อย่ามัวแต่มุ่งจะมอบความรัก ให้คนอื่นอยู่เพียงอย่างเดียวเลย ....อ่านเรื่องต่อไปนี้ อาจทำให้ใครบางคน “คิดได้”
ก็ได้นะ บุญใดที่เกิดจากการลงบทความนี้ น้ำใสขอมอบให้กับ “แม่” ทุกคนค่ะ
หลังจากแม่คนใหม่เอ่ยขึ้นว่า “ขอฉันดูหน้าลูกหน่อยนะคะ” เธอก็ได้ห่อผ้าน้อย ๆ
มาอยู่ในอ้อมกอด แต่เมื่อได้แย้มผ้าออกเมื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ ของทายาทเธอถึงกับต้องกรีดร้องจนพยาบาล
ต้องรีบอุ้มเด็กออกไปจากอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว และสาเหตุที่คุณแม่ร้องลั่นก็เพราะ....เด็กทารกที่เกิดมา
ไม่มีใบหู
อย่างไรก็ตามกาลเวลาที่ผันผ่านได้พิสูจน์ว่า เด็กน้อยไม่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน
แม้จะไม่มีใบหูปรากฏให้เห็นภายนอก แต่ถึงอย่างนั้น....ชีวิตของเด็กน้อยก็ยังปวดร้าว หลายครั้งเขากลับ
จากโรงเรียนมาซบอกแม่ทั้งน้ำตา และผู้เป็นมารดาก็รู้ว่า หัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน
เด็กน้อยเคยโพล่งออกมาอย่างเศร้า ๆ ว่า “พวกเด็กตัวโต ๆ ล้อผมว่าไอ้ตัวประหลาด”
เด็กชายน้อยเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาเขาเป็นที่รักของเพื่อน ๆ มีพรสวรรค์ในด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี
และดนตรี เขาอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น เป็นประธานกลุ่ม แต่เพราะสิ่งสิ่งนั้นที่ขาดไป.....
วันหนึ่ง แม่ของเขาบอกด้วยความเห็นใจ “ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะ”
แต่กี่คำปลอบใจก็ดูจะไร้ความหมาย....ในที่สุดพ่อก็ตัดสินใจปรึกษาแพทย์ประจำครอบครัว ซึ่งแพทย์ช่วย
ให้พวกเขามีความหวังด้วยการบอกว่า “ผมสามารถผ่าตัดปลูกถ่ายใบหูให้เขาได้
ถ้ามีผู้บริจาค หรือ...มีใครสักคนเสียสละใบหูเพื่อเขา”
หลังจากนั้นอีก 2 ปี ผู้เป็นพ่อจึงบอกลูกชายว่า “เตรียมตัวไปโรงพยาบาลกันนะ
พ่อกับแม่หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องเก็บเรื่องนี้เป็น “ความลับ” การผ่าตัด
สำเร็จด้วยดี เหมือนการกำเนิดขึ้นใหม่ของชายคนหนึ่ง ซึ่งกลับกลายเป็นผู้เปี่ยมพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะของ
โรงเรียน ของมหาวิทยาลัย และเป็นที่กล่าวขานกันต่อ ๆ ไปอีกหลายรุ่น
ต่อมา .... ทำงานเป็นข้าราชการในสถานทูต วันหนึ่งชายคนนี้ ตัดสินใจถามผู้เป็นพ่อ
“พ่อครับ ใครเป็นคนมอบใบหูให้ผมครับ ผมอยากรู้ว่าคนที่มอบสิ่งดี ๆ ในชีวิตผมได้มากมายเป็นใคร ผมอยาก
ทำอะไรเพื่อเขาบ้างเพราะยังไม่เคยตอบแทนเขาเลย”
พ่อตอบ “อย่าเพิ่มคิดเรื่องการตอบแทนเลย ลืมแล้วหรือ...เราตกลงกันแล้วว่าจะให้เรื่องนี้เป็นความลับ”
เรื่องผู้บริจาค จึงกลายเป็นความลับอยู่นานหลายปี กระทั่งถึงวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่มืดมิดที่สุดในชีวิตผู้เป็นลูก
เขายืนเศร้าเสียใจอยู่ข้างๆ พ่อ ตรงหน้าหีบศพของแม่ และเมื่อพ่อลูบผมสีน้ำตาลแดงของภรรยาที่รักอย่าง
เชื่องช้านุ่มนวล ให้เสยขึ้น ความจริงจึงเผยขึ้นว่า.....ผู้เป็นมารดาปราศจากใบหู ! ใบหูของแม่ถูกตัดไปแล้ว
พ่อกระซิบบอกลูกชาย “แม่บอกพ่อว่า ดีใจที่ได้ทำอย่างนี้” แม่เขาไม่เคยตัดผมอีกเลย
นับจากนั้น แต่...ก็ไม่มีใครมองว่าเธอไม่สวย...จริงมั๊ย? จงจำไว้นะ สิ่งมีค่าแท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพที่เห็น
แต่อยู่ตรงสิ่งที่เราสัมผัสได้ แม้จะมองไม่เห็นต่างหาก
ความรักที่แท้ ไม่ได้หมายถึงการทำอะไรเพื่อให้ใครต้องรับรู้ หากแต่....หมายถึง
การกระทำจากหัวใจโดยไม่คาดหวังอะไร หรือ....ไม่จำเป็นต้องมีใครรับรู้ต่างหาก คำพูดพร่ำเพรื่อ จึงไม่ใช่สิ่ง
จำเป็นในเรื่องของความรัก.....