ไปที่เนื้อหา


crystal.mind

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 Nov 2005
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Aug 16 2014 01:10 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

บุญส่งผล "อนันต์ อัศวโภคิน คว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย"

15 December 2008 - 06:06 PM

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.-วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2551 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 0.5 ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2551 จำนวน 5,095 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 397,901 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ถึง 78,285 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 16.44

สำหรับผลการจัดอันดับ ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นประจำปี 2551 ได้แก่
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) สร้างสถิติใหม่ด้วยการรักษาตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 6 โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 14,657.45 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร้อยละ 23.98 มูลค่า 14,633.23 ล้านบาท และ บมจ.แมนดารินโฮเต็ลร้อยละ 1.67 มูลค่า 4.21 ล้านบาท

อันดับ 2 ยังเป็นของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้บริหารบ มจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ซึ่งครองตำแหน่งติดต่อกัน 3 ปี โดยปีนี้ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 9,599.16 ล้านบาท จากการถือหุ้นพฤกษาฯในสัดส่วนร้อยละ 61.85 ลดลง 1,554.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.94 เนื่องจากราคาหุ้นพฤกษาฯลดลงร้อยละ 13.93

อันดับ 3 นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ร้อยละ 13.55 และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช ร้อยละ 0.79 รวมมูลค่า 5,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,167.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.60 เศรษฐีหุ้น

อันดับ 4 ได้แก่ นายประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารบีอีซีเวิลด์ถือหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ร้อยละ 11.42 มูลค่ารวม 4,864.92 ล้านบาท ลดลง 433.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.19

อันดับ 5 ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ผู้บริหารโอสถสภา รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 4,372.48 ล้านบาท ลดลง 901.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.10

ส่วนตระกูลมาลีนนท์ครองอันดับ 1 ของตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยได้อีกครั้งในปีนี้ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 24,426.93 ล้านบาท ลดลง 2,045.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.73 ซึ่งหุ้นที่ตระกูลมาลีนนท์ถือครอง ได้แก่ ถือหุ้น บมจ.บีอีซี เวิล์ด บมจ.ศิครินทร์ บมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์และบมจ.ไอที ซิตี้

ส่วนตระกูลอัศวโภคิน ยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้อีกปีหนึ่ง จากการถือหุ้นของธุรกิจในตระกูล ได้แก่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ และ บมจ.เอพี พร๊อพเพอร์ตี้ รวมมูลค่าหุ้นที่ตระกูลอัศวโภคินถือครองทั้งสิ้น 17,684.70 ล้านบาท ลดลง 156.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.88

อันดับ 3 เป็นของตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแบรนด์ "พฤกษา" รวมมูลค่า 11,409.66 ล้านบาท ลดลง 1,848.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.94

ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ถือหุ้นรวมมูลค่า 10,916.73 ล้านบาท ลดลง 5,174.62 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.16

และอันดับ 5 เป็นของตระกูลปราสาททองโอสถ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 6,624.74 ล้านบาท ลดลง 1,192.89 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.26

ส่วนตระกูลชินวัตรของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ตกลงมาหนึ่งอันดับจากอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 48 ในปีนี้ โดยมูลค่าหุ้นลดลงเหลือ 1,369.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.98



ไปอร่อยกับร้าน "อดีตเจ้โหด" มาแล้ว...หร่อยจังฮู้

09 December 2008 - 02:00 PM



หลายวันก่อน...

เพื่อนๆๆ ชวนกัน ไปทำบุญ แล้ว นั่งสมาธิ ที่วัดปากน้ำ เอาบุญสารพัดเสร็จ

พวกเราก็ อิ่มบุญ กันถ้วนหน้า แต่ท้องร้องจ๊อกๆๆ กัน

จึงมีเจ้าถิ่นแนะนำ ร้านแซ่บ (ที่เราเห็นในเพลง ตอน รร.เลิก -- )

ก็เลยยกโขยงไป"อิ่มท้อง" ที่ร้าน คุณสวาท กัน biggrin.gif


ขอบอก "อร่อยๆๆๆ มั่กๆๆๆๆ "


แนะนำเส้นทางนะคะ สำหรับคนอยากไป nerd_smile.gif

ร้านอยู่ ริมทางรถไฟ สถานีตลาดพลู (ขอเน้นว่า "ริม"จริงๆ คือ อีก 2 ก้าว ถึงไม้หมอน ได้เลยอ่ะ)

