พรหม: ผู้มีฤทธิ์และอายุยืนในพุทธศาสนา
สำรวจความหมายของพรหมในพุทธศาสนา ผู้มีฤทธิ์และอายุยืนยาว แต่ยังต้องเผชิญกับกิเลสและการเวียนว่ายตายเกิด เรียนรู้จากพรหมนิมันติกสูตรและคำสอนในเพจพุทธพจน์เตือนใจเพื่อการเติบโตทางธรรมะ
พวกพรหมจะเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพมาก
หรือจะมีอายุขัยยืนยาวมาก นับเป็นมหากัปขนาดไหน
แต่พรหมก็ยังไม่หมดกิเลส ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่
เพจ พุทธพจน์เตือนใจ
ธรรมะเพื่อประชาชน
พรหมนิมันติกสูตร
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 3,425
"ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ย่อมโคจรส่องทิศให้สว่างอยู่เท่าใด อำนาจของท่านย่อมเป็นไปในพันจักรวาลเท่านั้น ท่านย่อมรู้จักสัตว์ที่เลวและสัตว์ที่ประณีต รู้จักสัตว์ที่มีราคะ และสัตว์ที่ไม่มีราคะ รู้จักจักรวาลนี้และจักรวาลอื่น และรู้จักความมาและความไปของสัตว์ทั้งหลาย" พรหมนิมันติกสูตร
แม้พวกพรหมจะเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพมาก หรือจะมีอายุขัยยืนยาวมากนับเป็นมหากัปขนาดไหน แต่พรหมก็ยังไม่หมดกิเลส ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ถ้าหากหมดกิเลสเหมือนพระอรหันต์ทั้งหลาย ครั้นดับเบญจขันธ์แล้ว ธรรมกายอรหัตก็ตกศูนย์ถูกดูดวูบไปเสวยสุขล้วนๆ อยู่ในอายตนนิพพาน และไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ซึ่งท่านใช้คำว่า ขีณา ชาติ วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตาย ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ก็อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ คือ การขจัดกิเลสอาสวะให้สิ้นไป ท่านก็ทำสำเร็จแล้ว กิจอย่างอื่นนอกจากนี้ไม่มีอีกแล้วส่วนพรหมทั้งหลายนั้นยังไม่พ้นจากสังสารวัฏ ต้องกลับมาเกิดอีก ถึงแม้จะมีอานุภาพมากมาย และมีอายุขัยยืนยาวสักปานใด กิจก็ยังไม่จบสิ้น พรหมจรรย์ยังไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์เหมือนพระอรหันต์ จึงยังต้องวนเวียนอยู่ในภพสามต่อไป
ด้วยเหตุที่พรหมเสวยสุขด้วยอำนาจฌานสมาบัติ เป็นเวลายาวนานมากเป็นมหากัป จึงทำให้ท่านผู้ไปเกิดเป็นพรหมบางท่าน เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองเป็นอมตะ ไม่มีวันแก่และวันตาย ถึงขั้นกลายเป็นสัสสตทิฏฐิ คือมีความเห็นว่า พรหมโลกเที่ยงแท้ที่สุด เป็นจุดที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป เหมือนพกมหาพรหม ซึ่งเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่จุติและไม่อุบัติอีกต่อไป ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าทรงเป็นยอดกัลยาณมิตรให้ จึงละมิจฉาทิฏฐิของตนเองได้
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย หลวงพ่อธัมมชโย"
#เพจพุทธพจน์เตือนใจ
Facebook|https://www.facebook.com/Ven.Apirak/