กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และพระอาจารย์ทุกรูป และขอสวัสดีทีมงานเว็บมาสเตอร์และนักเรียนอนุบาลฯทุกท่านครับ
ผมทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นนักกายภาพบำบัด จะได้บรรยายเรื่องการออกกำลังกายในพระสงฆ์ให้พระท่านฟังอาทิตย์หน้าครับ
ผมขอสอบถามเรื่องการออกกำลังกายในพระภิกษุสงฆ์ว่ามีขอบเขตขนาดไหนที่ไม่ผิดพระธรรมวินัย และการออกกำลังกายแบบแอโรบิกสมมุติว่าทำองค์เดียวในกุฏิเพื่อป้องกันภาพที่ไม่เหมาะสม เช่นกระโดดตบ หรือวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที่ ทำได้หรือไม่ครับ (เพราะการออกกำลังกายแบบแอโรบิกมีความจำเป็นต่อสุขภาพครับ)
ขอบคุณครับ
ขอสอบถามเรื่องการออกกำลังกายในพระสงฆ์ครับ
เริ่มโดย บ่าวอุบล, Jul 02 2008 03:18 PM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 03:18 PM
#2
โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 04:41 PM
เรื่องของทฤษฎีการออกกำลังกาย เท่าที่ผมทราบก็ยังคงเป็นข้อขัดแย้งทางความคิดระหว่างปรัชญาตะวันตก กับปรัชญาตะวันออกน่ะครับ
ปรัชญาตะวันตกนั้น การออกกำลังกายมีแนวคิดว่าร่างกายต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ เพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดไหลเวียน
ทั่วร่างกาย เช่น แอโรบิค เป็นต้น
แต่ปรัชญาตะวันออกนั้น จะใช้หลักการของโยคะ ซึ่งเน้นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบช้าๆ ให้เกิดการเหยียดยืด กดนวดอวัยวะภายใน หรือ อีกแบบหนึ่งจะให้หลักออกกำลังกายเฉพาะส่วน คือ การแกว่งแขน ซึ่งคิดค้นโดยชาวจีน แม้จะเป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วน แต่ชาวจีนเชื่อว่า มีผลทั่วร่างกายเลยทีเดียวล่ะครับ
ดังนั้น หากไปแนะนำพระท่านให้กระโดดตบ บางทีบางท่านอาจจะยึดถึอ ปรัชญาการออกกำลังกายแบบ
แนวคิดทางตะวันออกก็เป็นได้ครับ
จนบัดนี้ก็ยังไม่อาจมีใครบอกได้ชัดเจนว่า ปรัชญาไหนดีกว่ากัน
ปรัชญาตะวันตกนั้น การออกกำลังกายมีแนวคิดว่าร่างกายต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ เพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดไหลเวียน
ทั่วร่างกาย เช่น แอโรบิค เป็นต้น
แต่ปรัชญาตะวันออกนั้น จะใช้หลักการของโยคะ ซึ่งเน้นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบช้าๆ ให้เกิดการเหยียดยืด กดนวดอวัยวะภายใน หรือ อีกแบบหนึ่งจะให้หลักออกกำลังกายเฉพาะส่วน คือ การแกว่งแขน ซึ่งคิดค้นโดยชาวจีน แม้จะเป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วน แต่ชาวจีนเชื่อว่า มีผลทั่วร่างกายเลยทีเดียวล่ะครับ
ดังนั้น หากไปแนะนำพระท่านให้กระโดดตบ บางทีบางท่านอาจจะยึดถึอ ปรัชญาการออกกำลังกายแบบ
แนวคิดทางตะวันออกก็เป็นได้ครับ
จนบัดนี้ก็ยังไม่อาจมีใครบอกได้ชัดเจนว่า ปรัชญาไหนดีกว่ากัน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 05:30 PM
เป็นสิ่งที่ดีครับเพราะพระภิกษุก็จำเป็นต้องออกกำลังกายเหมือนกันนะครับ แต่ดูเหมือนว่าการออกกำลังกายแนวตะวันออก คือเน้นการยืด การคลายตัวของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจะเหมาะกับเพศภาวะของนักบวชมากกว่าครับ คือดูเรียบร้อยกว่า แต่ถ้าเป็นแบบแนวตะวันตก ถ้ามีการออกกำลังกายในบริเวณที่มิดชิด หรือในที่ส่วนตัวก็อาจจะพออนุโลมได้ แต่จะต้องระมัดระวังภาพที่ดูไม่งามและจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับเพศสมณะด้วย เพราะพระภิกษุสามเณรท่านนุ่งห่มผ้าไตรจีวร ไม่สามารถนุ่งชุดแอโรบิคเหมือนคนทั่วไปได้ คงต้องให้ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ช่วยกันคิดต่อนะครับ...สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 07:11 PM