ไปไม่ยากเลย

จอดรถ บริเวณ รอบๆ ใต้สะพานลอยยกระดับ (ที่ลอยไปลง เดอะมอลล์ท่าพระได้)


สุดท้ายนี้ ขอชม คนเลือกตัวแสดง มากๆ เลยค่ะ dry.gif

เพราะพระเอกของคุณสวาท ตัวจริงน่ะ "หน้า ยิ้มๆๆ อยู่ตลอดเวลา เหมือนพระเอกในละครเลย - ท่าทางใจดี ชะมัด (คนสวาม ตัวจริง ก็น่ารัก ค่ะ "

สุนัข เสี่ยงชีวิตฝ่าFreeWAy ไปช่วยเพื่อนที่บาดเจ็บ

09 December 2008 - 01:42 PM

รายงานข่าวแจ้งว่า

หลังจากข่าวนี้ออกอากาศไป ก็มีผู้ยากได้เจ้าสุนัข (ผู้กล้าหาญ) ไปเลี้ยง

แต่ จนท. แจ้งว่า เจ้าฮีโร่ สี่ขา เมื่อเห็น คนมา ก็วิ่งหนีหายไปไหน ก็ไม่ทราบซะแล้ว....แป่วววว



ดู คลิ๊บ ที่ลิงก์นี้ค่ะ


** อยากได้แผนผังจอดรถ พรุ่งนี้ ***

09 October 2008 - 11:52 AM

คือว่า ชวนคนมาวัด ค่ะ

แต่ หลายคนยังไม่เคยมา กลัวหาที่จอดไม่เจอ จะหนี กลับ ซะ (ใจขุ่น )

แต่เมื่อวานดูDMC น้องปาหนัน อธิบายผังจอดรถ แล้วอยากได้แผนผัง น่ะค่ะ

ใครมี ช่วยหน่อยนะคะ จะเป็นประโยชน์มากเลย จะรอไปเอาที่วัดวันงาน จะช้าไป


อ้อ เบอร์สอบถาม ผุ้นำรถทั้วประเทศ เมื่อวานแจ้งว่าเป็น 02-831 11234

แต่ถ้าไม่สบายในวัด โทรแจ้ง 02-831-0277

รวบรวม "คุณวิเศษ" ของหลวงปู่ เพื่อบูชา

19 September 2008 - 12:36 PM

อภินิหารหลวงพ่อวัดปากน้ำ

ยิ่งกว่าตาเห็น

หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) มีวาทะตรงกับใจ
เมื่อจะพูดอะไรก็พูดโดยไม่สะทกสะท้านและไม่กลัวคำติเตียนด้วย เช่นครั้งหนึ่ง อาตมา(สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ปุ่น ปุณฺณสิริ) เองนี้ได้มาฉันเพลที่วัดปากน้ำ วันนั้นมีประชาชนมาก ร่วมใจบริจาคทานแก่ภิกษุสามเณรทั้งวัดเป็นกรณีพิเศษ

เมื่อทายกประเคนอาหารเรียบร้อยแล้ว มีพ่อค้าตลาดสำเพ็ง ผู้มั่งคั่งคนหนึ่งไปกราบและถมหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ว่า
“หลวงพ่อขอรับวันนี้จะมีผู้บริจาคสร้างกุฏิเพื่อเจริญพระกัมมัฏฐานบ้างไหม”

ชาวบ้านไม่น้อยกว่า 20 คน ที่นั่งใกล้ ๆ
ได้ยินคำถามนั้นคิดว่าคงตั้งใจฟังคำตอบของหลวงพ่อต่างทอดสายตามามองหลวงพ่อเพื่อฟังคำตอบ

เวลานั้นอาตมามีทั้งโกรธผู้ถาม ทั้งหนักใจแทนหลวงพ่อ และได้มองดูหน้าผู้ตอบ

หลวงพ่อมีดวงหน้ายิ้มแย้งแจ่มใส หลับตาสัก 5 นาที ครั้นแล้วตอบทันทีว่า “มี”
ผู้ถามได้ถามย้ำต่อไปว่ากี่หลัง หลวงพ่อวัดปากน้ำตอบว่า 2-3 หลัง และย้ำอีกว่าต้องได้แน่

เวลานั้นอาตมาฉันภัตตาหารไม่มีรส โกรธผู้ถามว่าช่างไม่มีอัธยาศัย คำถามเช่นนั้นเท่ากับเอาโคลนมาสาดรดหลวงพ่อ
เมื่อต้องการทราบ ควรถามเฉพาะสองต่อสอง และโกรธหลวงพ่อว่า ช่างไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
คิดว่าทำไมนะหลวงพ่อจึงไม่พูดว่า เวลานี้ยังไม่เป็นโอกาสที่จะพยากรณ์คำถามนั้น

ที่ตอบออกไปว่าจะมีผู้บริจาค 2-3 หลังนั้น หมิ่นต่ออันตรายมากนัก อาจเป็นคำพูดที่ฆ่าตนเองด้วยดาบของตนฆ่าตนเอง
เวลานั้นก็เอาใจช่วยหลวงพ่อขอให้มีผู้บริจาคจริง ๆ เถิด เสร็จการฉันของหวานแล้ว

คำพยากรณ์ของหลวงพ่อก็ยังไม่ปรากฏเป็นความจริงขึ้น อาตมานั่งอยู่ด้วยความอึดอัดใจ นึกตำหนิท่านว่าไม่รอบครอบ
พอได้เวลาอนุโมทนา มีคณะอุบาสกอุบาสิกากลุ่มหนึ่งเข้ามากราบหลวงพ่อ
บอกว่าศรัทธาจะสร้างกุฏิเล็ก ๆ อย่างที่หลวงพ่อสร้างไว้แล้วสัก 2-3 หลัง
ประมาณราคา 3-4 ร้อยบาทต่อหนึ่งหลังขอให้หลวงพ่อช่วยจัดการให้ด้วย

ตอนนี้หลวงพ่อไม่หัวเราะ ยิ้มน้อย ๆ พอสมควรแก่กาละ ครั้นแล้วหลวงพ่อเรียกตัวผู้ถามมาบอกว่า
“ได้แล้วกุฏิกัมมัฏฐาน 3 หลัง เจ้าของนั่งอยู่นี่”
แล้วท่านชี้มือไปยังเจ้าภาพผู้บริจาค
ผู้ถามได้กระโดยเข้าไปกราบที่ตักหลวงพ่อพูดว่า “ยิ่งกว่าตาเห็น”

อาตมาดีใจจนเหงื่อตก ที่ความจริงมากู้เกียรติของหลวงพ่อไว้ได้ เกรงจะเป็นลูกไม้
จึงหาโอกาสสนทนากับผู้บริจาคว่า นัดกับหลวงพ่อวัดปากน้ำไว้หรือว่าจะสร้างกุฏิถวาย ได้รับคำตอบว่า
พึ่งคิดเมื่อมาทำบุญวันนี้เอง เดินมาเห็นกุฏิเล็ก ๆ สวยดีอยากจะสร้างบ้าง แต่ทุนไม่พอ
จึงปรึกษากับพวกพ้องที่บังเอิญมาพบกันวันนี้เห็นดีร่วมกัน

จึงได้มอบเงินแก่หลวงพ่อให้จัดการสร้างต่อไป นี่เป็นเรื่องก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมหลายสิบปีมาแล้ว


สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
(ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

******************

มะรืนนี้พ่อเอ็งก็จะมา

เมื่อข้าพเจ้า (คุณครูตรีธา เนียมขำ) มีอายุประมาณ 15-16 คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่พี่น้องมากอยากขออนุญาตหลวงพ่อขอกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่หลวงพ่อท่าน ไม่ให้ไป
ท่านบอกว่า “มะรืนนี้พ่อเอ็งก็จะมา”

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ คิดว่าหลวงพ่อท่านต้องหลอกข้าพเจ้าแน่ ๆ จึงย้อนถามท่านเพื่อความแน่ใจ
ว่าหลวงพ่อพูดเอาเองหรือพ่อข้าพเจ้าได้กราบเรียนท่านไว้แล้ว
“พ่อบอกหลวงพ่อไว้หรือเจ้าคะว่าพ่อจะมามะรืนนี้”

หลวงพ่อท่านตอบว่า “พ่อเอ็งไม่ได้บอกหรอก แต่เอ็งคอยดูซีน่า มะรืนนี้พ่อเอ็งต้องมา”

ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กยังไม่มีความคิด ข้าพเจ้าก็คิดว่าถ้ามะรืนนี้พ่อไม่มาจะต้องต่อว่าหลวงพ่อ

