Jump to content


Photo
- - - - - 1 votes

2549-04-17: ตามกำลังบุญ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
4 replies to this topic

#1 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 posts
  • Location:Patumthanee

Posted 18 April 2006 - 01:30 AM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2549


เจ้าของเคสเป็นนักเรียนอนุบาลพันธ์แท้ มีอาชีพเป็นหมอ แต่ก็เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม และพระพุทธศาสนา ตอของเจ้าของเคสปัจจุบันอายุ 84 ปี สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน แตเมื่อปีที่ผ่านมาตอของเจ้าของเคสมีอาการสมองฝ่อ จำอะไรไม่ได้ ครั้งหนึ่งที่เจ้าของเคสไปเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งเจ้าของเคสได้เปิด DMC ให้ดู พอถึงช่วงนั่งสมาธิซึ่งมีณุปองค์พระขึ้นมาที่หน้าจอ เจ้าของเคสก็บอกให้ตาของเจ้าของเคสนั่งหลับตา และนึกถึงองค์พระ สักครู่จึงได้ถามว่าเห็นองค์พระหรือไม่ สว่างหรือเปล่า ซึ่งตาของเจ้าของเคสก็ตอบว่าเห็น และยังบอกอีกว่าพูดไม่ได้ เค้าไม่ให้พูด ซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่เข้าใจว่าใครกันที่ห้ามไม่ให้ตาของเจ้าของเคสพูด

ยายของเจ้าของเคสจะปฏิเสธทุกครั้งที่เจ้าของเคสพยายามชักชวนให้นั่งสมาธิ โดยจะบอกว่านั่งไม่ได้ แม้เจ้าของเคสจะแนะนำยายของเจ้าของเคสว่าท่านสามารถทำสมาธิได้ในทุกๆ อิริยาบถ เพียงแค่ทำใจสบายๆ ไว้ที่กลางท้อง แต่ก็ดูเหมือนยายของเจ้าของเคสจะไม่เชื่อ และทุกครั้งที่เจ้าของเคสชวนท่านทำบุญกับวัดพระธรรมกาย บางครั้งยายของเจ้าของเคสก็จะปฏิเสธไว้ก่อน แต่ก็จะทำบุญด้วยในภายหลัง ปัจจุบันยายของเจ้าของเคสตาบอดหนึ่งข้างเนื่องจากโรคต้อกระจก

ปู่ของเจ้าของเคสมีลูกสองคน พ่อของเจ้าของเคสเป็นคนที่สอง พ่อของเจ้าของเคสจากบ้านมาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้นมัธยม จึงไม่ค่อยจะได้อยู่ที่บ้าน จากนั้นพ่อของเจ้าของเคสก็ได้แต่งงานกับแม่ของเจ้าของเคสและทำงานอยู่ในกรุงเทพ ส่วนลุงของเจ้าของเคสก็ได้แต่งงานมีครอบครัว แต่ก็ยังคงอาศัยอยู่กับปู่ของเจ้าของเคสเหมือนเดิม

ปี 2523 ย่าของเจ้าของเคสก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดด้วยวัย 74 ปี ต่อมาอีก 2 ปีลุงของเจ้าของเคสก็ประสบอุบัติเหตุตกบ่อน้ำ จนจมน้ำตายไปด้วยวัยเพียง 42 ปี ทิ้งให้ป้าของเจ้าของเคสเป็นหม้ายโดยไม่ทันตั้งตัว ป้ายังคงอาศัยในบ้านเดิม ร่วมกับปู่ของ
เจ้าของเคส และลูกของป้าอีก 3 คน

