Jump to content


Photo
* * * * * 1 votes

ปฏิจจสมุปบาท...ธรรมะที่เราควรจะต้องรู้


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
11 replies to this topic

#1 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1,368 posts

Posted 03 June 2006 - 09:35 PM

ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์

พระอานนท์ - ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็จะควรเรียกว่า ภิกษุผู้ฉลาดในปฏิจจสมุปบาทด้วยเหตุอันใด ฯ
พระพุทธเจ้า - ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้อย่างนี้ว่า

ทรงแสดงธรรมอิทัปปัจจยตา
เมื่อเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี เพราะเหตุนี้เกิดขึ้น ผลนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อเหตุนี้ไม่มี ผลนี้จึงไม่มี เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ
คือ

QUOTE
ทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทแบบอนุโลม (พิจารณาการเกิดของทุกข์เป็นลําดับขั้น)
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส

อย่างนี้เป็นความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้


ทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทแบบปฎิโลม (พิจารณาการดับของทุกข์เป็นลําดับขั้น)
แต่เพราะอวิชชานั่นแลดับด้วยวิราคะไม่มีส่วนเหลือ จึงดับสังขารได้
เพราะสังขารดับ จึงดับวิญญาณได้
เพราะวิญญาณดับ จึงดับนามรูปได้
เพราะนามรูปดับ จึงดับสฬายตนะได้
เพราะสฬายตนะดับ จึงดับผัสสะได้
เพราะผัสสะดับ จึงดับเวทนาได้
เพราะเวทนาดับ จึงดับตัณหาได้
เพราะตัณหาดับ จึงดับอุปาทานได้
เพราะอุปาทานดับ จึงดับภพได้
เพราะภพดับ จึงดับชาติได้
เพราะชาติดับ จึงดับชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ได้

อย่างนี้เป็นความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้

ดูกรอานนท์ ด้วยเหตุเท่านี้แล จึงควรเรียกได้ว่า ภิกษุผู้ฉลาดในปฏิจจสมุปบาท
(พระสุตตันตปิฎก เล่ม๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ข้อ๒๔๔ หน้า๑๖๔)

มีพุทธพจน์ตรัสเตือนไว้ ไม่ให้ประมาทหลักปฏิจจสมุปบาทนี้ว่าเป็นหลักเหตุผลที่เข้าใจง่าย เพราะมีเรื่องที่พระอานนท์เข้าไปกราบทูลพระองค์ และพระองค์ได้ตรัสตอบ มีความดังนี้

พระอานนท์ - "น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาเลยพระเจ้าข้า หลักปฏิจจสมุปบาทนี้ถึงจะเป็นธรรมลึกซึ้ง และปรากฏเป็นของลึกซึ้ง แต่ก็ยังปรากฏแก่ข้าพระองค์เหมือนเป็นธรรมง่ายๆ"
พระพุทธเจ้า - "อย่ากล่าวอย่างนั้น อย่ากล่าวอย่างนั้น อานนท์ ปฏิจจสมุปบาทนี้เป็นธรรมอันลึกซึ้ง และปรากฏเป็นของลึกซึ้ง เพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่แทงตลอดหลักธรรมข้อนี้แหละ หมู่สัตว์นี้จึงวุ่นวายเหมือนเส้นด้ายที่ขอดกันยุ่ง..........ฯลฯ."

(ที่มา สํ.นิ. ๑๖/๒๒๔-๕/๑๑๐-๑)

กล่าวโดยรวม คือ ปฏิจจสมุปบาท เป็นพระธรรมที่ว่าด้วยสาเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และ ถ้าต้องการทำให้การเดินทางในสังสารวัฏของเราหักสะบั้นลง ก็ต้อง ดับที่ต้นเหตุ คือ อวิชชา เพราะเมื่ออวิชชาดับ เหตุและป้จจัยที่ตามมาเป็นลูกโซ่ก็ดับไปตามลำดับ ตามขั้นตอนดังที่พระพุทธองค์ได้แสดงเอาไว้ที่ข้างบนนั่นเอง ดังนั้นเราจึงได้ยินพระท่านเทศน์ว่า อวิชชา นั้นเป็นตัวร้าย เราจำเป็นต้องกำจัดทิ้งไงครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#2 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1,209 posts

Posted 04 June 2006 - 07:26 AM

ยอดเยี่ยมมากครับ ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์

ลองอ่านดูแล้วเหมือนของง่าย ธรรมบางอย่างฟังดูเหมือนของง่าย ตีความแล้วอาจไม่ง่าย

ดับอวิชชาด้วยวิราคะ( ความคลายกำหนัด ปล่อยวาง)ไม่มีส่วนเหลือ ทุกอย่างจึงดับตาม

วิราคะ คือ คลายกำหนัด ปล่อยวาง ไม่ยึดติด บางทีดูเหมือนง่ายเพราะบางทีก็ปล่อยวาง
ได้ บางทีที่เราปล่อยวางได้อาจจะเปรียบคล้าย ๆ นิพพาน พูดแล้วฟังเหมือน
ของง่าย แต่ ที่จริงแล้วไม่ง่าย

ขอบคุณมาก ที่หาธรรมะที่ลึกซึ้งมาทำให้เข้าใจได้ ง่าย ๆ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#3 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2,171 posts
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

Posted 06 June 2006 - 09:59 PM

nerd_smile.gif สาธุ... ครับ ธรรม (เหตุ) ทั้งหลายย่อมมีปัจจัยอุดหนุนให้เกิด ที่จะเกิดโดยไม่มีเหตุมีปัจจัยอุดหนุนนั้น เป็นไม่มี
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#4 niwat

niwat
  • Members
  • 1,420 posts
  • Gender:Male

Posted 07 June 2006 - 08:49 AM

อนุโมทนาบุญกับการให้ธรรมทานด้วยครับ...
เรียบเรียงให้อ่านง่าย...อ่านแล้วได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตดีมากๆครับ

#5 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1,423 posts
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

Posted 07 June 2006 - 11:25 AM

ขออนุโมทนาบุญค่ะ
ชีวิต เป็นเหตุเป็นผลกัน สภาพปัจจุบันเกิดมาจากเหตุ ประกอบเหตุ ให้ดี ก็จะได้ผล ดีๆ
ยอมรับความจริงได้ ใจจะสงบ happy.gif
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#6 watcharasit

watcharasit
  • Members
  • 17 posts
  • Location:49/10 ถนนเลี่ยงเมือง หมู่23 ตำบลขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลฯ. 34000
  • Interests:กฏแห่งกรรม

Posted 09 June 2006 - 07:54 AM

้เหตุ ของ การเวียนว่าย
วัชรสิทธิ์ ศรีธัญรัตน์

#7 กาแฟเย็น

กาแฟเย็น
  • Members
  • 121 posts
  • Location:milan
  • Interests:วาดการ์ตูน เล่นคอมกับโปรแกรมแต่งรูปต่างๆ ชอบถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน

Posted 03 July 2006 - 05:19 PM

เราอ่านข้อธรรมะแล้วเหมือนจะง่ายๆ แต่อันที่จริงมันก็ไม่ง่าย คนเราจึงยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้

#8 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 posts

Posted 14 September 2006 - 07:08 PM

ขออนุโมทนาครับ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#9 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4,109 posts
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

Posted 08 March 2007 - 02:48 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ

#10 sangsavang

sangsavang
  • Members
  • 1 posts

Posted 18 July 2007 - 04:20 PM

สาธุขออนุโมทนาด้วยครับ

แล้วไม่รูปประกอบหรือครับ
อยากได้รูปเอามาพิมให้ผู้อื่นได้ดูด้วย

#11 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 posts
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

Posted 15 September 2009 - 10:22 AM

สาธุครับผม
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#12 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 posts
  • Gender:Female

Posted 13 July 2010 - 10:15 PM

สาธุ ๆ ๆ ค่ะ ดีมากเลย