Jump to content


Photo
* * * * * 1 votes

ปฐมจิตตุปบาทกาล


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
5 replies to this topic

#1 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1,297 posts

Posted 06 November 2009 - 02:26 PM

ปฐมจิตตุปบาทกาล :: การเกิดขึ้นของดวงจิตดวงแรกที่คิดจะเป็นพระพุทธเจ้า


Attached File  1.png   249.56KB   65 downloadsAttached File  2.png   236.4KB   67 downloadsAttached File  3.png   228.95KB   65 downloads
Attached File  4.png   198KB   71 downloadsAttached File  5.png   176.25KB   71 downloadsAttached File  6.png   145.77KB   62 downloads
Attached File  7.png   168.95KB   62 downloadsAttached File  8.png   173.03KB   57 downloadsAttached File  9.png   181.09KB   64 downloads
Attached File  10.png   169.95KB   57 downloadsAttached File  11.png   195.88KB   61 downloadsAttached File  12.png   138.36KB   65 downloads




สมัยพระชาติหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นมานพหนุ่มยากจน เป็นบุคลคนธรรมดาคนหนึ่ง
มานพนั้นได้เลี้ยงดูบิดามารดาเป็นอย่างดีด้วยความกตัญญู , ทำงานหนักทุกวัน บิดามารดาอยากให้บุตรแต่งงานเพราะจะได้แบ่งเบาภาระ
แต่เมานพไม่อยากครองเรือน มานพบอกว่าครอบครัวนั้นยากจนยากจน จึงอยากเลี้ยงดูพ่อแม่เท่านั้น ไม่อยากแต่งงาน
บิดามารดาก็เลยไม่ขัดต่อความคิดนั้น
ต่อมาบิดาของมานพเสียชีวิต มานพก็ต้องทำงานหนักกว่าเดิม วันหนึ่งมานพเดินไปเห็นเรือสำเภา จึงคิดว่าเราน่าจะหางานที่ดีกว่าการเก็บของป่าขาย, หาที่ทำกินดีๆ และเลี้ยงแม่ต่อไปดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เข้าไปหาพ่อค้าซึ่งเป็นเจ้าของเรือ แล้วบอกว่าตนอยากมาทำงานด้วยและจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และได้ขอนำมารดามาอยู่ด้วย พ่อค้าก็ตกลง เพราะดูลักษณะร่างกายกำยำแข็งแรงคงทำงานให้ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับเป็นคนกตัญญูจึงตอบรับไว้
หลังจากนั้นก็ทำการออกเรือสำเภาขนส่งสินค้า เดินเรือไปในหมาสมุทร มานพหนุ่มก็ทำงานและเลี้ยงมารดาได้เป็นอย่างดี หลังจากเดินทางมาได้เพียง 7 วัน พายุก็พัดกระหน่ำมา
เมื่อรู้รู้ว่ามีพายุพัดมา มานพจึงก็รีบไปหามารดาและเตรียมหาหนทางหนี เรือนั้นไม่สามารถต้านทานต่อพายุได้จึงอัปปางลงพร้อมกับคนในเรือและสินค้าทั้งหลาย มานพได้แบกมารดาหนีและกระโดดออกจากเรือ จากนั้นก็พยายามว่ายน้ำหนีให้ไกลจากเรือเท่าที่จะทำได้ และเมื่อหันกลับมาดู พบว่า แม่คนอื่นๆ ลอยคอตาย บ้างก็โดนสัตว์ทะเลกินหมด มานพคิดเพียงสิ่งเดียวว่า ต้องพาแม่รอดให้ได้

จากนั้นก็ว่ายน้ำข้ามวันข้ามคืนก็เกิดอาการอ่อนเพลีย แต่ด้วยบุญบารมีที่ได้สั่งสมมากระตุ้นจิตสำนึกว่า วัฏฏสงสารนี้เป็นทุกข์เหมือนกับกำลังแหวกว่ายในท้องทะเล จุดๆ นั้นจะหมดแรงแล้ว คิดว่ากำลังจะตายแล้ว
ในขณะที่ว่ายน้ำอยู่กลางทะเลนั้น ใจของท่านเกิดมหากรุณา เกิดความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ คือปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรารถนาที่จะสร้างความดีให้บรรลุธรรม สามารถค้นพบวิถีทางที่จะพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายได้ด้วยตัวท่านเอง ทรงตั้งปณิธานว่า ถ้าตัวเราถึงชีวิตพินาศขาดสูญลงในท้องมหาสมุทรทะเลใหญ่ พร้อมกับมารดา ณ กาลบัดนี้ ขอกุศลที่เราแบกมารดาว่ายน้ำในมหาสมุทรมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยนักหนานี้ จงเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งโพธิญาณ ขอเราได้ช่วยสัตว์ทั้งหลายอันเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารให้ข้ามพ้นลุถึงซึ่งฝั่งโน้นคือ อมตมหานิพพาน เมื่อพบแล้ว ก็ตั้งความปรารถนาที่จะเผยแผ่วิถีทางดำเนินชีวิตอันบริสุทธิ์นั้น แก่ชาวโลก ให้ได้เข้าถึงหนทางแห่งความบริสุทธิ์หลุดพ้นเช่นเดียวกับท่าน โดยไม่มีความรู้สึกหวงวิชชาเลยแม้แต่น้อย

( คำอธิษฐานครั้งแรกนี้ ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์) *โพธิสัตว์ = สัตว์ผู้ปรารถนาโพธิญาณ


