ย่อเรื่อง ทำบุญ 7 วัน, 50 วัน, 100 วัน (5 สิงหาคม 2546) โดย Extra
พ่อของเจ้าของเคสเป็นคนเชียงราย มีพี่น้อง 3 คน ท่านเป็นลูกคนกลาง ครอบครัวของท่านทำนา หลังจากเลิกเรียนตอนเย็น ท่านชอบเข้าวัด ตอนตี 4-5 ท่านจะจุดเทียนอ่านหนังสือ ท่านชอบศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ทำให้ท่านเป็นผู้ชายที่สุภาพเรียบร้อยต่างกับเด็กทั่วไป หลังจากเรียนจบประถมปีที่ 4 ได้บรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ 12 ปี ต่อมาพระอุปัชฌาย์ได้เห็นความขยันหมั่นเพียรของสามเณร จึงขอกับแม่ของสามเณรให้เรียนต่อที่วัดเขาวัง จ.ราชบุรี จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ เนื่องจากสามเณรปฏิบัติตัวดีจึงมีเจ้าภาพจัดงานบวชให้ สามเณรได้อุปสมบทและจำพรรษาที่วัดอภัยไทยาราม ศึกษาบาลีจนจบประโยค 2 และพยายามสอบประโยค 3 แต่สอบไม่ผ่านจึงลาสิกขาเมื่ออายุ 26 ปี ถึงจะสอบไม่ผ่านก็อย่าลาสิกขา
หลังจากนั้นจึงแต่งงานมีลูก 2 คน คือ พี่ชาย กับเจ้าของเคส ต่อมาอายุ 30 ปีได้ไปทำงานต่างประเทศแถบตะวันออกกลางและเริ่มดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งแวดล้อมตรงนั้นเป็นคนงานก่อสร้างจะชวนกันดื่มบ่อยมาก แม้ไม่มีเหตุการณ์อะไรก็จะชวนดื่มได้ และพ่อยังทำสุราขายเพื่อนอีกด้วย ทำงานอยู่ประมาณ 9 ปี ท่านก็กลับบ้านที่กรุงเทพ เริ่มสร้างฐานะกับแม่โดยเปิดร้านอาหาร ตอนหลังเปลี่ยนไปเป็นร้านขายน้ำแข็ง ตอนกลางวันพ่อดูดีมาก พูดจาดี ขยัน เป็นที่รักของคนทั่วไป แต่ตอนกลางคืน ท่านดื่มเหล้าและสูบบุหรี่หนักกว่าตอนกลางวัน ตอนช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเกิดการกู้หนี้ยืมสิน ท่านเครียดมาก ยิ่งเครียดก็ยิ่งดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มากขึ้น และบางครั้งชวนแม่ทะเลาะ คำพูดหวาน ๆ ตอนกลางวันกลายเป็นคำพูดที่ไม่ดี บางครั้งก็หยาบคาย แรก ๆ แม่ก็ทนไหว พอมากเข้าก็โต้ตอบบ้าง หลังจากนั้นก็เกิดสงครามภายในครอบครัว ตอนนั้นเจ้าของเคสยังเด็ก รู้สึกกลัวมาก โชคดีที่ยังมีพี่ชายอยู่ไม่เคยคิดเลยว่าพ่อจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ และจะยิ่งเจ้าโทสะมากขึ้นตามปริมาณเหล้าและบุหรี่
พ่อแม่เป็นเช่นนี้เรื่อยมา เจ้าของเคสพยายามทำทุกวิถีทางให้พ่อเลิกดื่ม ท่านดื่มเหล้าในปริมาณที่มากจนขาดไม่ได้ ดื่มทุกวันวันละครึ่งถึง 1 ขวด ตอนแรกร่างกายของท่านแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส ภายหลังตัวท่านคล้ำลงมาก เดินไม่ค่อยไหว แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนเย็นของวันที่ 8 ก.ค. 2546 พ่อออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อนบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีอาการถ่ายเป็นเลือดและอาเจียนเป็นเลือดในช่วงเวลาเกือบตี 4 ของวันที่ 9 ก.ค. แม่หลับอยู่ ได้ยินเสียงพ่อลงบันไดและตอนขาขึ้น แม่ได้ยินเสียงหายใจเร็วและแรงจนกระทั่งได้ยินเสียงหายใจครั้งสุดท้ายและดังมากแล้วพ่อก็ล้มลงกองกับพื้นเสียชีวิตภายในบ้านนั้นเอง รวมอายุได้ 56 ปี ตลอดเวลาทั้ง 7 วัน เจ้าของเคสพยายามบอกพ่อว่า ให้อยู่ใกล้ลูกแล้วลูกจะอุทิศทุกบุญที่ลูกได้ทำมาให้แก่พ่อ และอธิษฐานจิตให้พ่อเข้าฝันให้ลูกได้เห็นหน้าพ่อก่อนที่ลูกจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าพ่ออีกเลย ในวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งเป็นวันฌาปนกิจศพของพ่อ เธอได้มีโอกาสฝันเห็นพ่อเป็นครั้งสุดท้าย พ่อเดินไปที่ห้องนอนของลูก โดยท่านสวมชุดเดียวกับวันที่ท่านเสียชีวิต เธอลุกขึ้นจับมือท่านเอาไว้ แล้วท่านหันหลังกลับ เธอก็ยังจับมือท่านไว้ พอใกล้พ้นประตูก็มีแสงสว่างวาบ แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาดูนาฬิกาเป็นเวลาตี 4 เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ท่านเสียชีวิตครบ 7 วัน
