ไปที่เนื้อหา


- - - - -

"ความงามของชีวิต" ตอนที่ 2


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *innerspot*

*innerspot*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2009 - 09:23 PM

แนบไฟล์  Untitled_1.jpg   31.44K   51 ดาวน์โหลด


คุณยายท่านฝึกตัวอย่างไร

หลวงพ่อท่าน ท่านบอกว่า ผู้ที่จะศึกษาวิชชาธรรมกายได้ดี ต้องมีคุณสมบัติอย่างคุณยาย

คุณยายอยู่กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านใช้อะไรยายทำให้หมดเลย จะถามอะไรยายก็เตรียมพร้อม ยายตอบคำถามท่านได้หมด แล้วก็ตอบถูกทุกเรื่อง ท่านใช้อะไรยายไม่เคยปฏิเสธ ทำหมด ยายฝึกฝนอบรมตนเอง แล้วก็เคี่ยวเข็ญตัวเองว่าต้องทำให้ได้ พยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองอย่างนี้ อันนี้คือสิ่งที่ท่านเคี่ยวเข็ญตัวเองมาตลอดชีวิตที่ท่านอยู่กับหลวงปู่ คือเคี่ยวเข็ญตัวเองฝึกฝนอบรมตัวเอง ไม่ใช่คุณธรรมต่างๆ เกิดมาท่านทำได้เลย ท่านฝึกฝนทั้งนั้นเลย

คุณยายท่านมุ่งมั่นที่จะเรียนวิชชาธรรมกายอย่างเดียว อย่างอื่นไม่สนใจ คำว่ามุ่งมั่นคือมุ่งมั่นจริงๆ มุ่งมั่นแล้วก็เด็ดเดี่ยว เด็ดขาดคือเด็ดเลย เด็ดทิ้งทุกอย่างเลยแบบชนิดที่ไม่มีเยื่อใย สละทุกสิ่งทุกอย่างไม่กังวลอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางบ้านหรืออะไรทั้งหมด ท่านบอกว่า แม้กระทั่งแม่จะร้องไห้ก็ไม่หวั่นไหว คือคุณยายกับแม่จะสนิทกันมาก รักกันมากตอนอยู่บ้าน เพื่อวิชชาธรรมกายท่านมุ่งมั่นอดทนยอมตนเป็นคนรับใช้ แต่ไม่เคยบ่น ด้วยสติปัญญาเห็นช่องทางว่าจะไปวัดปากน้ำได้ด้วยวิธีนี้ ท่านเป็นคนขยัน รักความสะอาด มีระเบียบเรียบร้อยอย่างไม่มีใครเทียบเท่า ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จนเจ้าของบ้านให้เป็นผู้ดูแลคลังสมบัติ

นอกจากนั้น คุณยายเป็นคนที่มีศีล ไม่เอาของใคร แม้แต่ใจก็ไม่เคยนึกจะเอาสมบัติใคร มีความพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ จนกระทั่งได้เป็นหัวหน้าดูแลคนรับใช้ทั้งหมดเลย เมื่อคุณยายทองสุกมาสอนธรรมะ ท่านอยากเรียนธรรมะก็ต้องไปเอาอกเอาใจคุณยายทองสุก ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความเมตตา ต้องทำงานหนักขึ้น แม้งานบ้านจะเยอะ แต่คุณยายก็แอบนั่งธรรมะด้วยความระแวง กลัวว่าเจ้าของบ้านจะเห็น

