
เอากายธรรมทั้ง 18 กายมาฝากครับ
#1
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 10:51 AM
1. กายมนุษย์
2. กายมนุษย์ละเอียด
3. กายทิพย์
4. กายทิพย์ละเอียด
5. กายรูปพรหม
6. กายรูปพรหมละเอียด
7. กายอรูปพรหม และ
8. กายอรูปพรหมละเอียด และ
กายที่พ้นภพสามหรือกายโลกุตตระ ๑๐ กาย คือ
1. กายธรรมโคตรภู
2. กายธรรมโคตรภูละเอียด
3. กายพระโสดา
4. กายพระโสดาละเอียด
5. กายพระสกทาคา
6. กายพระสกทาคาละเอียด
7. กายพระอนาคา
8. กายพระอนาคาละเอียด
9. กายพระอรหัต และ
10. กายพระอรหัตละเอียด
#2
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 11:56 AM
สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 12:17 PM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#4
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 12:18 PM
#5
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 12:32 PM
#6
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 01:03 PM
#7
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 01:10 PM
#8
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 01:28 PM
เช่นนี้แล
มรรคมีองค์ 8
#9
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 01:44 PM
ตย. เช่น
1. กายมนุษย์ = หยาบ ?
2. กายมนุษย์ละเอียด = กายฝัน ?
3. กายทิพย์ = กายที่อยู่ในกายฝัน ?
4. กายทิพย์ละเอียด = กายที่อยู่ในกายทิพย์ ?
เป็นต้น
ถาม
1. เวลาเห็นกายในกาย เราจะเห็นพระซ่อนกัน 18 องค์ลดขนาดกันลงไปหรือไม่ครับ (คล้ายกับลูกแก้วที่ใหญ่และมีลูกเล็กลงไปครับ 18 ลูกนะครับ) หรือไม่อย่างไรครับ
2. ถ้าไม่ได้เห็นแบบซ่อนกัน 18 องค์ นั่นหมายความว่า มีองค์ที่ 1 องค์ที่สองจะมาปรากฏทับแทนกัน ใช่ไหมครับ
3. ถ้าเห็นดวงแก้วใส ใจนิ่งแล้ว (เกิดจากจุดเล็ก เท่าปลายเข็ม) กลางดวงแก้วที่เห็นนั้นจะมีองค์พระ ปรากฏขึ้นมาใช่ไหมครับ
4. ถ้าเห็นองค์พระแล้ว องค์พระจะมีขนาดตามที่วิชชาระบุใช่ไหมครับ ว่าองค์ละกี่วา กว้างเท่าไร
5. ไม่ค่อนเข้าใจคำว่า ปฏิโลม-อนุโลมครับ ในความเข้าใจของผมที่อ่านตำราวิชชา หมายถึงการนับกายขึ้น 1-18 และนับจาก 18-1 ใช่ไหมครับ
6. มีตอนหนึ่ง ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน ตอนหนึ่งอธิบายไว้ว่า
"พระผู้มีพระภาคมีพระกายสงบ หลับพระเนตรสนิท พระอนุรุทธเถระ ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่อยู่ในเวลานั้น และได้รับยกย่องจากพระผู้มีพระภาคว่า เป็นเลิศทางทิพยจักษุได้เข้าฌานตาม ทราบว่า พระพุทธองค์เข้าสู่ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน ออกจากจตุตถฌานแล้ว เข้าสู่อรูปสมาบัติคือ อากาสานัญจายตนะ วิญญานณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ และสัญญาเวทยิตนิโรธ ตามลำดับ
แล้วถอยออกมาจากสัญญาเวทยิตนิโรธ จนถึงปฐมฌานแล้วเข้าสู่ปฐมฌาน จนถึงจตุตถฌานอีก * เมื่อออกจากจตุตถฌาน ยังไม่ทันเข้าสู่อากาสานัญจายตนะ พระองค์ก็ปรินิพพานในระหว่างนี้เอง "
ถามว่า มีธรรมกายท่านอยู่ในพุทธสภาวะนี้อย่างไรครับ
อนุโมทนาครับ
#10
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 02:44 PM
#11
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 04:50 PM

#12
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 05:38 PM
#13
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 05:55 PM
แต่อีกมุมหนึ่ง อาจมีผู้รู้จริงมีจิตเมตตา และมาถ่ายทอดให้ ณ ที่นี้ ก็อาจเป็นได้ แต่ผู้รู้จริงก็มีอัธยาศัยของผู้ทรงธรรม
จึงขอแนะนำเบื้องต้นว่า ให้ฟังจากเทปธรรมะของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง
ซึ่งมีหลายตอน ซึ่งกล่าวถึงกายในกาย เป็นแผนผังชีวิต 18 กาย กายที่ละเอียดจะซ้อนอยู่ในกายที่หยาบกว่า ครับ
#14
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 06:11 PM
#15
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 06:28 PM
---------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#16
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 07:28 PM
#17
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 08:19 PM
#18
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 10:21 PM

#19
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 01:10 AM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#20
โพสต์เมื่อ 14 October 2006 - 02:39 PM
อนุโมทนาสาธุค่ะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#21
โพสต์เมื่อ 14 October 2006 - 11:29 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#22
โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 02:45 PM
เราไม่ใช่พระ ตอบไปคงไม่เป็นไร อีกอย่างเอาจากประสบการณ์ ไม่รู้ถูกหรือผิด โปรดพินิจเอาเอง นะครับ
อันนี้ขอตอบจากประสบการณ์ภายในของตัวเองนะครับ (ตอนปฏิบัติธรรมที่นครนายก ประมาณว่าไม่ได้เห็นทุกครั้งที่นั่ง) ถ้าใครเห็นเหมือนกัน หรือแตกต่างกัน สามารถแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
เพื่อจะได้ยืนยันความถูกผิดครับ
1. เวลาเห็นกายในกาย เราจะเห็นพระซ่อนกัน 18 องค์ลดขนาดกันลงไปหรือไม่ครับ (คล้ายกับลูกแก้วที่ใหญ่และมีลูกเล็กลงไปครับ 18 ลูกนะครับ) หรือไม่อย่างไรครับ
ตอบ
ผมจะเข้าที่ 4 กายธรรมก่อนครับ แล้วอาราธนาให้ท่านเชื่อกายให้เราครับจากนั้นถึงจะเข้ากายที่ 1-18 ครับ
กายที่ 1 - 8 เราจะเห็นเป็นตัวเราเองครับ แต่จะเป็นตัวเราที่มีลักษณะใส งามมาก ตั้งแต่กายทิพย์จะมี เครื่องทรง มีชฎา ประหนึ่งว่าเหมือนเทวดาเลยล่ะ แต่ละกายก็จะแตกต่างกันออกไป
ส่วนกายมนุษย์ กับ การมนุษย์ละเอียดจะเป็นเป็นตัวเราเองครับไม่มีเครื่องทรงใดๆ แต่ว่าจะขาวใส ครับ ถ้ากายมนุษย์เราตายไป กายมนุษย์ละเอียดจะเป็นกายที่มารับความทุกข์ต่อจากกายมนุษย์เราครับ
ดังนั้น ใครที่คิดฆ่าตัวตายแล้วจะหลุดพ้น ท่านคิดผิดนะครับ
2. ถ้าไม่ได้เห็นแบบซ่อนกัน 18 องค์ นั่นหมายความว่า มีองค์ที่ 1 องค์ที่สองจะมาปรากฏทับแทนกัน ใช่ไหมครับ
ตอบ
ของผมไม่ใช่ครับ ผมจะเดินใจไป 7 ฐานครับ พอใจเรานิ่งในกายนั้นๆ จนนิ่งได้ที่จะเกิดดวงใส ขึ้นมาผมก็จะเอาใจไปจรดนิ่งตรงที่เป็นรูเข็มที่สว่างสุด อยู่กลางดวงใส ดวงใสจะเพิ่มรัศมีสว่างกว้างออกไป
แล้วจะเกิดดวงใสดวงใหม่ขึ้นมาแทน ผมก็จะทำเหมือนกับที่ทำกับดวงแรก ก็จะเกิดดวงขึ้นมาทั้งหมด 6 ดวงครับ พอดวงที่ 6 สว่างเป็นวงกว้างออกไปถึงจะเกิดกายให้เห็นอีกกายครับ
ผมก็จะทำอย่างนี้ไปจดครบ 18 กายเลย พอกายที่ 18 ผมก็จะเข้ากลาง ผ่านดวงธรรมทั้ง 6 จากนั้นก็จะอาราธนา กายต้นธาตุ (กายธรรมของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ)
ท่านก็ดึงเราไปไว้ที่ศูนย์กลางกายของท่านเอง ครับ หลวงพ่อสดจะช่วยให้เราใจใสใจนิ่งมากขึ้น แล้วก็จะเข้ากลางของหลวงพ่อสดเพื่อไปยังอายตนนิพาน เราจะเห็นพระสมณโคดม
ให้เราไปนมัสการพระสมณโคดม จริงๆ แล้วถ้าไปถึงท่านก็จะดึกเราเลยนะผมว่า แล้วเข้ากลางพระสมณโคดม ไปยังอีกนิพาน ครับ ผมไปแค่ 2 นิพานครับ
แต่ก็ได้ยินมาว่าบางคนไปโดยไม่ผ่านกายต้นธาตุก็มีครับ
3. ถ้าเห็นดวงแก้วใส ใจนิ่งแล้ว (เกิดจากจุดเล็ก เท่าปลายเข็ม) กลางดวงแก้วที่เห็นนั้นจะมีองค์พระ ปรากฏขึ้นมาใช่ไหมครับ
ตอบ
ครับใช่ครับ แต่ต้องหลังจากดวงที่ 6 นะครับ จะเป็นองค์พระก็ตั้งแต่กายที่ 9 จนถึงกายที่ 18 ครับ ส่วนกายที่ 1- 2 นี่ยังเป็นตัวเราอยู่ครับแต่จะใส ครับ
ส่วนกายที่ 3-8 จะเป็นตัวเราแต่งองค์ทรงเครื่องมีชฎา มีมงกุฏด้วยด้วยครับ
4. ถ้าเห็นองค์พระแล้ว องค์พระจะมีขนาดตามที่วิชชาระบุใช่ไหมครับ ว่าองค์ละกี่วา กว้างเท่าไร
ตอบ
ถ้าของผมก็จะตามที่ได้ยินมาครับ กายพระโสดา 5 วา กายสกทาคา 10 วา กายอนาคา 15 วา กายพระอรหัต 20 วา (กะประมาณเอาตามความรู้สึก)
5. ไม่ค่อนเข้าใจคำว่า ปฏิโลม-อนุโลมครับ ในความเข้าใจของผมที่อ่านตำราวิชชา หมายถึงการนับกายขึ้น 1-18 และนับจาก 18-1 ใช่ไหมครับ
ตอบ
ประมาณนั้นครับ คือผมเข้าไปยังไงผมก็ถอยออกมาอย่างนั้นครับ แล้วก็มาอยู่ที่กาย อรหัต ของ 4 กายธรรมแรกครับ
6. มีตอนหนึ่ง ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน ตอนหนึ่งอธิบายไว้ว่า
อันนี้ผมจนปัญญา ครับ
#23
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 18 January 2011 - 03:23 PM