณาญาณในการไตร่ตรอง
#9
โพสต์เมื่อ 02 March 2008 - 09:21 PM
จริงทั้ง 2 คำถามเลยครับ ผมแนะนำให้อ่านหนังสือ สุขภาพนักสร้างบารมี ที่หลวงพ่อทัตตชีโวได้สอนไว้้ในหนังสือเล่มนี้ครับ หนังสือเล่มนี้ดีมากมาก