อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 3,606 ชนะศึกด้วยเมตตาและขันติ พระเจ้าเอกราชแห่งพาราณสีทรงครองราชด้วยทศพิธราชธรรม เอื้อประชาชนทุกกลุ่ม แจกทานวันละหกจุด สี่มุมเมือง กลางเมือง และในพระราชนิเวศน์ และใช้สังคหวัตถุ 4 คือ ให้ทาน พูดดี ทำประโยชน์ และวางตนเสมอมองราษฎร์เหมือนลูกน้อยที่ต้องดูแลด้วยใจเมตตา อำมาตย์คนหนึ่งคิดคด ถูกเนรเทศไปอยู่กับพระเจ้าทัพพเสนะแห่งโกศล แล้วยุยงว่า “พาราณสีอุดมสมบูรณ์ กษัตริย์อ่อนแอ ควรยึด” พระเจ้าทัพพเสนะยังลังเล จึงลองส่งคนปลอมเป็นโจรไปปล้นดู ทว่าพระเจ้าเอกราชกลับไม่ลงโทษ กลับให้ทุนตั้งตัวเพื่อกลับใจ เป็นเมตตาที่ทำให้กษัตริย์โกศลแปลกใจ แต่เมื่อถูกยุยงซ้ำๆ ก็หวั่นไหวในที่สุดและยกทัพมา เมื่อศึกประชิด พระเจ้าเอกราชสั่งทหารว่า “อย่ารบ เราไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา” ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะทรงบำเพ็ญเมตตาและขันติบารมีอย่างแน่วแน่ กองทัพศัตรูจึงยึดเมืองและจับพระองค์พร้อมทหารเอก ไปฝังทั้งร่างเหลือแต่พระเศียรโผล่เหนือพื้นดิน แม้ถูกทำร้าย พระองค์ยังวางใจนิ่ง แผ่เมตตาแก่ผู้รุกราน แล้วเข้าสมาธิ กำหนดฌาน จนเกิดอานุภาพ ดินแหวกออก ร่างลอยขึ้นประทับกลางอากาศ ในเวลาเดียวกัน พระเจ้าทัพพเสนะเกิดความเร่าร้อนทุกข์ทรมาน โหรทูลว่า “เพราะทรงทำร้ายผู้ที่ไม่ตอบโต้” จึงรีบให้ปล่อยตัว เมื่อได้เห็นอัศจรรย์ พระเจ้าทัพพเสนะถามด้วยความสำนึกว่า เหตุใดพระเจ้าเอกราชไม่โกรธเลย ทั้งยังผ่องใสและยิ้ม พระเจ้าเอกราชตรัสว่า “เราไม่ขัดเคือง ขันติเป็นตบะอันยิ่ง เราทำหน้าที่ของผู้ครองธรรมครบแล้ว ทาน ศีล และเมตตาภาวนา จึงไม่เร่าร้อน” จากนั้นทรงสละราชสมบัติ เห็นชัดว่าอำนาจภายนอกนำทุกข์ จึงออกบำเพ็ญเพียรเป็นฤๅษี จบชีวิตด้วยคุณธรรมสูง และไปบังเกิดในพรหมโลก • อ่อนโยน ≠ อ่อนแอ: ไม่ตอบโต้ด้วยโทสะ คือพลังของคนใจใหญ่ • เมตตา+ขันติ เปลี่ยน “สนามรบ” ให้เป็น “สนามธรรม” ได้จริง • ชนะที่แท้คือชนะใจตัวเอง ไม่ใช่ชนะผู้อื่น • ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน คือเมตตาที่ลงมือจริง—ให้โอกาสคนพลาดตั้งหลักใหม่ อำนาจสูงสุดไม่ใช่ยึดเมือง แต่คือยึดใจให้นิ่ง ใส ไม่โกรธเกลียด เมื่อเมตตาและขันติเป็นฐาน ชีวิตส่วนตัว ครอบครัว องค์กร และสังคมจะเย็นลงพร้อมกันทั้งระบบ "จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย หลวงพ่อธัมมชโย" #เพจพุทธพจน์เตือนใจ Facebook|https://www.facebook.com/Ven.Apirak/