การบวชในโครงการธรรมทายาทมีอานิสงฆ์มาก เพราะถูกแหล่งของต้นวิชชา ได้บุญมากเลย
เห็นพระแล้วรึยัง
#1
โพสต์เมื่อ 25 May 2015 - 11:11 AM
#2
โพสต์เมื่อ 25 May 2015 - 06:23 PM
ตอนนี้หลายๆ วัด หลายๆ สำนักปฏิบัติธรรมเริ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกมากขึ้น
จากที่รอให้ผู้มีศรัทธามาบวชเรียน ก็เริ่มจัดโครงการอบรมพระพุทธศาสนาต่างๆ ไปจนถึงจัดบรรพชาอุปสมบทหมู่แบบมีหลักสูตรแน่นอนไว้รองรับผู้ต้องการเรียนรู้
เมื่อมีโครงการที่แน่นอน ผู้อบรม ผู้บวชก็จะได้รับประโยชน์เต็มที่ ดีกว่ามาบวช ๕ วัน ๗ วันเยอะครับ
และผู้เข้าอบรมทุกวัด ทุกสำนักปฏิบัติธรรมก็ได้รับประสบการณ์ภายใน ความสงบภายในกันตามสมควร ซึ่งเป็นข้อยืนยันได้ว่า ผลการปฏิบัติธรรมมีจริง ผลการปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะมีจริตอย่างไรก็เป็นของจริงทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น เข้าพรรษานี้ ใครได้ช่อง ได้โอกาศ ขอเรียนเชิญเลยนะครับ ไม่ต้องมาถึงวัดพระธรรมกายก็ได้ ลองติดต่อวัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมใกล้บ้านดูก่อน ขอหลักสูตรมาศึกษา ถ้าถูกจริตกับตัวเอง ก็ลุยเลยครับ
พ่อแม่หลายๆ ท่าน มาเปรยให้ผมฟังเสมอๆ ว่า ตอนนี้ก่อนตาย ขออีกแค่อย่างเดียวจากลูก คือ เห็นชายผ้าเหลืองของลูกสักพรรษาเถอะ ขอเห็นตอนเป็นๆ นี้ด้วย
โครงการบวชพระ อุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อน ปี พ.ศ.2558
http://www.dmc.tv/pa...อน-ปี-2558.html
#3
โพสต์เมื่อ 03 June 2015 - 05:34 PM
สาธุค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
#4
โพสต์เมื่อ 04 June 2015 - 02:44 PM
Anumotanaboon sadhu with all gentlemen who got ordained in all schemes ka.
#5
โพสต์เมื่อ 05 June 2015 - 06:56 AM
สาธุค่ะ ใครได้บวชขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 14 July 2015 - 11:00 AM
ครับ หลวงพ่อเองก็งานยุ่งมากเลยน่ะครับ และ ก็อยากเห็นลูกปฎิบัติธรรมกันให้มากๆน่ะครับ ไม่ใช่เพื่อหลวงพ่อครับแต่เป็นเพื่อนผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับหมู่คณะเราในอนาคตน่ะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 14 July 2015 - 03:05 PM
ขอกราบอนุโมทนาบุญกับผู้มีบุญทุกๆท่าน ที่ได้มีโอกาศมาบวชโครงการบวชพระอุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อน ในปี 2558
ในครั้งนี้ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#8
โพสต์เมื่อ 14 July 2015 - 07:01 PM
Reviewed merit of offering bathrobe jiwon and lights to rain retreat monks. sadhu sadhu sadhu ka.