อีก 2 ปีต่อมาซึ่งขณะนั้นปู่และป้าของเจ้าของเคสมีอายุประมาณ 66 และ 40 ปีเศษ แม่ของเจ้าของเคสก็ได้ทราบข่าวว่าปู่ของเจ้าของเคสได้เขียนพินัยกรรมขึ้นมาฉบับหนึ่ง โดยพินัยกรรมดังกล่าวได้ยกมรดกส่วนใหญ่ให้กับลูกทั้งสามคนของป้าของเจ้าของเคส แต่ยกมรดกส่วนน้อยให้พ่อของเจ้าของเคส ทั้งๆ ที่พ่อของเจ้าของเคสเป็นลูกแท้ๆ แม่ของเจ้าของเคสจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้พ่อของเจ้าของเคสฟัง ซึ่งพ่อของเจ้าของเคสก็ยังไม่เชื่อ ในขณะนั้นมีข่าวซุบซิบกันหนาหูในหมู่ญาติ เรื่องความสัมพันธ์ของปู่และป้าของเจ้าของเคส ปู่ของเจ้าของเคสเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในเวลาต่อมาเมื่ออายุได้ 80 ปี หลังจากนั้นก็มีการเปิดพินัยกรรม ซึ่งปู่ของเจ้าของเคสก็ยกสมบัติส่วนใหญ่ให้กับลูกทั้งสามของป้าของเจ้าของเคสจริงๆ พ่อของเจ้าของเคสได้ส่วนแบ่งมาไม่มาก ในขณะเดียวกันพ่อของเจ้าของเคสก็ล้มป่วยด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษอีกด้วย

พี่ชายของเจ้าของเคสเป็นคนเรื่อยๆ สบายๆ เรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งมากว่า 10 ปีแล้วก็ยังไม่จบเสียที พี่ชายของเจ้าของเคสเคยมาอบรมธรรมทายาทรุ่นที่ 26 ที่วดพระธรรมกาย แต่พี่ชายของเจ้าของเคสก็คิดว่าตนเองไม่สามารถรักษาศีลทั้ง 227 ข้อได้ จึงละอายแก่ใจและขอลาสิกขาออกมาในที่สุด

แม่ของเจ้าของเคสพาเจ้าของเคสไปนั่งสมาธิที่วัดปากน้ำตั้งแต่เด็ก จึงมีโอกาสได้ฟังเทปเสียงพระเดชพระคุณหลวงปู่นำนั่งสมาธิ ท่านได้สอนให้บริกรรมนิมิตรเป็นรูปดวงแก้ว และอธิบายฐานที่ตั้งของใจทั้ง 7 ฐาน ซึ่งในขณะนั้นเจ้าของเคสยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องดังหล่าวมากนัก จึงใช้สายตาเค้นหาภาพภายใน จึงทำให้รู้สึกไม่สงบ และไม่ค่อยสบายเท่าใดนัก อีกทั้งยังเกิดความรู้สึกอกุศลขึ้นมาโดยไม่อาจควบคุมจิตได้ ในขณะที่นั่งมองพระพุทธรูปหรือพระเดชพระคุณหลวงปู่

เจ้าของเคสก็ได้แต่ปลอบใจตนเองว่าถูกอกุศลเข้าสิงจิต ถูกมารบังคับบัญชา จากนั้นก็ทำการขออโหสิกรรม เพราะกลัววิบากกรรมจากความคิดอกุศลดังกล่าว ต่อมาเจ้าของเคสได้เข้าเรียนต่อคณะแพทย์ ซึ่งเจ้าของเคสก็มีโอกาสมาสร้างบารมีกับหมู่คณะด้วยการมาเป็นธรรมทายาทหญิง โดยการชักนำของเพื่อนนักเรียนแพทย์ด้วยกัน ในระหว่างนั้นเจ้าของเคสได้รับการดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งจากพระอาจารย์และพี่เลี้ยง ซึ่งทำให้เจ้าของเคสได้มีโอกาสฝึกฝนตนเองทั้งหายและใจอย่างเต็มที่ เจ้าของเคสได้ฝึกลดทิฐิมานะ และฝึกหยุดใจให้ถูกวิธี ทำให้เจ้าของเคสรู้สึกสบาย และมีความสุขที่ศูนย์กลางกายเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้เจ้าของเคสรู้จักเป้าหมายของชีวิตและเป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ เจ้าของเคสจึงได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวถวายพระอาจารย์ ทั้งยังชักชวนญาติพี่น้อง ให้มาร่วมสร้างบุญบารมีอีกมากมาย

ต่อมาขณะเจ้าของเคสเรียนอยู่ชั้นปีที่ 5 เจ้าของเคสพบรักกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนักเรียนแพทย์ด้วยกัน ทำให้เจ้าของเคสห่างเหินการมาวัดไปช่วงหนึ่ง จากนั้นไม่นานเจ้าของเคสก็ได้รับการชักชวนจากเพื่อนที่เคยมาวัดด้วยกันให้ร่วมทำบุญถวายไทยธรรมแก่พระภิกษุ 30,000 ในงานสลายร่างคุณยายอาจารย์ ซึ่งเจ้าของเคสก็ตอบตกลงอย่างไม่รีรอ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าของเคสก็ได้ร่วมสร้างบุญบารมีกับหมู่คณะมาโดยตลอดอีกครั้งหนึ่ง

