เมื่อกี๊ฟังเคสมาครับ
ตอบข้อที่1นะครับ
1.สิ่งที่ราถนานั้นเหมาะกับบุญในตัวที่ทำมา 2 .บุญเก่าที่ทำมาเต็มเปี่ยมและเหมะสมกับสิ่งที่ตนปรารถนา 3.บุญที่ทำมาในปัจจุบันไปเติมเต็มบุญเก่าเต็มในระดับที่เหมาะกับบุญที่ปรานา แต่บุญก่าเจะตอบแทนได้เร็วกว่า ส่วนต้นไม่ปลูกใหม่จะส่งผลตอบแทนนานหน่อยนานหน่อย
แค่อยากถาม
เริ่มโดย ตำรวจรักบุญ, Jul 09 2010 02:51 AM
มี 33 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#32
โพสต์เมื่อ 10 July 2010 - 10:57 PM
...บุญกับบาปดิ้นได้ แต่หลักๆ ใจต้องปลอดกังวล และใสๆให้ได้ ไม่งั้นบุญส่งจะล่าช้า และไม่เต็มที่อ่ะนะ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#33
โพสต์เมื่อ 11 July 2010 - 04:09 PM
ผม pm ไปแล้วลองอ่านดูน่ะครับ สุดกำลังปัญญาแล้วครับ
#34
โพสต์เมื่อ 12 July 2010 - 11:20 AM
ขอแนะนำในเบื้องต้น แบบสั้นๆ นะคะ
ให้ จขกท. ไปศึกษาเรื่องทานที่มีผลมาก และอานิสงค์ของทานที่ทำกับบุคคประเภทต่างๆ ถ้าเรามีเงินน้อยเราต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ....เข้าใจประโยคนี้ไหมคะ?
คุณต้องเลือกทำในสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด คุณจึงจะได้ในสิ่งที่คุ้มค่า
ทานที่ทำในชาตินี้มีโอกาส ส่งผล 20% เท่านั้น หากอยากให้ส่งผลเร็วและแรง ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และที่สำคัญต้องปลื้ม
ทุกสิ่งย่อมมีสาเหตุ มีเหตุและผลของมันเสมอ ให้ย้อนกลับมามองตัวเอง สังเกตุตัวเองให้ละเอียดขึ้น
หลวงพี่ ท่านบอกกับธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษาว่า มีกฎอยู่สามข้อดังนี้ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
๑. ยิ้ม
๒. ยิ้มเข้าไว้
๓. ถ้ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านข้อ ๑ ใหม่
จขกท. จะเอามาใช้บ้างก็ได้นะคะ
1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้ได้เลยหรือ???
อย่างที่บอก บุญในชาตินี้ มีโอกาสส่งผลได้แค่ 20% เท่านั้น
แล้วก็ต้องมาพิจารณาถึงหลักของการส่งผลของบุญตามที่ นรอ.ตะกร้าอีกใบกล่าวไว้
2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วยเป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???
ไม่ใช่แค่การเติมกำลังใจค่ะ เป็นมากกว่าการเติมกำลังใจ เพราะท่านช่วยเราจริงๆ
อีกอย่าง การนึกถึงท่าน ก็ทำให้บุญในตัวเราเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการให้ความเคารพกับผู้ที่ควรเคารพ เหมือนที่ว่าทำไมเราไหว้พระจึงได้บุญ ทำไมบูชาเจดีย์แล้วได้บุญ
3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกทีควรแก้ไขอย่างไร???
อาจยังทำไม่ถูกหลักวิชา ไม่ถูกเนื้อนาบุญ ไม่ถูกบุญที่เราตกหล่น
เช่นอยากใจใส แต่ไปทำทานก็ทำให้ใจใสบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ถ้าไปถือศีลนั่งสมาธิก็เป็นวิธีการที่ถูกต้องที่ทำให้ใจใสขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น
4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???