#9
โพสต์เมื่อ 26 August 2015 - 11:11 AM
การบวชเรียนเป็นประเพณีของไทยตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างชาติเลยก็ว่าได้ ก่อนหน้านั้นตั้งแต่สมัยทวารวดี คือก่อนที่จะกำเนิดเป็นประเทศไทยนั้นดินแดนบ้านเราก็เป็นเมืองพุทธและนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเคารพ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ตลอดมาเลย และได้รับอิทธิพลของการบวชมาจนปัจจุบันตั้งแต่สมัยสมเด็จพระบรมโฆษาจารย์ที่รจนาคัมถีร์วิสุทธิมรรค ปัจจุบันก็ยังมีการบวชเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของครูบาอาจารย์ในอดีตเสมอมา นับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีผลต่อจิตใจเราผู้เป็นเสมือนลูกหลาน และ เหลนของท่านน่ะครับ การบวชนั้นมีอานิสงฆ์มากคือจะได้อยู่ในเส้นทางบุญุถึง หกสิบสี่กับป์น่ะครับ ก็นับว่ามากทีเดียวนะครับ
และผู้ที่มีส่วนร่วมในการบวชหรือ ผู้อนุโมทนาก็จะได้รับอานิสงฆ์ถึง สามสิบสองกับป์เลยนะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 26 August 2015 - 11:56 AM
พระพุทธศาสนาเริ่มมีหลักฐานปรากฏว่าเข้าสู่ดินแดนสุวรรณภูมิในปี พ.ศ. 236 จากการส่งพระธรรมทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช ตอนนั้นยังเป็นดินแดนที่ประกอบด้วย 7-8 อาณาจักร ศูนย์กลางของแต่ละอาณาจักรก็รับเอาพระพุทธศาสนาเข้ามา จากนั้นก็ผสมปนเปเข้ากับวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อดั้งเดิมที่มีอยู่ก่อน
ใจกลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคแรกๆ ยังเป็นที่ถกหาข้อสรุปกันอยู่ว่าจะเป็น บริเวณจังหวัดนครปฐมของไทย หรือ เมืองสะเทิม ทางภาคใต้ของพม่า แต่ไม่ว่าจะเริ่มตรงไหน พระพุทธศาสนาก็ได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาถึงทุกวันนี้ทั้งในประเทศไทย และประเทศพม่า ซึ่งเราควรกราบแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของทั้งไทย และพม่าเอาไว้ให้มาก ที่ช่วยกันรักษาพระศาสนาให้รุ่งเรือง เจริญจนมาถึงมือพวกเราได้
ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราแล้วครับ อนาคตของพระพุทธศาสนาอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว มาร่วมกันศึกษาพระศาสนาในทุกๆ ทางไว้ให้มากครับ จะรัก จะศรัทธาหรือไม่ เราไม่ว่า ขอแค่ศึกษาให้ครบถ้วน ศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ ก็ถือว่าที่สุดแล้วครับ
...........................................................................................................................................................................
วิสุทธิมรรค ปกรณ์พิเศษอธิบายศีล สมาธิ ปัญญา พระพุทธโฆษาจารย์ พระอรรถกถาจารย์ชาวอินเดียเป็นผู้แต่งที่มหาวิหารในเกาะลังกา;
พระพุทธโฆษาจารย์ผู้นี้เป็นบุตรพราหมณ์ เกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้พุทธคยา อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในแคว้นมคธ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๙๕๖ เรียนจบไตรเพทมีความเชี่ยวชาญมาก
ต่อมาพบกับพระเรวตเถระ ได้โต้ตอบปัญหากัน สู้พระเรวตเถระไม่ได้ จึงขอบวชเพื่อเรียนพุทธวจนะ มีความสามารถมาก ได้รจนาคัมภีร์ญาโณทัย เป็นต้น พระเรวตเถระจึงแนะนำให้ไปเกาะลังกา เพื่อแปลอรรถกถาสิงหฬ กลับเป็นภาษามคธ ท่านเดินทางไปที่มหาวิหาร เกาะลังกา เมื่อขออนุญาตแปลคัมภีร์ ถูกพระเถระแห่งมหาวิหารให้คาถามา ๒ บท เพื่อแต่งทดสอบความรู้
พระพุทธโฆษาจารย์จึงแต่งคำอธิบายคาถาทั้งสองนั้นขึ้นเป็นคัมภีร์วิสุทธิมรรค จากนั้นก็ได้รับอนุญาตให้ทำงาน แปลอรรถกถาได้ตามประสงค์ เมื่อทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ท่านก็เดินทางกลับสู่ชมพูทวีป
พระพุทธโฆษาจารย์เป็นพระอรรถกถาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด มีผลงานมากที่สุด