คุณ Xlmen หายไปไหนคะ
#1
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 01:05 AM
งานยุ่ง , ไม่สบาย , ไปเรียนต่อเมืองนอก ... หรือว่าบวชแล้วคะ ???
(บอกกันบ้างนะคะ จะได้โมทนาบุญ)
#2
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 11:44 AM
#3
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 03:56 PM
เพียงแต่อาจจะไม่สะดวกมาโพสค่ะ
ตัวเองก็คิดว่า เขาช่วยไขข้อข้องใจให้กับสมาชิกได้ดีทีเดียวค่ะ

#4
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 05:12 PM
คิดถึงพี่เขาจังเลย
#5
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 05:54 PM
คุณหัดฝันตอบมาแล้ว ตามข้างบนนะครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 06:18 PM
#7
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 07:57 PM
น้าจี้
#8
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 08:07 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#9
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 08:32 PM
#10
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 02:25 AM
........ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้ถาวรยั่งยืนไปได้ตลอดกาลตลอดสมัยหรอกครับ.........
จุดเริ่มต้นของการพบกัน.....ก็ย่อมต้องมีจุดสุดท้ายของการจากลาเป็นธรรมดาโลกแหละครับ
โลกใบนี้ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอกครับ.......
ดังนั้นบุคคลจึงไม่ควรยึดติดในตัวบุคคลหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าจะคงทนยั่งยืนตลอดกาลตลอดสมัย
ที่พึ่งที่แท้จริงของเราก็คือ ธรรมะ
***ผมมีพุทธภาษิตมาฝากครับ***
ดูกรอานนท์ สมัยใด ตถาคตเข้าถึงเจโตสมาธิ อันไม่มีนิมิต เพราะไม่ทำไว้ในใจซึ่งนิมิตทั้งปวง เพราะดับเวทนาบางเหล่าแล้วอยู่ สมัยนั้น กายของตถาคตย่อมผาสุก
เพราะฉะนั้น พวกเธอจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือจงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
อยู่เถิด ฯ
ดูกรอานนท์ อย่างไรเล่า ภิกษุจึงจะชื่อว่า มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่งมิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือจงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ เป็นผู้มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลก อย่างนี้แล
อานนท์ ภิกษุจึงจะชื่อว่า มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งคือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่
ดูกรอานนท์ ผู้ใดผู้หนึ่งในบัดนี้ก็ดี โดยที่เราล่วงไปแล้วก็ดี จักเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง มิใช่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่
ภิกษุของเราที่เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาจักปรากฏอยู่ในความเป็นยอดยิ่ง ฯ
ที่มา : http://84000.org/tip...0&A=1888&Z=3915
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#11
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 10:00 AM
พี่ไม่รู้เลยว่าที่พี่โพสต์มาเป็นประโยชน์กับหนูแค่ไหน
ขอบคุณค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#12
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 10:33 AM
ผมประทับใจในความเป็นผู้ให้ของพี่ XLmen มาก
แค่รู้ว่าพี่ยังแวะมาเยี่ยมก็ใจดีแล้ว ( มาตอบกระทู้นี้ )
ไม่มีอะไร ที่เที่ยงแท้แน่นอน วันนี้เราอยู่ พรุ่งนี้เราไม่อยู่ หรือ วันนี้เราไม่อยู่ พรุ่งนี้เราอยู่ อนิจจังไม่เที่ยงครับ
#13
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 05:07 PM
#14
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 05:51 PM
แอบชื่นชมการตอบคำถามที่ลุ่มลึกตรงไปตรงมา กะทัดรัด มัธยัส อดทน ของพี่ครับ
#15
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 05:53 PM
#16
โพสต์เมื่อ 08 March 2007 - 02:26 PM