นั่นอาจเป็นเพราะ เรายังไม่ได้เคยสัมผัสอานิสงค์แห่งบุญด้วยตัวเอง เลยทำให้แม้...คนเล่าเองก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าบุญจะส่งผลแบบนั้นจริงๆ
การแก้ไข ก็ต้องศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มากขึ้น เรื่องที่มีในพระไตรปิฏกเป็นเรื่องจริงๆ ทั้งนั้น
กรณีศึกษาต่างๆ ที่หลวงพ่อนำมาเล่าให้ฟัง ก็เป็นความจริง มีเจ้าของเรื่องมากมายที่ยืนยันในเรื่องเหล่านั้น หากคุณตำรวจฯ ยังค้างคาใจ ก็แนะนำให้ลองหาโอกาสที่จะเจอตัวจริงของท่านเหล่านั้น
ถ้ามีเรื่องอยู่ 10 เรื่องที่เราสงสัยค้างคาใจว่าเป็นจริงหรือไม่ ถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า 3-4 เรื่องเป็นเรื่องจริง ก็ทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าเรื่องที่เหลือ ก็มีโอกาสที่จะเป็นเรื่องจริง
เรื่องอานิสงค์แห่งบุญก็เช่นเดียวกัน
คุณตำรวจ ไม่ต้องรอพิสูจน์กับตัวเองทั้งหมดก็ได้ ให้มองหาเพื่อนกัลยาณมิตรใกล้ตัว ว่าใครที่เคยได้ประสบกับอานิสงค์แห่งบุญนั้นด้วยตัวเองบ้าง
5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริงจนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น
คงเพราะเราตั้งความหวัง และมาตรฐานไว้สูง เมื่อทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้ทำ
ก็ให้เปลี่ยนทัศนคติใหม่ ในการทำเรื่องราวต่างๆ ให้ลุล่วงได้ ก็มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ส่งผลให้เรื่องที่ทำสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน และบางปัจจัยเราก็ไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงได้
ซึ่งเราต้องยอมรับถึงความจริงในเรื่องนี้
6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อยแต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???
บางครั้งคนเราก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำได้ อย่าดูถูกตัวเองเมื่อหมู่คณะได้มอบหมายงานให้ทำค่ะ เพราะถ้าเราเชื่อว่าเราไม่สามารถทำได้ เราก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าเชื่อว่าทำได้ เราก็ทำได้..หรืออย่างน้อยก็ได้ทำ เวลาเรารับบุญกับหมู่คณะฯ ครูบาอาจารย์ท่านดูแลเราเสมอค่ะ อยู่ที่ว่าเราได้นึกถึงท่านหรือไม่ ที่สำคัญเราต้องพยายามเอาใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย และที่สำคัญที่สุดต้องนั่งสมาธิ ก่อนไปทำหน้าที่ที่หมู่คณะฯ มอบหมายให้ค่ะ
ให้ จขกท. ไปศึกษาเรื่องทานที่มีผลมาก และอานิสงค์ของทานที่ทำกับบุคคประเภทต่างๆ ถ้าเรามีเงินน้อยเราต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ....เข้าใจประโยคนี้ไหมคะ?
คุณต้องเลือกทำในสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด คุณจึงจะได้ในสิ่งที่คุ้มค่า
ทานที่ทำในชาตินี้มีโอกาส ส่งผล 20% เท่านั้น หากอยากให้ส่งผลเร็วและแรง ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และที่สำคัญต้องปลื้ม
ทุกสิ่งย่อมมีสาเหตุ มีเหตุและผลของมันเสมอ ให้ย้อนกลับมามองตัวเอง สังเกตุตัวเองให้ละเอียดขึ้น
หลวงพี่ ท่านบอกกับธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษาว่า มีกฎอยู่สามข้อดังนี้ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
๑. ยิ้ม
๒. ยิ้มเข้าไว้
๓. ถ้ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านข้อ ๑ ใหม่
จขกท. จะเอามาใช้บ้างก็ได้นะคะ
1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้ได้เลยหรือ???
อย่างที่บอก บุญในชาตินี้ มีโอกาสส่งผลได้แค่ 20% เท่านั้น
แล้วก็ต้องมาพิจารณาถึงหลักของการส่งผลของบุญตามที่ นรอ.ตะกร้าอีกใบกล่าวไว้
QUOTE
1.สิ่งที่ปราถนานั้นเหมาะกับบุญในตัวที่ทำมา
2.บุญเก่าที่ทำมาเต็มเปี่ยมและเหมะสมกับสิ่งที่ตนปรารถนา
3.บุญที่ทำมาในปัจจุบันไปเติมเต็มบุญเก่าเต็มในระดับที่เหมาะกับบุญที่ปรานา แต่บุญเก่าเจะตอบแทนได้เร็วกว่า เป็นธรรมดาที่ต้นไม้ปลูกใหม่จะออกผลช้ากว่าต้นที่ปลูกก่อน
2.บุญเก่าที่ทำมาเต็มเปี่ยมและเหมะสมกับสิ่งที่ตนปรารถนา
3.บุญที่ทำมาในปัจจุบันไปเติมเต็มบุญเก่าเต็มในระดับที่เหมาะกับบุญที่ปรานา แต่บุญเก่าเจะตอบแทนได้เร็วกว่า เป็นธรรมดาที่ต้นไม้ปลูกใหม่จะออกผลช้ากว่าต้นที่ปลูกก่อน
2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วยเป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???