คำถาม ทำไมพ่อถึงรักเพศสมณะ บวชตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งเป็นพระจบประโยค 2 แต่ในช่วงกลางของชีวิตกลับลาสิกขาและแพ้ภัยสุรา ตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน บุญที่ท่านทำในชาตินี้กับบุญที่เจ้าของเคสอุทิศให้ ทำให้ท่านได้ขึ้นสวรรค์หรือไม่ เจ้าของเคสฝันเห็นพ่อได้เพราะคำอธิษฐานที่ตั้งใจไว้หรือไม่ พ่อทำอะไรบ้างในช่วง 7 วันหลังจากเสียชีวิต ท่านได้รับบุญที่เจ้าของเคสและครอบครัวอุทิศไปให้หรือไม่ การทำบุญ 7 วัน 50 วันและ 100 วันตามประเพณี ผู้ตายจะได้รับบุญต่างกันหรือไม่ ในระหว่าง 7 วันที่พ่อเสียชีวิต คนในบ้านควรทำอย่างไรจึงจะทำให้ท่านรับบุญได้มากที่สุด พ่อ แม่ พี่ชายและเจ้าของเคส เคยทำกรรมใดไว้ถึงได้มาเกิดร่วมกัน ทั้งที่มีนิสัยไม่เหมือนกันเลย มีแต่เจ้าของเคสที่ชอบศึกษาพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเด็กเหมือนพ่อ ทั้ง ๆ ที่พ่อไม่เคยสอนเลย ในครอบครัวทุกคนต่างทำงานหนัก มีแต่เธอเท่านั้นที่สบายที่สุด และมีโอกาสได้สร้างบารมีมากที่สุดเป็นเพราะเหตุใด
คำตอบ พ่อตายอย่างไม่รู้ตัวจากหัวใจวายเฉียบพลัน ใจจึงไม่หมองไม่ใส คตินิมิตจึงไม่ชัดเจนจึงวนเวียนอยู่ในบ้าน 7 วัน พอครบ 7 วันเจ้าหน้าที่ก็มารับตัวไป ก่อนจะไป พ่อขออนุญาตเจ้าหน้าที่ไปหาลูกสาวเพราะเป็นลูกสาวที่พ่อรักมากและได้อธิษฐานจิตเอาไว้ว่าอยากพบพ่อเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าหน้าที่อนุญาต ทำให้ลูกสาวฝันเห็นพ่อได้ ขณะนั้นคล้ายกึ่งหลับกึ่งตื่น ลูกสาวส่งบุญไปให้พ่อได้ทำให้กายของพ่อดูผ่องใสขึ้นกว่าเดิม ท่านไม่ได้ไปมหานรก เพราะตอนละโลก ใจไม่หมองไม่ใส และลูกทำบุญให้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปยมโลกเพราะหมดอายุขัย ขณะนี้รอคิวพิพากษาอยู่ในยมโลก ถ้าพิจารณาถึงบุญบาปแล้วก็คงต้องส่งกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ตามลำพังบุญบาปของตัวเองก็คงจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในยมโลก ซึ่งจะต้องทั้งดื่มเองและกรอกน้ำทองแดงให้สัตว์นรกดื่ม เพราะตัวเองทั้งดื่มและทำขายด้วย แต่บุญที่ลูกสาวอุทิศไปให้เต็มกำลังของเธอกับบุญที่พ่อเคยบวชมาพยุงเอาไว้ ก็จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อแก้ตัวใหม่ แต่กลับมาเกิดก็ลืมอีก ดังนั้น ถ้าบวชให้ดีก็มีบุญพอจะพยุงกันได้
ทำไมต้องทำบุญ 7 วัน 50 วัน 100 วัน การทำบุญช่วง 7 วันคือช่วงที่ยังวนเวียนอยู่ในมนุษย์ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ไปมหานรก ก็จะมีโอกาสช่วยกันได้ใน 7 วันนั้น การทำบุญช่วง 50 วันคือช่วงที่รอคอยการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก การทำบุญระหว่าง 50 - 100 วันคือช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด เช่น ไปเกิดในมหานรก ในยมโลก เป็นมนุษย์ เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น ช่วงนี้จะรับบุญได้ หลักการส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นภายใน 7 วัน 50 วัน ต้องทำบุญทุกบุญให้เต็มกำลังแล้วอุทิศไปให้เพราะเหตุนี้พ่อจึงรับบุญได้เต็มที่ แต่ละคนมีการกระทำไม่เหมือนกัน บุญบาปจึงไม่เหมือนกัน อัธยาศัยจึงไม่เหมือนกันด้วย สำหรับเจ้าของเคสเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาตลอด ชาตินี้จึงมาสร้างต่อ อย่าประมาท ต้องสร้างบารมีกันต่อไปให้ตลอดรอดฝั่ง จะได้ช่วยตัวเองและบุพการีได้ ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ มีการกระทำไม่เหมือนกัน จึงมีอัธยาศัยไม่เหมือนกันภายในครอบครัว
ชาติในอดีตพ่อมีบุญบวชอยู่บ้าง แต่บวชไม่ได้ตลอด บุญนั้นจึงส่งผลให้ชาตินี้มาบวชต่อ แต่ได้เพียงชั่วคราว ที่ดื่มสุราในชาตินี้เพราะขาดกัลยาณมิตรแนะนำ กับขาดบุญที่เป็นกัลยาณมิตรให้คนอื่น
ทำบุญ 7 วัน, 50 วัน, 100 วัน (5 สิงหาคม 2546)
เริ่มโดย extra, Feb 07 2007 10:56 AM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 07 February 2007 - 10:56 AM
#2
โพสต์เมื่อ 07 February 2007 - 02:08 PM
อืม ทราบแล้วครับว่า
การทำบุญช่วง 7 วันคือช่วงที่ยังวนเวียนอยู่ในมนุษย์ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ไปมหานรก ก็จะมีโอกาสช่วยกันได้ใน 7 วันนั้น การทำบุญช่วง 50 วันคือช่วงที่รอคอยการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก
การทำบุญระหว่าง 50 - 100 วันคือช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด เช่น ไปเกิดในมหานรก ในยมโลก เป็นมนุษย์ เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น ช่วงนี้จะรับบุญได้
หลักการส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นภายใน 7 วัน 50 วัน ต้องทำบุญทุกบุญให้เต็มกำลังแล้วอุทิศไปให้
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ
การทำบุญช่วง 7 วันคือช่วงที่ยังวนเวียนอยู่ในมนุษย์ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ไปมหานรก ก็จะมีโอกาสช่วยกันได้ใน 7 วันนั้น การทำบุญช่วง 50 วันคือช่วงที่รอคอยการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก
การทำบุญระหว่าง 50 - 100 วันคือช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด เช่น ไปเกิดในมหานรก ในยมโลก เป็นมนุษย์ เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น ช่วงนี้จะรับบุญได้
หลักการส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นภายใน 7 วัน 50 วัน ต้องทำบุญทุกบุญให้เต็มกำลังแล้วอุทิศไปให้
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 07 February 2007 - 02:29 PM
ขอเสริมคุณปัจเจกชนสักนิดถ้าจะให้ดีตั้งแต่วันที่1-100 ทำบุญแล้วอุทิศบุญทุกวันอย่าได้้เว้นเลยจะดีกว่าครับ ไม่ใช่ว่าถึงวันที่7แล้วถึงไปทำ ถึงวันที่50แล้วค่อยไปทำ ถึงวันที่100แล้วค่อยไปทำ แบบนี้คนที่รอส่วนบุญรอเหงือกแห้งแน่ครับ ดีไม่ดีีไม่ได้รับอีกต่างหากเพราะถูกเจ้าหน้าที่ยันตกหม้อทองแดงไปแล้ว ทำทุกวันไปเลยครับ ดีนักแล หุหุ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#4
โพสต์เมื่อ 07 February 2007 - 04:58 PM
555 รอจนเหงือกแห้งนี่ เข้าใจอารมณ์นั้น เห็นภาพเลย ขอบคุณคุณเคยเข้าวัด มากครับ เป็นหลักวิชาที่มีประโยชน์มาก อนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของกระทู้, เจ้าของเึคส และคุณเคยเข้าวัด ครับ สาธุ