ด้วยแรงอธิษฐานและคิดถึงแต่บุญ จึงมีเรี่ยวแรงแบกแม่ต่อได้อีก 2-3 วัน ในที่สุดก็ถึงฝั่งด้วยมหาปิติ จากนั้นก็ทำมาหากินเลี้ยงมารดาจนมารดาถึงแก่กรรมด้วยความกตัญญู เมื่อมานพละโลกในชาตินั้นก็ได้ไปจุติบนสวรรค์

พระพุทธองค์ไม่ทรงย่อท้อ แม้เส้นทางการสร้างบารมีจะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด ก็ไม่เคยนึกถึง คิดแต่ว่า เป้าหมายหรือความปรารถนานั้นต้องสมหวัง ทรงสร้างความดี เช่นนั้นสืบเนื่องมายาวนานนับภพนับชาติไม่ถ้วน พระองค์ทรงสละเลือดมากกว่าน้ำในมหาสมุทร สละเนื้อมากกว่าแผ่นดิน ควักลูกตาออกทำทานก็มากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า ตัดหัวบูชาธรรมมากกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป ทรงทำอย่างนั้นมา ตลอดทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งถึงวาระที่บารมีเต็มเปี่ยมแล้ว จึงคอยโอกาสแห่งการตรัสรู้ธรรม.
ความนึกคิดในใจของพระองค์แตกต่างจากความนึกคิดของมวลมนุษย์ทั้งหลาย คือเมื่อชาวโลกเมื่อประสบความทุกข์ ก็ไม่คิดหาหนทางที่จะออกจากความทุกข์นั้น อยู่ไปวันหนึ่งๆ ด้วยความเคยชินกับความทุกข์ จึงต้องทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งทุกข์ประจำ และทุกข์จร ครั้นพระองค์ท่านมองเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวชแล้ว เห็นแล้วก็ได้ข้อคิด อยากแสวงหาหนทางให้หลุดพ้นจากทุกข์ อยากเข้าถึงความสุขที่แท้จริง.


*ในชาตินี้เรียกว่า ปฐมจิตตุปบาทกาล



-การที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นจำเป็นจะต้องสร้างบารมีอย่างเข้มข้นและใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากอย่างน้อยก็ต้องสร้างบารมีถึง ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัป

-เมื่อพระโพธิสัตว์สร้างบารมีจนเต็มเปี่ยมและได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังสามารถจำแนก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เป็น 3 ประเภท ตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมี คือ
การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์เพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ตั้ง ความปราถนาในใจ เปล่งวาจา แล้วจึงได้รับพุทธพยากรณ์ใช้ระยะเวลาดังนี้

1. ปัญญาธิกพุทธเจ้า: ปราถนาในใจ ...7 อสงไขย เปล่งวาจา ...9 อสงไขย จนกระทั้ง ได้รับพยากรณ์ต้องให้ครบอีก 4 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป :
[รวมทั้งหมดเป็น 20 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป]

2. สัทธาธิกะพุทธเจ้า: ปรารถนาในใจ 14 อสงไขย เปล่งวาจา 18 อสงไขย จนกระทั้ง ได้รับพยากรณ์ต้องให้ครบอีก 8 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป :
[รวมทั้งหมดเป็น 40 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป]

3. วิริยาธิกะพุทธเจ้า: ปรารถนาในใจ 28 อสงไขย เปล่งวาจา 36 อสงไขย จนกระทั้ง ได้รับพยากรณ์ต้องให้ครบอีก 16 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป :
[รวมทั้งหมดเป็น 80 อสงไขย กับอีก หนึ่งแสนกัป][/size]

Attached File  __________________________________________4.jpg   28.68KB   286 downloads


อยากให้ทุกท่านมีตถาคตโพธิศรัทธา ขอกราบอนุโมทนา สาธุ
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#2 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1,297 posts

Posted 06 November 2009 - 02:32 PM

ท่านใดทราบรายละเอียดเกี่ยวกับพระชาตินี้ ขอเเมตตาแสดงความคิดเห็น และโปรดช่วยให้ความรู้เพิ่มจะเป็นการดีนะครับ ผมเองก็อยากทราบชื่อของมานพในชาตุนี้ ไม่ทราบว่าในพระไตรปิฎกมีบันทึกไว้บ้างหรือเปล่าเอ่ย ใครทราบก็ขออนุโมทนาบุญธรรมทานล่วงหน้านะครับ
สาธุ
สาธุ
สาธุ
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#3 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3,579 posts

Posted 07 November 2009 - 07:34 AM

สาธุ ในธรรมทานครับ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#4 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 posts

Posted 07 November 2009 - 10:40 AM

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

#5 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 posts

Posted 17 November 2009 - 11:27 PM

อนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ สาธุ ค่ะ

หากท่านใด คิดอยากสร้างบารมี ก็ให้เริ่มต้นที่ตัวเอง โดยการลดละเลิกนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง

และ ตั้งใจเริ่มต้นสร้างบารมี มี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี

ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี

ถ้าท่านใดที่ได้ทำอยู่แล้วเป็นปรกติ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ถ้าท่านใดได้คิดที่จะเริ่มต้นสร้างบารมี ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

หากท่านใดต้องการศึกษาเพิ่มเติม สามารถหาได้จาก เรื่องการสร้างบารมี โดย หลวงพ่อทัตตชีโว

#6 Tree

Tree
  • Members
  • 2,076 posts

Posted 09 March 2010 - 05:55 AM

สาธุ ครับผม