ท่านต้องจัดสรรเวลา บริหารเวลาในการทำภาวนา จนกระทั่งความดีเป็นที่ยอมรับของเจ้าของบ้าน จึงได้ไปนั่งธรรมะกับเจ้าของบ้านบนดาดฟ้า แล้วท่านก็สมหวัง ใจหยุดเห็นจุดสว่างที่กลางกาย แล้วก็ทำความเพียรจนกระทั่งเข้าถึงธรรม สามารถไปหาพ่อได้ คุณยายมีความปรารถนาไปวัดปากน้ำจึงต้องทำความดีเพิ่มมากขึ้น จนเจ้าของบ้านเมตตาพาไปวัดปากน้ำด้วย คือต้องทำความดีจนกระทั่งเจ้าของบ้านนี่นอกจากรักแล้ว ยังต้องเกรงใจคุณยาย พอคุณยายเอ่ยปากขอก็เกรงใจจนไม่กล้าปฏิเสธ

พอมาถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำ เห็นคุณยายครั้งแรกท่านสั่งให้เข้าโรงงานทำวิชชาเลย แต่คุณยายทำวิชชาแล้วก็ไม่เคยไปไหน แต่ลูกเศรษฐี เรียนไม่ค่อยได้วิชชา เพราะเดี๋ยวก็ลาไปเที่ยวลากลับบ้าน จึงได้แต่ยี่ห้อ ไม่ได้วิชชา อันนี้คือเรื่องจริงเลย

คุณยายท่านเรียนแบบทุบหม้อข้าว คำว่าทุบหม้อข้าว ทุบหม้อข้าวจริงๆเลย มุ่งโลกุตระทิ้งโลกิยะ แม้จะโดนกระแทกจานข้าวท่านก็ไม่เคยน้อยใจ ไม่ทะเลาะกับใคร ดูเค้าเฉยๆ มีนิสัยเป็นผู้ดู ดูเฉยๆจิตใจจึงละเอียด ใครกระแทกกระทั้นก็ไม่เคยกระเทือนมาถึงในใจ เค้าจัดเตียงเก่าๆ พังๆ ให้ก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยบ่นให้หลวงพ่อวัดปากน้ำฟัง ไม่เคยเอาเรื่องจุกจิกไปให้ท่านรกใจ แบบทุบหม้อข้าวนี่ให้นึกถึงหลวงพ่อตากสิน ทุบหม้อข้าวแบบนั้นน่ะ

สมัยสงครามโลกต้องทำวิชชากันทั้งวันทั้งคืน ท่านเชี่ยวมากจนกระทั่งเลื่อนมาเป็นหัวหน้าเวร นั่งอยู่บนเตียงขาดรู้ เพราะหยุดใจได้สนิทสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จนกระทั่งหลุดจากหยาบไปติดละเอียดภายใน ดังนั้นจิตจึงบริสุทธิ์มาก รู้ญาณแม่นยำ พอหลวงพ่อถามว่าเครื่องบินจะมาทิ้งระเบิดกี่โมง ถ้าคุณยายตอบทุกคนต้องเงี่ยหูฟัง เพราะว่าคุณยายว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยพลาดเลย

ตลอดชีวิตท่าน ไม่ยอมให้หลวงพ่อวัดปากน้ำด่าว่า “ไอ้ขี้ไต้”เลยเพราะว่ามันเป็นศักดิ์ศรีของนักรบกองทัพธรรม
ท่านเคยโดนดุเพียงเรื่องเดียว คือตอนตอบท่านเรื่องเยอรมันที่จะให้ชนะ แล้วคุณยายก็ไม่เคยโกหกเพื่อที่จะให้ถูกใจหลวงพ่อ เห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น พอในที่สุดเยอรมันแพ้จริงๆ หลวงพ่อท่านอึดอัด ไม่รู้จะลงใครก็เลยลงคุณยาย คุณยายร้องไห้ พอหายร้องไห้ท่านก็ไม่หงุดหงิดค้าง ไม่งอน ไม่น้อยใจ มาลุยธรรมะต่อเลย

จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ คุณยายท่านก็สานต่อปณิธานสอนธรรมะเรื่อยมาไม่ยอมหยุด ด้วยความกตัญญูในครูบาร์อาจารย์ คือการที่คุณยายสานต่อปณิธาน สอนธรรมะเรื่อยมาไม่ยอมหยุด ด้วยความกตัญญูนี่ ต้องใช้คำว่า ต่อมา จนกระทั่งรอหลวงพ่อธัมมะ แล้วก็ต่อมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ความกตัญญูในครูนี่เอาชีวิตเป็นเดิมพันเลย ถ้าท่านจะไม่สานต่อก็ไม่มีใครว่าท่าน แต่ด้วยความกตัญญูกตเวทีนี่ท่านยอมเหนื่อยทุกอย่างเพื่อสานต่อปณิธานของหลวงปู่ท่าน นี่คือคุณสมบัติของผู้ศึกษาวิชชาธรรมกายเลย

คุณยายเป็นคนจริง ทำอะไรทำจริง เวลายายจะทำอะไร ยายจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด และก็ทำสุดชีวิตเลย เวลาที่ยายจะทำอะไรนี่ ยายบอกว่ายายเป็นคนจริง ถ้ายายบอกว่าเอา ก็คือเอา ถ้ายายบอกว่าไม่ ยังไงๆ ยายก็ไม่ ถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วนะ ยายจะสู้หัวชนฝาเลย สู้หัวชนฝาจนกว่าจะทำสำเร็จ หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านจึงบอกคุณยายว่า ลูกจันทร์เป็นหนึ่งไม่มีสอง

ถ้าหากทำจริง ตั้งใจทำอะไรให้ดีที่สุดนะ มันถึงเป็นคุณธรรมขึ้นมาได้ แล้วคุณยายท่านก็สอนบอกว่า ทำให้ดีชาตินี้ ชาติต่อไปจะได้ไม่ลำบาก ชาติต่อไปเราจะสบาย แล้วของหยาบถ้าเราไม่ตั้งใจทำให้ละเอียด ธรรมะเป็นของละเอียดจะทำให้ละเอียดได้อย่างไร แล้วท่านก็สอนอีกว่า ชีวิตของเรามีแต่จะล่อยหลอไปทุกวันนะ ต้องรีบทำความดีให้มากๆ อย่าปล่อยเวลาให้ปล่าวประโยชน์

ยายเป็นคนทำอะไรทำจริง จริงใจและก็จริงจัง ทำอะไรซักอย่างไม่เคยยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่มาขวางหน้า จะมานะบุกบั่น พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้ได้ และท่านบอกว่ามันสำคัญที่ใจนะ ถ้าใจสู้ซะอย่างก็ทำได้ และไม่ว่าจะทำอะไร จะไปอยู่ที่ไหนก็ขอให้มีความขยัน และอดทน

ท่านบอกว่าคนเราจะทำอะไรก็ตามขอให้ทำให้จริง ดูแต่ยายความรู้ก็ไม่มี ปริญญาก็ไม่มี มีแต่จริงอย่างเดียว ยายยังสร้างวัดได้ แล้วยายก็พิจารณาว่า ที่เขาทำไม่ได้ ทำกันไม่สำเร็จ เพราะทำกันไม่จริง เจออะไรนิดหน่อยก็ไม่สู้ทั้งๆ ที่เขาจบปริญญาสูงๆ จบปริญญาตรี โท เอก ส่วนยายความรู้ก็ไม่มี กอ ข้อ ก็ไม่กระดิก ไม่จบอะไรซักอย่าง ยายมีแต่จริงตัวเดียว ทำได้ ทำสำเร็จ แล้วยายก็มองไปในอนาคตว่า คนเราชาตินี้ไม่จริง ชาติต่อไปก็ล้มเหลว เอาอะไรดีไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไรก็ให้ทำจริงตั้งแต่ชาตินี้

ท่านก็บอกว่าตั้งแต่ยายเข้าวัดมา มีคนดูถูกมากมายเลย แต่ที่ยายก้าวขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เพราะว่ายายทำอะไรทำจริง ยายคิดแต่จะเอาธรรมะ คิดแต่จะตอบหลวงพ่อวัดปากน้ำให้ได้ ใจจรดธรรมะไว้ไม่เคยถอยเลย เรื่องอื่นๆ ยายมองข้ามไปหมดไม่สนใจ ใครจะแกล้ง ใครจะดูถูกเหยียดหยามก็ช่างเขา ยายทนได้ ถ้ามัวแต่อิจฉาริษยาแก่งแย่งชิงดีก็เสียเวลาไปปล่าวๆ คนที่คิดว่าตัวเองเก่งก็มัวแต่ต่อสู้กันต่างๆ นานา ยายมุ่งเอาแต่ธรรมะ ถ้าคนเก่งจริง ไม่ต้องไปสู้กับใคร ยายไม่เสียเวลาไปเรื่องเหล่านี้เลย เลยมีเวลาค้นธรรมะละเอียดมากขึ้น

เรื่องนั่งธรรมะยายเก่งมาก นั่งเก่งจริงๆ เวลาเข้าที่แล้วนี่ทิ้งทุกอย่างหมด เอาแต่ธรรมะอย่างเดียวบุกธรรมะอย่างเดียว ที่เห็นออกมารบกับหยาบ เวลายายออกมารบกับหยาบ ต้องถอยออกจากธรรมะละเอียดทีละชั้นๆ ถอยออกมาทีละกายตั้งแต่กายธรรม จนถึงกายมนุษย์หยาบ พอถึงกายมนุษย์หยาบถึงจั่วเค้าได้ พอมาถึงเรื่องข้างนอกเรียบร้อยหมด ก็ทิ้งเรื่องข้างนอกแล้วก็เอาธรรมะคืน บุกธรรมะลืมเรื่องข้างนอกหมดเลย เพราะว่ายายยังอาศัยโลกอยู่จึงต้องถอยออกมาหยาบ เรายังต้องกินข้าว หยาบก็ต้องรบละเอียดก็ต้องรบ ที่เห็นยายออกมารบหยาบข้างนอกก็เพื่อให้งานเรียบร้อย รบไปอย่างนั้นแหละ พอเข้ากุฏินั่งธรรมะเรื่องทุกอย่างก็วางทิ้งหมดเลย มีแต่ธรรมะอย่างเดียว เรื่องนี้ยายแบ่งเวลาเป็น

พอยายนั่งธรรมะก็เอาใจหยุดไปเรื่อยๆ ที่ศูนย์กลางกายอยู่ที่กายมนุษย์ ตกศูนย์ถึงกายละเอียดจนถึงกายธรรมอรหัตถ์จนถึง ๑๘ กายเป็นทางผ่าน ไปถึงกายธรรมะอรหัตถ์ก็รู้เห็นหมด อย่างนี้เรียกว่ารู้รอบตัวเห็นรอบตัว

เวลาดิ่งธรรมะของยาย พอดิ่งธรรมะก็เหมือนออกทะเล เวลาออกทะเลไปก็ไม่เห็นฝั่งเลย ยายก็ตั้งเข็มทิศให้ตรงไม่สนใจอย่างอื่น ตั้งเข็มทิศให้ตรงอย่างเดียวดิ่งธรรมะตรงตามเข็มทิศของตัวเอง ว่าชั่วโมงนี้จะเอาอะไร เหมือนทางโลกเวลาเค้าจะออกทะเลเค้ายังมีเข็มทิศ เราทางธรรมก็เหมือนกัน