คงไม่เหมาะหรอกครับ เอาแค่แบบโยคะ (บางท่า ไม่ใช่ได้ทุกท่า) ก็พอครับ อย่าถึงแอโรบิคเลย ไต้ต้องห่วงหรอกครับ เพราะท่านมีกิจวัตรประจำวันที่เป็นการออกกำลังกายอยู่แล้วโดยเฉพาะวัดพระธรรมกายเพราะ มีงานเยอะ ทั้งเก็บกวาด ดูแลวัด
#5
โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 10:06 PM
ปกติพระสงฆ์ส่วนหนึ่ง ก็ออกกำลังกายตามพุทธบัญญัติอยู่แล้ว เช่น ตอนตื่นเช้าก็เก็บกวาดเช็ดถูกุฏิที่พักอาศัย หลังจากนั้นก็ออกบิณทบาตรแบบถอดรองเท้า เดินหลายกิโลนะครับ เท้าก็สัมผัสพื้นดินด้วย ช่วงบ่ายๆก็กวาดทำความสะอาดวัดอีก ตอนผมบวชก็มีบุญพิเศษ เช่น ทำความสะอาดห้องน้ำ แบกเหล็กช่วยงานก่อสร้าง เก็บขยะทำความสะอาดวัดตอนเช้าพื้นที่ดูแลเป็นไร่ๆเลย ในแต่ละวันก็ทำแบบนี้ พอสึกออกมาแข็งแรงกว่าตอนนี้อีก
#6
โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 09:01 AM
ขอแจมนิดนึงนะคะ เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเหมือนกัน คือการทำงานต่างๆนั้นได้ออกกำลังกายถูกต้องแล้วค่ะ แต่มีผลงานวิจัยบอกว่าจะมีความเครียดปนแฝงอยู่ เช่นเราขัดห้องน้ำเราต้องเล็งว่าตรงนี้สะอาดหรือยัง จะมีกล้ามเนื้อที่เกร็งน่ะค่ะ
ไม่เหมือนการออกกำลังกายจริงๆซึ่งใจจะว่างและสบาย
ไม่ทราบว่าพระท่านขี่จักรยานแบบอยู่กับที่ได้ไหมคะ (ถ้าเราเอาไว้ซักห้องที่ไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าน่ะค่ะ) จะได้ครบถ้วนของการออกกำลังกายแน่นอนค่ะ
ไม่เหมือนการออกกำลังกายจริงๆซึ่งใจจะว่างและสบาย
ไม่ทราบว่าพระท่านขี่จักรยานแบบอยู่กับที่ได้ไหมคะ (ถ้าเราเอาไว้ซักห้องที่ไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าน่ะค่ะ) จะได้ครบถ้วนของการออกกำลังกายแน่นอนค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 12:08 PM
QUOTE
ผมขอสอบถามเรื่องการออกกำลังกายในพระภิกษุสงฆ์ว่ามีขอบเขตขนาดไหนที่ไม่ผิดพระธรรมวินัย และการออกกำลังกายแบบแอโรบิกสมมุติว่าทำองค์เดียวในกุฏิเพื่อป้องกันภาพที่ไม่เหมาะสม เช่นกระโดดตบ หรือวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที่ ทำได้หรือไม่ครับ (เพราะการออกกำลังกายแบบแอโรบิกมีความจำเป็นต่อสุขภาพครับ)
- ถือเป็นการบริหารขันธ์5 - ทำส่วนตัว, ไม่ประเจิดประเจ้อ, ไม่รบกวนผู้อื่น
- คลายความตึงเครียดของร่างกายให้เกิดดุลยภาพ น่าจะอนุโลม
*บางรูป ใช้โยคะบริหารขันธ์ในกุฏิ เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่น
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#8
โพสต์เมื่อ 03 July 2008 - 04:49 PM
พระไมไ่ด้ใส่ underwear นะครับ
บอกไว้เพื่อเป็นข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยว่าควรหรือไม่ควรครับ
บอกไว้เพื่อเป็นข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยว่าควรหรือไม่ควรครับ
#9
โพสต์เมื่อ 04 July 2008 - 09:21 PM
อืมม์..พระท่านก็ยังใช้ร่างกายท่านเพื่อการสร้างบารมีอยู่น่ะครับ
เหมือนกับเราๆท่านๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยกายนี้อยู่ เพื่อทำงานให้สำเร็จ
กายนี้จึงเป็นกายที่สำคัญมากน่ะครับ
ดังนั้น การบริหารขันธ์ไม่ว่าจะกระโดดโลดเต้น หรือแบบช้าๆผ่อนคลาย
ถ้าทำแล้วสร้างเสริมให้กายอยู่นาน อยู่ทน
ผมว่า..ทำไปเหอะครับ ไม่คิดลึกน่ะ
เหมือนกับเราๆท่านๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยกายนี้อยู่ เพื่อทำงานให้สำเร็จ
กายนี้จึงเป็นกายที่สำคัญมากน่ะครับ
ดังนั้น การบริหารขันธ์ไม่ว่าจะกระโดดโลดเต้น หรือแบบช้าๆผ่อนคลาย
ถ้าทำแล้วสร้างเสริมให้กายอยู่นาน อยู่ทน
ผมว่า..ทำไปเหอะครับ ไม่คิดลึกน่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 05 July 2008 - 01:17 PM
ขออนุโมทนาบุญกับทุกความเห็น ปกติงานกายภาพบำบัดที่ทำอยู่ กรณีพระสงฆ์อาพาธที่ท่านต้องทำโปรแกรมทางกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อ ก็จะให้ท่านปั่นจักรยานอยู่กับที่ (เป็นวิธีการรักษาเลยไม่ได้ฉุกคิดอะไร กรณีที่พระแข็งแรงดีก็เลยต้องคิดหน่อย)
ผมได้บทสรุปว่า จะบรรยายกว้าง ๆ ทั้งแนวตะวันตกและตะวันออก แต่ท่าที่ออกกำลังกายจะให้ท่านใช้ท่า "พลังลมปราณ" ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยพลศึกษาแห่งหนึ่งในจีน ในเมืองไทยของเรามีผู้ที่เผยแพร่อยู่คืออาจารย์ศุภกิจ นิมมานนรเทพ อดีตท่านเป็นสารพัดโรค คือ ภูมิแพ้ หอบหืด โรคหัวใจ นึกว่าจะไม่รอด แต่ทุกวันนี้ท่านแข็งแรงดีหลังจากฝึกพลังลมปราณ ซึ่งจะคล้ายโยคะ แต่ทำง่ายและเบากว่าโยคะ ท่านใดสนใจลองค้นที่ google พิมพ์คำว่าพลังลมปราณ จะอยู่หน้าที่สอง ที่มีชื่อ อ.ศุภกิจ นิมมานนรเทพ ลองอ่านดูนะครับ ชีวิตท่านก็น่าศึกษา เป็นผู้ใจบุญใฝ่กุศลอยู่ไม่น้อย
อนุโมทนาบุญครับ
ผมได้บทสรุปว่า จะบรรยายกว้าง ๆ ทั้งแนวตะวันตกและตะวันออก แต่ท่าที่ออกกำลังกายจะให้ท่านใช้ท่า "พลังลมปราณ" ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยพลศึกษาแห่งหนึ่งในจีน ในเมืองไทยของเรามีผู้ที่เผยแพร่อยู่คืออาจารย์ศุภกิจ นิมมานนรเทพ อดีตท่านเป็นสารพัดโรค คือ ภูมิแพ้ หอบหืด โรคหัวใจ นึกว่าจะไม่รอด แต่ทุกวันนี้ท่านแข็งแรงดีหลังจากฝึกพลังลมปราณ ซึ่งจะคล้ายโยคะ แต่ทำง่ายและเบากว่าโยคะ ท่านใดสนใจลองค้นที่ google พิมพ์คำว่าพลังลมปราณ จะอยู่หน้าที่สอง ที่มีชื่อ อ.ศุภกิจ นิมมานนรเทพ ลองอ่านดูนะครับ ชีวิตท่านก็น่าศึกษา เป็นผู้ใจบุญใฝ่กุศลอยู่ไม่น้อย
อนุโมทนาบุญครับ
#11
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 01:11 PM
โยคะ ครับ ตอนเป็นพระ ผมเคยฝึกเล่นโยคะ ก็จะมีพระพี่เลี้ยงสอนให้ทำเป็นกลุ่มๆ นี้ตอนอบรมธรรมทายาทนะครับ
ส่วนอย่างอื่น กวาดขยะ ล้างจาน ซักผ้า และก็เดินไปเดินมา แต่สังเกตุดูพระวัดเราจะมีกล้ามแทบทุกรูปเลย เพราะมีงานหยาบที่ต้องยกของต่างๆ ปั่นจักรยาน3ล้อขนของ อะไรต่างๆนาๆ ซึ่งก็คิดว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีและมีประโยชน์จริงๆครับ
ส่วนอย่างอื่น กวาดขยะ ล้างจาน ซักผ้า และก็เดินไปเดินมา แต่สังเกตุดูพระวัดเราจะมีกล้ามแทบทุกรูปเลย เพราะมีงานหยาบที่ต้องยกของต่างๆ ปั่นจักรยาน3ล้อขนของ อะไรต่างๆนาๆ ซึ่งก็คิดว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีและมีประโยชน์จริงๆครับ
#12
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 02:45 PM
เมื่อตอนบวชธรรมทายาทก็ออกกำลังโดยการรับบุญครับ แล้วก็โยคะบ้างเพื่อยืดเส้น นั่งมาธิได้นาน ส่วนบางรูปท่านนั่งทำงานตลอดก็คงต้องแบบตะวันตกบ้าง แต่ต้องเหมาะแก่สมณะ ต้องลับหูลับตา ดังนั้นเขตสังฆาวาสจึงมักห้ามบุคคลภายนอกเข้า