หลังจบการศึกษาเจ้าของเคสได้ตัดสินใจแต่งงาน โดยมีลูกชาย 2 คน เจ้าของเคสรู้สึกเป็นห่วงลูกชายคนเล็กเนื่องจากขณะที่ตั้งท้องลูกคนที่สองเป็นช่ววงเดียวกับที่เจ้าของเคสกลับไปศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทาง ทำให้ต้องอ่านหนังสือและทำงานหนักมาก แต่เจ้าของเคสก็ยังปลีกเวลามาทำบุญอยู่เสมอ โดยมีโอกาสมาหล่อพระธรรมกายประจำตัวทั้งๆ ที่ท้องได้ 7 เดือน

ต่อมาเจ้าของเคสก็ล้มป่วยด้วยโรคปอดบวมเนื่องจากทำงานหนักและพักผ่านน้อย ดดยอาการป่วยครั้งนี้กระทบไปถึงเด็กในท้อง โดยทำให้คลอดก่อนกำหนด สามีของเจ้าของเคสซึ่งเป็นสูตินารีแพทย์เป็นผู้ผ่าตัดทำคลอดให้ เมื่อคลอดวันแรกเด็กก็มีอาการหอบจนตัวเขียว ต้องส่งเข้าห้องไอซียู โดยแพทย์ตรวจพบว่าเด็กติดเชื้อในปอดอย่างรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิตถึง 90% ทำให้เจ้าของเคสรู้สึกเศร้าเสียใจร้องห่งร้องให้อย่างไม่ได้สติ เมื่อได้สติเจ้าของเคสก็นึกถึงเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร จึงได้โทรศัพท์ไปปรึกษา เพื่อนคนดังกล่าวได้ปลอบใจ และชักชวนให้เจ้าของเคสสร้างองค์พระให้ลูกชายที่เพิ่งคลอด ซึ่งเจ้าของเคสก็ตอบตกลงในทันที แต่ขณะนั้นเจ้าของเคสยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เพื่อนจึงได้ออกเงินทำบุญให้ก่อน ในระหว่างนั้นลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสก็ยังคงอยู่ในห้องไอซียู ต้องเจาะน้ำที่ไขสันหลังไปตรวจ ถูกแทงสายน้ำเหลือทีข้อมือและหน้าผากจนเส้นเลือดแตก ต้องเปลี่ยนวิธีการรักษาโดยให้ยากินแทน ภายหลังการสร้างองค์พระ อาการของลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าอัศจรรย์ โดยปัจจุบันมีอายุเกือบ 10 เดือนแล้ว เป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่งอแง

QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


Q: ตาของเจ้าของเคสมีบุพกรรมอะไรจึงเป็นโรคสมองเสื่อม และตาของเจ้าของเคสเห็นแสงสว่างจริงหรือไม่ และใครเป็นคนบอกไม่ให้ตาของเจ้าของเคสพูด จะมีวิธีใดในการชักชวนคนที่สมองเสื่อมให้นั่งสมาธิ
[attachmentid=3934][attachmentid=3933]

A: ตาของเจ้าของเคสเป็นโรคสมองเสื่อมเพราะวิบากกรรมจากการผิดศีลข้อ 4 จากหลายชาติมารวมกัน เช่นกรรมโกหกบิดามารดา โกหกลูกค้า หลอกเด็กบ้าง
[attachmentid=3935]

ที่ตาของเจ้าของเคสบอกว่าเห็นแสงสว่างนั้นก็เป็นเพราะอาการป่วย จึงพูดไปแบบไม่รู้ตัว โดยอาจพูดตามที่ถูกถามชักนำ โดยถ้ายังไม่เสื่อม 100% ก็อาจมีโอกาสแนะนำเรื่องธรรมะได้บ้าง แต่ถ้าสมองเสื่อมมากก็ยากที่จะแนะนำ


Q: ยายของเจ้าของเคสทำบุพกรรมอะไรมาจึงเป็นโรคต้อกระจก จนตาบอดหนึ่งข้าง จะต้องแก้ไขอย่างไร
[attachmentid=3936][attachmentid=3937]

A: เพราะกรรมในอดีตที่ขังสัตว์ไว้ในที่มืด เช่นในตุ่ม อีกทั้งครั้งหนึ่งยายของเจ้าของเคสได้ใช้ไม้ตีหมาที่เลี้ยงไว้ด้วยความโมโห เนื่องจากหมาตัวดังกล่าวดุ และชอบกัดคนที่เดินผ่านไปมาหรือแขกที่มาเยี่ยมบ้าน โดยครั้งหนึ่งเจ้าของเคสตีพลาด ไม้ไปทิ่มตาของสุนัขดังกล่าวจนบอดไปข้างหนึ่ง จะต้องทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล และภาวนา ถวายประทีปโคมไฟ และให้หมั่นอุทิศบุญกุศลไปให้สัตว์ที่เคยไปเบียดเบียนไว้ และให้อฐิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมดังกล่าว

Q: บุพกรรมใดที่ทำให้ปู่ของเจ้าของเคสเป็นมะเร็งตับ ปู่มีคติที่ไปอย่างไร จริงหรือไม่ที่ป้าของเจ้าของเคสยอมเป็นภรรยาของปู่เพื่อแลกกับมรดก หากจริง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการทำผิดศีลข้อสามหรือไม่ เพราะคู่ครองของทั้งสองฝ่ายก็เสียชีวิตไปนานแล้ว
[attachmentid=3939]

A: เพราะกรรมในอดีตที่ฆ่าสัตว์ และดื่มสุราเป็นประจำมาส่งผล ตายแล้วไปเกิดเป็นภุมมะเทวาในระดับทั่วไป
[attachmentid=3940]

ป้าของเจ้าของเคสอยู่กับปู่ของเจ้าของเคสเพราะต้องการที่พึ่งพิง และด้วยความเหงา การกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าผิดศีลข้อ 3 เพราะสามีของป้าและภรรยาของปู่ของเจ้าของเคสก็ตายแล้ว จึงได้มาอยู่ร่วมกัน แต่ผิดธรรมเนียม โดยจะเป็นที่ครหาของผู้อื่นได้


Q: พ่อของเจ้าเคสทำกรรมอะไรมาจึงป่วยเป็นไทรอยด์เป็นพิษ และเพราะเหตุใดพ่อของเจ้าของเคสจึงได้รับมรดกจากปู่น้อยมาก
[attachmentid=3942]

A: เพราะกรรมในอดีตที่เป็นคนโกรธนาน และมักไม่ค่อยให้อภัย อีกทั้งยังมีกรรมจากการใช้แรงงานทาสมากเกินไป โดยไม่ดูแลให้ดีมารวมส่งผล
[attachmentid=3943]

ที่ได้รับมรดกจากปู่ของเจ้าของเคสน้อยมาก ก็เพราะทำทานมาน้อย โดยในอดีตชาติเมื่อบิดามารดาชวนทำบุญก็มักจะไม่ร่วมทำบุญ แต่ทำบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นพิธี เมื่อสมบัติบังเกิดขึ้นจึงเป็นไปตามที่ได้ออกแบบไว้


Q: เพราะเหตุใดพีชายของเจ้าของเคสจึงเรียนไม่จบสักที จะต้องแก้ไขอย่างไร พี่ชายของเจ้าของเคสมีวิบากกรรมใดทำให้อยู่อบรมธรรมทายาทจนเสร็จสิ้นได้ และจากการกระทำดังกล่าวพี่ชายของเจ้าของเคสจะมีวิบากกรรมอย่างไรและจะติดเป็นผังไปในภพชาติต่อไปหรือไม่
[attachmentid=3945]

A: พี่ชายของเจ้าของเคสเป็นคนขี้เกียจ ทั้งยังคบคนพาลที่คอยชักนำไปในทางที่ไม่ดี จะแก้ไขโดยการอดทน ให้มีเป้าหมายของชีวิต ขยัน โดยให้อยู่ในหมู่กัลยาณมิตร ให้ห่างไกลจากคนพาล
[attachmentid=3947]

ส่วนที่อบรมธรรมทายาทไม่ตลอดก็เพราะไม่อดทน ผังนี้จะติดตัวไป ทำให้เป็นคนจับจด ไม่เป็นโล้เป็นพาย ซึ่งจะส่งผลให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่ตั้งใจไว้


Q: การที่เจ้าของเคสและพี่ชายมาอบรมธรรมทายาทจะมีอานิสงค์ติดตัวไปในภพชาติเบื้องหน้าอย่างไร พระอาจารย์ พี่เลี้ยงและทุกคนที่สนับสนุนจะได้รับอานิสงค์อย่างไร
[attachmentid=3948]

A: การมาอบรมธรรมทายาท ได้ทำทาน ได้ทำความดี และช่วยเหลืองานส่วนรวม ได้รักษาศีล เจริญภาวนา ศึกษาธรรมะ และถือเป็นการบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี จะมีอานิสงค์คือทำให้รวย สวย ฉลาด พบเจอแต่กัลยาณมิตร อยู่ในหมู่นักปราชณ์ ห่างไกลจากคนพาล ถ้าชวนผู้อื่นมาด้วยก็จะมีบริวารสมบัติติดตัว จะได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา และจะมีสายบุญเชื่อมโยงกับหมู่คณะ เป็นต้น
[attachmentid=3949]

พระอาจารย์ พี่เลี้ยงและทุกคนที่สนับสนุนจะได้รับอานิสงค์คือมีส่วนแห่งบุญทุกๆ บุญของทุกคนที่เข้าอบรมคือจะเจริญด้วยศีล สมาธิ ปัญญา มีบริวารสมบัติ มีลูกน้องบริวารมากมายที่จะช่วยสนับสนุนในการสร้างบารมี มีดวงปัญญาแตกฉานในทางโลกและทางธรรม เป็นต้น


Q: เพราะวิบากกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสถูกอกุศลเข้าสิงจิต และคิดไม่ดีเวลานั่งมองพระพุทธรูปหรือรูปหลวงปู่ เจ้าของเคสมีบุญพอที่จะเข้าถึงพระธรรมกายภายในชาตินี้หรือไม่ เหตุใดเจ้าของเคสจึงได้กลับมาสร้างบุญอีกครั้ง เป็นเพราะคุณยายอาจารย์ตามไปร่วมบุญใช่หรือไม่
[attachmentid=3950][attachmentid=3952]

A: เพราะนิสัยชอบจับผิดคนติดข้ามชาติมา ต้องหัด คิด พูด ทำแต่สิ่งที่ดี หมั่นจับดีกับคน และสิ่งของรอบข้างบ่อยๆ อย่าไปสนใจข้อผิดพลาดของเพื่อมนุษย์ เพราะตนเองก็มีข้อผิดพลาดเช่นกัน ให้หมั่นทำเช่นนี้เป็นประจำ ก็จะติดเป็นนิสัยและอาการดังกล่าวก็จะหายไปเอง
[attachmentid=3953]

เจ้าของเคสมีบุญพอที่จะเข้าถึงพระธรรมกายได้ โดยจะต้องขยันนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ต้องทำให้ถูกหลักวิชชา และทำโดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น จะทำไม่ได้เพียงประการเดียวคือไม่ได้ทำ


Q: เจ้าของเคสและเพื่อนที่ชักชวนให้เจ้าของเคสมาสร้างบุญงานวันสลายร่างคุณยายอาจารย์เคยสร้างบุญกันมาอย่างไร เพื่อนคนดังกล่าวสร้างบารมีมาในพุทธันดรที่ผ่านมาอย่างไร
[attachmentid=3955]

A: เพราะเจ้าของเคสเคยมีสายบุญร่วมกับคุณยายและหมู่คณะมาในอดีต เจ้าของเคสและเพื่อนเคยเป็นสร้างบุญร่วมกันมาในอดีตหลายชาติแล้ว ทั้งยังเคยทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้เจ้าของเคสมาเป็นเวลาหลายชาติแล้ว
[attachmentid=3956][attachmentid=3958]

เพื่อนคนดังกล่าวเคยเป็นกุลธิดาในพุทธันดรที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายจากการครองเรือน จึงตั้งความปรารถนาให้ได้มาช่วยงานพุทธศาสนา และประพฤติพรหมจรรย์ในชาติต่อไป


Q: ลูกชายคนที่สองมีวิบากกรรมใดจึงคลอดก่อนกำหนด และเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากอาการติดเชื้อที่ปอด ที่รอดชีวิตมาได้เพราะบุญจากการสร้างพระหรือบุญใด
[attachmentid=3959]