ต้องแบ่งเวลาของเราให้เป็น วางเรื่องอื่นไว้ชั่วขณะ นั่งธรรมะถึงก้าวหน้าได้ ถ้าเราไม่แบ่งเวลาอย่างที่ยายบอก นั่งธรรมะเดี๋ยวก็คิดถึงบ้าน คิดถึงที่ทำงาน คิดอย่างนั้นคิดอย่างนี้ คิดไปใจก็เลยไม่หยุด นั่งธรรมะก็ต้องนั่งเพื่อให้ใจหยุด ทั่วแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีใครช่วยเราให้พ้นทุกข์ได้หรอกนอกจากธรรมะเท่านั้น กอดธรรมะให้แน่นๆ นะแค่เห็นแสงสว่างแว๊บเดียวบุญก็มากมายเป็นฟ้าครอบ

เวลายายนั่งธรรมะยายเอาใจจรดศูนย์กลางกายผ่านกายต่างๆเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงพระนิพพานแล้วใจก็ไปติดที่โน่น จะไปดูอะไรก็ได้ กิเลสก็ไม่มี แต่พอยายจะพูดกับใคร ยายก็ถอยใจมาจรดจ่อกับคนที่ยายจะพูดด้วย ใจมันก็หยาบ อายตนะหยาบก็เกาะ กิเลสมันก็เกาะ

คนที่แต่งงานใจมันก็ต้องหยาบ คิดจะแต่ง เมื่อใจหยาบอายตนะหยาบมันก็เกาะ ไม่ยากหรอกถ้าจะได้ธรรมะถ้ารักธรรมะจริง ไม่ต้องไปคิดถึงคนอื่น ให้คิดถึงแค่ตัวเอง เพราะว่าไม่มีใครช่วยเราได้

ศาสนาพุทธมีแค่ ๓ อย่างคือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท นอกนั้นไม่ใช่ ท่านบอกว่า ชีวิตนี้เกิดมาสร้างบารมีต้องทำความดีให้เต็มที่
ถ้าต้องการจะสร้างบารมีให้ดีจริงๆ ต้องติดธรรมะ อย่าติดบุคคลแล้วจะสร้างบารมีไปได้ตลอด จะนำความเจริญมาสู่ตัวเองและหมู่คณะ ให้มีสติสอนตัวเองอยู่เสมอ ถ้าติดบุคคลแล้วจะสร้างบารมีไปได้ไม่ตลอด
จะเดือดร้อนภายหลังทั้งตัวเองและหมู่คณะด้วย ถ้าติดธรรมะ มีธรรมะเป็นที่พึ่ง จะชนะมิจฉาทิฐิได้ เพราะจะได้บุญที่สะอาดติดตัวไปทั้งวัน จำเอาไว้ให้ดีนะ แล้วเอาไปปฏิบัตินะ

ยายอายุมากเมื่อยังมีแรงก็ยังจะสอนไปเรื่อยๆ ถ้านำไปปฏิบัติแล้วจะได้เอาตัวรอดได้ มาอยู่วัดปากน้ำทำวิชชากับหลวงพ่อ ยายไม่ได้หนีไปไหนเลย คนอื่นเค้ากลับบ้าน เดี๋ยวไปโน่น ไปนี่บ้าง ยายห่วงแต่ธรรมะ รักธรรมะไม่เคยหนีไปไหนเลย คนอื่นจึงรู้ไม่เท่ายาย

สมัยหลวงปู่อยู่ที่วัดปากน้ำ มีผู้ที่นั่งธรรมะกับหลวงปู่ในโรงงานทำวิชชา ก็มีคนที่นั่งสมาธิเก่งๆ หลายๆท่าน ในระดับที่เก่งกว่าคุณยายก็มี หรือว่าในระดับเดียวกับคุณยายก็มี หรือจนกระทั่งเป็นหัวหน้าก็มีหลายท่าน แต่เมื่อหลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้ว ก็เหลือแต่คุณยายเพียงท่านเดียวที่สามารถรักษา สืบสาน สืบทอดวิชชาธรรมกายได้จนถึงปัจจุบันนี้ และได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาและวิชชาธรรมกาย ก็มีอยู่ท่านเดียวจริงๆเลยก็คือคุณยาย

สิ่งเหล่านี้ถามว่าทำไมหลายๆท่านเหล่านั้นหายไป เพราะว่าการที่คุณยายเป็นอย่างนี้ เพราะว่าคุณยายท่านฝึกฝนคุณธรรม สิ่งที่คุณยายเป็นจนกระทั่งเป็นอุปนิสัย เป็นธรรมชาติของท่านมาตลอดชีวิตของท่าน ทำให้ท่านสามารถรองรับวิชชาจากหลวงปู่ไว้ได้ตลอด แม้กระทั่งจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่ท่านจะละสังขาร ธรรมะของท่านก็ยังเฉียบอยู่ตลอดเวลา เพราะคุณยายท่านเคยได้พูดไว้คำหนึ่งว่า ธรรมะของยายตึกร้อยชั้นก็รับไว้ไม่หมด ที่วัดนี่ ๑๙๖ ไร่ ๒๐๐๐ ไร่ก็จุความรู้วิชชาธรรมกายของยายไว้ไม่หมด แต่ตึกร้อยชั้นนี่ต้องมีเสาเข็มที่มั่นคงจึงจะรองรับตึกสูงได้ ถ้าเสาเข็มไม่มั่นคงแล้วก็รองรับไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณธรรมที่คุณยายมีอยู่เหมือนเสาเข็มคุณธรรม ที่ต้องปักแน่น หนาแน่นและมั่นคง ที่จะรองรับความรู้ในวิชชาธรรมกายที่คุณยายมีอยู่ ซึ่งมากกว่าตึกร้อยชั้น

ถ้าย่อๆ คุณยายจะบอกว่า “สิ่งที่คุณยายสอน ก็คือ สิ่งที่คุณยายเป็นและสิ่งที่คุณยายทำให้เราดู พวกเราจะสร้างบารมีไปได้ตลอดรอดฝั่ง จะต้องทำอย่างยายนะ”

คุณธรรมของคุณยายคือ เราจะต้องมีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ, ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ซื่อตรง, มีความขยัน, ประหยัด, อดทน เงียบ, ไม่อยากเด่นอยากดัง, รู้จักอ่อนน้อม, เจียมตัว รู้จักประมาณตัวเอง, มักน้อยสันโดษ, รักความสะอาด ความเป็นระเบียบ, รักกฎระเบียบวินัย และรักการประพฤติพรหมจรรย์ อันนี้คือหัวข้อคร่าวๆที่คุณยายบอกไว้ แต่นี่คือ เสาเข็มที่ท่านฝึกฝนตัวเองมาตลอดชีวิต


โปรดติดตามตอนต่อไป



#2 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2009 - 11:05 PM

ผมรักคุณยายมากครับ จะตั้งใจทำกฐินครั้งนี้ให้สุดกำลัง

ขอกราบอนุโมทนากับพี่ innerspot กับบทความที่เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ต่อนักสร้างบารมีนะครับ
ดีจังเลย

อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#3 *sky noi*

*sky noi*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2009 - 08:29 AM

จะเดินตามรอยเท้าที่ยายก้าวไป
ยายไปไหน
ก็จะไปอยู่ใกล้ยาย

#4 สบาย

สบาย
  • Members
  • 112 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2009 - 12:59 PM

อ่านบทความเกี่ยวกับคุณยายฯ รู้สึกอบอุ่น ดีมาก ๆ คะ


#5 ต้นกล้าธรรม

ต้นกล้าธรรม
  • Members
  • 101 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 13 October 2009 - 11:50 PM

สาธุ กับคุณ Innerspot ด้วยครับผม

คิดถึงคุณยายจัง

smile.gif


#6 ดวงแก้ว ใส ใส

ดวงแก้ว ใส ใส
  • Members
  • 39 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 October 2009 - 07:38 AM

happy.gif คิด ถึง คุณ ยาย จัง เลย..... รัก คุณ ยาย จัง เลย