แต่พอถึงวันนั้น พ่อข้าพเจ้าก็มาเยี่ยมจริง ๆ ข้าพเจ้ารีบถามพ่อว่า

“พ่อได้บอกหลวงพ่อไว้หรือเปล่าว่าพ่อจะมาในวันนี้”
พ่อข้าพเจ้าตอบว่า “เปล่า”


คุณครูตรีธา เนียมขำ

********************

มีแม่ชีที่อยู่วัดปากน้ำคนหนึ่ง ลูกชายจะไปฆ่าเขา หลวงพ่อรู้ว่า ถ้าคนนี้เราไม่โปรด
มันจะติดคุกติดตะราง ตกนรกหมกไหม้

หลวงพ่อวัดปากน้ำเรียกแม่ชีคนนี้มา แล้วบอกว่า
“ลูกเอ็งจะแจวเรือผ่านมานะ ผ่านมา…เอ็งเรียกขึ้นมาหาหลวงพ่อหน่อย”

แม่ชีก็นั่งคอย ลูกผ่านมาจริง ๆ ก็เลยเรียกลูกว่า “ลูก…เอ็งผ่านมา หลวงพ่อท่านสั่งไว้ให้ขึ้นไปหาหน่อย หลวงพ่อท่านบอกว่าไอ้ที่คิดไว้เลิกล้มเสียนะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การฆ่าเป็นบาปติดไปหลายชาติ จะตกนรกหมกไหม้”

มันบอกว่าหลวงพ่อทำไมรู้ มันเตรียมปืนใส่ท้องเรือไว้แล้ว มันโกงไร่ โกงนา โกงสวน เอาไว้ไม่ได้

แต่พอหลวงพ่อทัก ต้องเลิกล้มเลย ถ้าหลวงพ่อไม่โปรด มันต้องติดคุกติดตะราง


พระครูภาวนากิตติคุณ
วัดเกษมจิตตาราม
จ.อุตรดิตถ์


****************

ตาทิพย์…เห็นพระพุทธรูปใต้ดิน

อาตมา (พระครูปรีชาปริยัติกิจ พระมหาเฉลียว กัลยาโน) อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

แต่เดิมมีหลวงพ่อองค์หนึ่ง ชื่อหลวงพ่อโพธิ์ (ปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว อายุ 90 กว่า ๆ)

ท่านเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หลวงพ่อโพธิ์ท่านเคยเจอหลวงพ่อสด(วัดปากน้ำ) ตอนมาสอนภาวนาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ช่วงแรกที่หลวงพ่อสดมา ท่านเห็นเด็กเอาวัวมาเลี้ยงที่บริเวณวัด ซึ่งใต้พื้นดินนั้น หลวงพ่อสดเห็นมีพระพุทธรูปอยู่ จึงบอกเด็ก ๆ ว่า

“อย่าเอาวัวไปเลี้ยงตรงนั้น เพราะมีพระพุทธรูปอยู่เดี๋ยวจะเป็นบาป”

คนแถวนั้นไม่เชื่อ พอขุดลงไปเจอพระพุทธรูปจริง ๆ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อสดเป็นอันมาก

ช่วงที่กำลังมีสงคราม เวลามีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดก็จะเห็นเครื่องบิน บินอยู่เต็มท้องฟ้า

ผู้คนหลบมาพึ่งบารมีของหลวงพ่อเต็มวัดปากน้ำ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน คนจะหลบภัยกันมาก หลวงพ่อบอกว่า

“ระเบิดไม่ลงหรอกที่นี่ ไม่ทิ้งหรอก ระเบิดจะไปทิ้งที่ฝั่งพระนคร”

มี 2 ครั้ง ที่ระเบิดสะเทือนมาถึงวัดปากน้ำ คืนตอนที่เครื่องบินทิ้งระเบิดที่วัดประยูร
และทิ้งแถวตลาดพลู แต่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ไม่มีอะไรเสียหาย


พระครูปรีชาปริยัติกิจ
พระมหาเฉลียว กัลยาโณ ป.ธ.4


********************************
ป้าฉลวย สมบัติสุข

หลวงพ่อท่านบอกว่าต้องการช่วยคนให้พ้นทุกข์ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำจะว่าใจดีก็ใจดี จะว่าดุก็ดุและท่านเป็นคนตรง ถ้าเห็นว่าเป็นอย่างนี้ก็ต้องเป็นอย่างนี้ ขนาดสมเด็จวัดโพธิ์เป็นหลานของท่าน ท่านบอก "เฮ้ย ของเรามันถูกอยู่แล้วแน่นอนอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร"

อย่างท่านบอกว่าสมเด็จวัดโพธิ์จะได้เป็นสังฆราช ไม่น่าเชื่อไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นจริง เพราะว่าคนที่รอจะขึ้นเป็นสังฆราชมีอยู่อีกองค์คือพระพิมลธรรม วัดมหาธาตุ ถ้าสังฆราชองค์เก่าสิ้น พระวัดมหาธาตุต้องได้ขึ้นแน่นอนแต่พอดีมีเรื่องเกิดขึ้น ก็มาเป็นวัดโพธิ์ ท่านจะพูดเฉพาะเรื่องที่จำเป็น คิดไม่ถึง ถึงเวลาจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้

สมัยตอนหลวงพ่อมาอยู่วัดปากน้ำแรกๆ หลวงพ่อมาอยู้ท่านก็ทำตามความถูกต้อง ไม่มีอะไรกับใคร แต่คนที่มาอยู่รุ่นเก่า ที่เขาอยู่แถวนั้นก็มีบารมีเป็นที่นับถือ อาจจะไม่ชอบใจ เวลาหลวงพ่อท่านทำอะไรลงไปก็จะเป็นข่าวโจมตี แต่ยิ่งว่าไม่ดียิ่งดัง ของเรามันดีอยู่แล้วไม่ได้ไปทำความเสียหายอะไร คล้ายๆ กลองยิ่งตีมันยิ่งดัง แทนที่คนเขาว่าจะทำให้เสื่อมเสียหาย แต่กลับเป็นตรงกันข้าม


********************************


แม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย

วิชชาในโรงงาน หลวงพ่อจะเป็นคนสั่งวิชชา พูดผ่านฝากระดานที่กั้นไว้ ชีแถบหนึ่ง พระอยู่อีกแถบหนึ่ง มีที่กั้นแยกกันชัดเจน หลวงพ่อสอนทุกๆ คนเหมือนกัน ไม่มีใครพิเศษกว่าใคร
มีครั้งหนึ่งตอนท่านป่วยหนักเป็นปีที่ ๑๓ ที่ฉันมาอยู่กับหลวงพ่อ วันนั้นท่านให้คนมาเรียก ท่านถามว่า
"เอ้าสั่นหายหรือยัง" สั่นก็คือไม่สบาย
ฉันก็ตอบว่าค่อยยังชั่วแล้ว ท่านบอกว่า
"ทำวิชชาไว้นะ ทำได้เป็นของเรา ถ้าเราไม่ทำ เราจะไม่ได้" สั่งคำนี้

ท่านสั่งไว้ ชีวิตจิตใจของหลวงพ่อไม่มีอะไรมากไปกว่าวิชชา ๒๔ ชั่วโมง หลวงพ่อไม่เคยห่าง ทำวิชชาตลอด หลวงพ่อจะทดลองวิชชาอยู่เรื่อย มีครั้งหนึ่งมีญาติโยมมานั่งกันเต็ม ช่วงกลางคืน คืนนั้นดาวเต็มท้องฟ้า ท่านก็ให้เณรที่อยู่ใกล้ๆ ท่าน(หลวงพ่อเล็ก) ดับดาวบนท้องฟ้า จะเห็นดาวดับเป็นแถบๆ เลย เพื่อให้รู้ว่าวิชชาธรรมกายสามารถทำได้ ไม่ใช่เพื่อเหตุผลอย่างอื่น


****************************************


ลุงประคอง ทับจ้อย

วิชชาของหลวงพ่อวัดปากน้ำนี่ท่านดีจริง ถ้าวิชชาของหลวงพ่อไม่แน่ ตอนนี้วัดปากน้ำเหลือแต่ดุ้นฟืน เพราะตามหลักจริงๆ แล้ววัดปากน้ำเป็นจุดระเบิด ที่ระเบิดลงเลยแหละ ธรรมดาตามหลักประตูน้ำ บางคลองนี้ไม่มีเหลือ ตั้งแต่ประตูน้ำบางนกแสก ประตูน้ำอ่างทอง ประตูบางยาง เหลือแต่ประตูน้ำภาษีเจริญที่ไม่เป็นอะไรเลย ไปถามเลยวัดวาอารามอยู่ที่ไหนไม่มีเหลือ ถูกทิ้งระเบิดหมดเลย ช่วงนั้นหลวงพ่ออยู่ในโบสถ์ ไม่ออกจากโบสถ์เลย นั่งทำวิชชาของท่านอย่างเดียว นั่งปัดลูกระเบิดอย่างเดียว แล้วบางคนก็จะวิ่งมาอยู่ที่วัดปากน้ำ เพราะมั่นใจว่ายังไงก็ปลอดภัยที่สุด สงครามเกิดขึ้นปี ๒๔๘๕ (สงครามโลกครั้งที่ ๒)



************************************


พระอาจารย์สุวิชา เปสโล คณะเนกขัมม์ วัดปากน้ำ

หลวงพ่อมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ สมัยนั้นพระเณรหลวงพ่อไม่ให้มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่ให้จับเงิน จับทอง แต่ก่อนพระเณรที่มาอยู่กับหลวงพ่อให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร หลวงพ่อมีโรงครัวเลี้ยง มีพระจบเปรียญกันมากมายจากวัดปากน้ำ หลวงพ่อสด ท่านสอนว่าใครจะโจมตีเรายังไงก็แล้วแต่ ท่านให้เราเป็นเสาหิน เรียกว่าจะมีพายุทั้ง ๔ ด้านมาเราก็เฉย

มีครั้งหนึ่งมีคนมาด่าหลวงพ่อที่หน้าโบสถ์ ขณะหลวงพ่อกำลังเทศน์อยู่ หรือมีคนเอาปืนมาลอบยิงท่าน ท่านก็ไม่ว่าอะไร อยากจะทำก็ทำไป เพราะเขาอิจฉาหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านบอกว่า เราหยุด หยุดเป็นพระ ชนะเป็นมาร เราไม่หนี เราไม่สู้ แต่เราปฏิบัติ เราก็ทำความดีของเราเรื่อย เดี๋ยวไอ้พวกมาร พวกอิจฉาก็หายไปเอง เรานั่งเฉย ไม่ต้องไปโต้ตอบอะไร เขาด่าเราภายใน ๗ วัน เหนื่อยมันก็หยุดไปเอง ไม่โต้ตอบ ชนะด้วยความดี

ในการมาเรียนพระปริยัติธรรม แต่ก่อนมีพระเณรมาเรียนกันมาก มีถึง ๖๐๐ กว่าองค์ หลวงพ่อบอกว่าเลี้ยงไหว ท่านบอกว่าเมื่อจั้งใจมาเรียนแล้ว แม้จะคับที่ก็ขอให้อยู่ได้ อัศจรรย์อย่างหนึ่ง คือหลวงพ่อเลี้ยงอาหารไหวตลอด เดี๋ยวก็มีคนเอาข้าว เอาอะไรต่ออะไรมาถวายทีหนึ่งก็เป็นลำเรือ



**********************************


คุณครูตรีธา เนียมขำ

การเผยแผ่วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อในสมัยก่อนนั้น ท่านถูกคัดค้านต่อต้านมากมายเพราะในสมัยนั้นไม่มีผู้ใดสั่งสอนการปฏิบัติแบบนี้ การส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์ก็เน้นในก้านปริยัติเพียงด้านเดียว พระที่สนใจการปฏิบัติก็มักจะหลีกเร้นไปแสวงหาที่สงบสงัดเพื่อบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาลำเนาไพร หลวงพ่อของเราจึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกที่กล้าสอยการปฏิบัติธรรมอย่างเปิดเผย ท่านจึงเป็นที่เพ่งเล็งและเป็นเป้าให้คนโจมตี ผู้ที่คัดค้านการปฏิบัติของท่านนั้นมีทั้งฆราวาสและพระภิกษุ แต่หลวงพ่อท่านก็มิได้ครั่นคร้าม หรือย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ท่านยึดถือพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างและเดินตามรอยบาทของพระพุทธองค์อย่างไม่ย่อท้อ ท่านจึงพยายามฟันฝ่าอุปสรรคอย่างองอาจกล้าหาญ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รู้แจ้งในหลักการของพระพุทธศาสนา ท่านต้องการเชิดชูธงธรรมกายของท่านให้ปลิวไสวไปทั่วทุกพื้นปฐพีหลวงพ่อท่านมีคติพจน์ของท่านว่า

"ดอกไม้ที่หอมไม่ต้องเอาน้ำหอมมาพรมก็หอมเอง ใครจะห้ามไม่ได้ ซากศพไม่ต้องเอาของเหม็นมาละเลงใส่ซากศพก็ต้องแสดงกลิ่นศพให้ปรากฏ ปิดกันไม่ได้"



**************************************