A: เพราะกรรมปาณาติบาต โดยจับเอาลูกหนูตัวแดงๆ เป็นๆ มาดองเหล้าโดยเชื่อว่าเป็นยาบำรุงเป็นประจำ รวมกับกรรมที่ฆ่าลูกสัตว์ บางครั้งก็ฆ่าสัตว์ที่ยังท้องอยู่ หลายกรรม หลายวาระมาประมวลรวมกันส่งผลดังกล่าว ที่รอดมาได้เพราะบุญสร้างองค์พระเป็นหลัก

Q: ขณะที่เจ้าของเคสสร้างองค์พระโดยให้เพื่อนออกเงินให้ก่อน ตอนนั้นลูกชายของเจ้าของเคสได้รับบุญแล้วหรือยัง
[attachmentid=3960]

A: บุญเกิดขึ้นทันที เพราะเกิดความตั้งใจที่จะทำ แต่บุญมาเต็มที่เมื่อเอาเงินไปคืนเพื่อน

Q: เจ้าของเคสและสามีมีบุพกรรมใดร่วมกันจึงมาเป็นสามีภรรยากัน ทั้งๆ ที่มีความเห็นเรื่องบุญไม่ตรงกันเลย จะต้องแก้ไขอย่างไร ครอบครัวจึงจะกลายเป็นครอบครัวธรรมกายได้
[attachmentid=3961][attachmentid=3962]

A: เคยสร้างบุญร่วมกันมา และได้อฐิษฐานให้ได้มาเป็นสามีภรรยากันอีก ที่มีความเห็นเรื่องบุญไม่ตรงกันเพราะยังมีศรัทธา ศีล ทิฐิไม่ตรงกัน ทั้งยังขาดกัลยาณมิตรคอยชี้แนะ ให้เจ้าของเคสหมั่นสะสมบุญ และอฐิษฐานจิตให้บุญไปดลบันดาลให้ได้เป็นครอบครัวธรรมกาย

Q: เจ้าของเคส สามี ลูกชายทั้งสอง พ่อและแม่ของเจ้าของเคสเคยสร้างบุญบารมีกันมาอย่างไร
[attachmentid=3963]

A: เจ้าของเคส สามี ลูกชายทั้งสอง พ่อและแม่ของเจ้าของเคสเคยสร้างบุญบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง โดยทำตามคำชักชวน ทำตามอารมณ์ แต่ไม่คิดจะทำด้วยตนเอง

Q: ในฐานะที่เข้าของเคสเป็นแพทย์ กรณีที่คนไข้อาการหนักมากจนหัวใจเกือบหยุดเต้น แพทย์จะต้องขอความเห็นจากญาติว่าจะให้ปั๊มหัวใจหรือไม่ กรณีเช่นนี้ญาติบาปหรือไม่ และแพทย์จะมีวิบากกรรมปาณาติบาตหรือไม่
[attachmentid=3964][attachmentid=3965]

A: ญาติผู้ป่วยไม่มีบาปเพราะไม่มีเจตนาให้ผู้ป่วยตาย แต่สังขารของผู้ป่วยก็ไปไม่ไหวอยู่แล้ว จึงไม่ถือว่าเป็นกรรมปาณาติบาต เช่นเดียวกันกับแพทย์ก็จะไม่มีกรรมปาณาติบาตไปด้วย


[attachmentid=3966]

ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย

Attached Files



#2 พบพาน ผ่านภพ

พบพาน ผ่านภพ
  • Members
  • 236 posts
  • Gender:Male

Posted 18 April 2006 - 12:46 PM

สุดยอดเลยครับ
ประสิทธิภาพสุดๆ
" พบพาน _ผ่านภพ "
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.

#3 laity

laity
  • Members
  • 214 posts

Posted 18 April 2006 - 04:07 PM

สาธุครับ
อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางในชีวิตการสร้างบารมี และ
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา

โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

#4 จ.ใจเดียว

จ.ใจเดียว
  • Members
  • 92 posts

Posted 21 April 2006 - 06:16 PM

สาธุ

#5 aoi

aoi
  • Members
  • 356 posts

Posted 26 April 2006 - 09:06 AM

อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆค่ะ
เราเกิดมาสร้างบารมี