เก็บภาพที่ภูเรือและบุญใสๆมาฝากค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 17 September 2014 - 10:25 PM
1410964042649.jpg 464.36K 30 ดาวน์โหลด
1410967006031.jpg 275.22K 19 ดาวน์โหลด
#2
โพสต์เมื่อ 18 September 2014 - 06:34 AM
สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับคุณ skynoi ด้วยค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 18 September 2014 - 06:41 AM
ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับคุณ.น้องน้อยและน้องๆอุบาสิกาทุกๆท่าน ผู้มีบุญที่ได้โอกาศขึ้นไปปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ ขอให้เข้าถึงธรรม
ทั่วหน้าทุกๆท่าน ด้วยนะค่ะ พร้อมขอขอบพระคุณมากๆๆๆ ค่ะ ที่เก็บภาพสวยๆให้ได้มา ร่วมอนุโมทนาบุญ ด้วย ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 18 September 2014 - 07:33 AM
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
เขาบอกว่า ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดได้เป็นล้านคำพูด ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะเมื่อกี้ ตอนเปิดภาพขึ้นมาก็ไม่ได้นึกอะไร ก็กะจะดูบรรยากาศสวยๆ เท่านั้น
แต่พอเห็นภาพที่สอง ภาพที่ทุกคนนั่งหลับตานิ่งๆ บนโขดหิน อยู่ๆ ใจก็วิ่งไปถึงเรื่องราวในพระไตรปิฎกซะเฉยๆ เลย คือ เรื่องของหมู่สหธรรมิก 7 รูป ที่ปวารณาความเพียรบนยอดเขา แบบที่ไม่ได้อะไรก็จะไม่กลับลงมา แล้วสุดท้าย 6 ท่านก็บรรลุธรรมกันตามกำลัง แม้ท่านสุดท้ายจะไม่ได้บรรลุธรรม แต่ก็มีสุขติเป็นที่ไปตลอดกาลยาวนาน ซึ่ง ในตอนนั้น ท่านเหล่านั้นก็คงนั่งทำความเพียรกันแบบนี้แน่ๆ หลับตานิ่งๆ ใสๆ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ในการแสวงหาสัจธรรม กันบนยอดเขา ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีเพียงตัวตน กับธรรมชาติ และใจที่แสวงหาความจริง ... แม้ในภาพจะเป็นน้องๆ อุบาสิกาผู้อยู่ใกล้พระรัตนตรัยก็ตาม แต่โดยรวมอารมณ์คงจะเป็นแบบนั้นเป็นแน่ สุดยอด
ขออภัยที่เพ้อเจ้อ แต่ตอนเห็นภาพ เรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้คิด ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งครับ
ประวัติพระพาหิยทารุจีริยเถระ
บุรพกรรมในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมา ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ เขาได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ได้ออกบวชหลังจากที่พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว ในเวลาต่อมาเมื่อพระศาสนาใกล้จะเสื่อมสิ้นลง เขาและภิกษุอีก ๖ รูป มองเห็นความเสื่อมในการประพฤติของบริษัท ๔ ก็พากันสังเวชสลดใจ คิดว่า ตราบใดที่พระศาสนายังไม่เสื่อมสิ้นไป พวกเราจงเป็นที่พึ่งแก่ตนเองเถิด จึงพากันไปสักการะพระสุวรรณเจดีย์สูงหนึ่งโยชน์ที่มหาชนได้ร่วมกันสร้างเมื่อครั้งพระกัสสปพุทธเจ้าทรงปรินิพพานแล้ว ได้มองเห็นภูเขาสูงชันลูกหนึ่ง จึงชวนกันขึ้นไปปฏิบัติธรรมอยู่บนภูเขาลูกนั้น โดยตั้งใจว่าถ้าไม่สำเร็จมรรคผลอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะยอมสิ้นชีวิตอยู่บนนั้น แล้วจึงตัดไม้ไผ่มาทำเป็นพะอง (บันไดไม้) เพื่อปีนป่ายขึ้นไปตามหน้าผาของภูเขานั้น เมื่อทั้งหมดพากันขึ้นไปยังยอดสูงของภูเขาลูกนั้นแล้ว ก็ผลักพะองให้ตกหน้าผาไปเพื่อไม่ให้มีทางกลับลงมาได้ แล้วต่างก็บำเพ็ญสมณธรรมอยู่บนนั้น
ในบรรดาภิกษุทั้ง ๗ รูปเหล่านั้น พระเถระผู้อาวุโสสูงสุด ก็ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยอภิญญา ๖ ในคืนนั้นเอง ครั้นรุ่งเช้าพระมหาเถระจึงไปสู่ หิมวันตประเทศด้วยฤทธิ์ ล้างหน้าที่สระอโนดาต เที่ยวไปบิณฑบาตในอุตตรกุรุทวีป ฉันอาหารเสร็จแล้วได้ไปยังที่อื่นต่อไป ได้ภัตตาหารเต็มบาตรแล้ว เอาน้ำที่ สระอโนดาตล้างหน้าแล้วและเคี้ยวไม้สีฟันชื่อ อนาคลดา แล้วจึงนำภัตและสิ่งของเหล่านั้นมายังพระภิกษุเหล่านั้นที่ยังไม่บรรลุธรรมอันวิเศษ แล้วกล่าวว่า อาวุโส ทั้งหลาย บิณฑบาตนี้ผมนำมาจากแคว้นอุตรกุรุ น้ำและไม้สีฟันนี้นำมาจากหิมวันตประเทศ ท่านทั้งหลายจงฉันภัตตาหารนี้บำเพ็ญ สมณธรรมเถิด ผมจะอุปัฏฐากพวกท่านอย่างนี้ตลอดไป ภิกษุเหล่านั้นได้ฟัง แล้วจึงกล่าวว่า พระคุณเจ้าขอรับ พระคุณเจ้าทำกิจเสร็จแล้ว พวกกระผม แม้เพียงสนทนากับพระคุณเจ้าก็เสียเวลาอยู่แล้ว บัดนี้ ขอพระคุณเจ้าอย่ามาหา พวกกระผมอีกเลย พระมหาเถระนั้นเมื่อไม่สามารถจะให้ภิกษุเหล่านั้นยินยอม ได้โดยวิธีใด ๆ ก็หลีกไป
แต่นั้นบรรดาภิกษุเหล่านั้นรูปหนึ่ง โดยล่วงไป ๒-๓ วันได้เป็น พระอนาคามีได้อภิญญา ๕ ภิกษุนั้นก็ได้ทำเหมือนอย่างเช่นที่พระเถระที่บรรลุพระอรหัตทำเหมือนกัน ครั้นถูกภิกษุที่เหลือที่ยังไม่บรรลุธรรมใด ๆ ห้ามก็กลับไปเช่นเดียวกัน ภิกษุที่เหลือ ๕ องค์นั้น ครั้นถึงวันที่ ๗ จากวันที่ขึ้นไปสู่ภูเขาก็ยังไม่บรรลุคุณวิเศษไร ๆ จึงมรณภาพแล้วก็ไปเกิดในเทวโลก ฝ่ายพระเถระผู้เป็นขีณาสพก็ปรินิพพานในวันนั้นนั่นเอง ท่านที่เป็นพระอนาคามีได้บังเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาส เทพบุตรทั้ง ๕ เสวยทิพยสมบัติใน สวรรค์ชั้นกามาวจร ๖ ชั้นกลับไปกลับมา
#5
โพสต์เมื่อ 18 September 2014 - 07:45 AM
ภาพที่3 กกโพธิ์ อาน้อยคงแอบไปดูประติมากรรมดาวดึงส์กลางน้ำแล้วซินะ อิอิ
ที่มาของบ้านกกโพธิ์ คือ ตอต้นโพธิ์ริมน้ำต้นนี้ ชาวบ้านมักตกปลาแล้วนำมาย่างใต้ต้นโพธิ์ ทำให้ต้นโพธิ์นี้เฉาเหลือแต่ตอ
ไฟล์แนบ
#6
โพสต์เมื่อ 18 September 2014 - 08:23 AM
อนุโมทนาบุญกับธรรมะดีๆ ของพี่ทัพพีฯด้วยนะคะ
#7
โพสต์เมื่อ 19 September 2014 - 06:29 PM
อนุโมทนาบุญค่ะ..
#8
โพสต์เมื่อ 19 September 2014 - 07:38 PM
เห็นไข่ไดโนเสาที่กกโพธิ์ไหม?
#9
โพสต์เมื่อ 20 September 2014 - 12:27 AM
อยากมีโอกาสได้ไปบ้างครับ สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 22 September 2014 - 12:56 AM
Krap anumotana boon with Noo Noi and all Ubasikas who practiced sitting Dhamma at Puu Rue ka. Krap anumotana sadhu of Dhammatan Pra Ajan and K. Tuppe ka. I see Dinosaurus eggs ka Pra Ajan .
#11
โพสต์เมื่อ 24 September 2014 - 11:16 AM
กกโพธิ์น่านั่งจังครับ สาธุ ^^