ไม่ใช่แค่การเติมกำลังใจค่ะ เป็นมากกว่าการเติมกำลังใจ เพราะท่านช่วยเราจริงๆ
อีกอย่าง การนึกถึงท่าน ก็ทำให้บุญในตัวเราเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการให้ความเคารพกับผู้ที่ควรเคารพ เหมือนที่ว่าทำไมเราไหว้พระจึงได้บุญ ทำไมบูชาเจดีย์แล้วได้บุญ
3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกทีควรแก้ไขอย่างไร???
อาจยังทำไม่ถูกหลักวิชา ไม่ถูกเนื้อนาบุญ ไม่ถูกบุญที่เราตกหล่น
เช่นอยากใจใส แต่ไปทำทานก็ทำให้ใจใสบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ถ้าไปถือศีลนั่งสมาธิก็เป็นวิธีการที่ถูกต้องที่ทำให้ใจใสขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น
4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???
นั่นอาจเป็นเพราะ เรายังไม่ได้เคยสัมผัสอานิสงค์แห่งบุญด้วยตัวเอง เลยทำให้แม้...คนเล่าเองก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าบุญจะส่งผลแบบนั้นจริงๆ
การแก้ไข ก็ต้องศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มากขึ้น เรื่องที่มีในพระไตรปิฏกเป็นเรื่องจริงๆ ทั้งนั้น
กรณีศึกษาต่างๆ ที่หลวงพ่อนำมาเล่าให้ฟัง ก็เป็นความจริง มีเจ้าของเรื่องมากมายที่ยืนยันในเรื่องเหล่านั้น หากคุณตำรวจฯ ยังค้างคาใจ ก็แนะนำให้ลองหาโอกาสที่จะเจอตัวจริงของท่านเหล่านั้น
ถ้ามีเรื่องอยู่ 10 เรื่องที่เราสงสัยค้างคาใจว่าเป็นจริงหรือไม่ ถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า 3-4 เรื่องเป็นเรื่องจริง ก็ทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าเรื่องที่เหลือ ก็มีโอกาสที่จะเป็นเรื่องจริง
เรื่องอานิสงค์แห่งบุญก็เช่นเดียวกัน
คุณตำรวจ ไม่ต้องรอพิสูจน์กับตัวเองทั้งหมดก็ได้ ให้มองหาเพื่อนกัลยาณมิตรใกล้ตัว ว่าใครที่เคยได้ประสบกับอานิสงค์แห่งบุญนั้นด้วยตัวเองบ้าง
5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริงจนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น
คงเพราะเราตั้งความหวัง และมาตรฐานไว้สูง เมื่อทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้ทำ
ก็ให้เปลี่ยนทัศนคติใหม่ ในการทำเรื่องราวต่างๆ ให้ลุล่วงได้ ก็มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ส่งผลให้เรื่องที่ทำสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน และบางปัจจัยเราก็ไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงได้
ซึ่งเราต้องยอมรับถึงความจริงในเรื่องนี้
6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อยแต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???
บางครั้งคนเราก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำได้ อย่าดูถูกตัวเองเมื่อหมู่คณะได้มอบหมายงานให้ทำค่ะ เพราะถ้าเราเชื่อว่าเราไม่สามารถทำได้ เราก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าเชื่อว่าทำได้ เราก็ทำได้..หรืออย่างน้อยก็ได้ทำ เวลาเรารับบุญกับหมู่คณะฯ ครูบาอาจารย์ท่านดูแลเราเสมอค่ะ อยู่ที่ว่าเราได้นึกถึงท่านหรือไม่ ที่สำคัญเราต้องพยายามเอาใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย และที่สำคัญที่สุดต้องนั่งสมาธิ ก่อนไปทำหน้าที่ที่หมู่คณะฯ มอบหมายให้ค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป