คือว่าพอนั่งแล้วนึกถึงดวงแก้วนึกไม่ออกท่องสัมมาอะระหังก็ฟุ้ง ตอนนี้เลยสวดสรรเสรญหลวงปู่แล้วนึกเหรียญหลวงปู่ปราบมารไว้ในท้องจะนึกออกแล้วไม่ฟุ้ง เพราะปกติจะอาราธนาและสวดสรรเสริญเหรียญหลสวงปู่ปราบมารทุกเช้าแล้วจึงคล้องคอไปทำงานตอนเย็นก็สวดสรรเสริญอีกรอบแล้วเอาไว้ที่หิ้งพระรู้สึกว่าตอนอาราธนาสวดสรรเสริญแล้วใจมันนั่งและนึกรูปเหรียญไว้กลางท้องได้ดีจึงนำมาประยุกต์ตอนนั่งสมาธิอยากทราบว่าได้ไหมคะแล้วทำอย่างนี้จะเข้าถึงธรรมได้ไหมขอบคุณค่ะ
ถามเรื่องการนั่งสมาธิ
เริ่มโดย art2007, Feb 11 2008 06:32 PM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 February 2008 - 06:32 PM
#2
โพสต์เมื่อ 11 February 2008 - 06:54 PM
ก็ได้หนิครับ - -"
#3
โพสต์เมื่อ 11 February 2008 - 08:51 PM
เริ่มต้นอะไรก็ได้ แต่ลงท้ายที่ศูนย์กลางกาย..สาธุค่ะ..อนุโมทนาบุญค่ะ

#4
โพสต์เมื่อ 11 February 2008 - 09:52 PM
สาธุครับ
#5
โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 08:31 AM
ขอตอบว่าได้ครับ ขอเพียงให้ใจหยุดที่ศูนย์กลางกาย ไม่ว่าวิธีไหนก็ได้ครับ หรือจะนึกถึงบุญที่เราทำในแต่ละบุญก็ได้ แต่ให้นึกที่ศูนย์กลางกายก็ได้ครับ แต่ที่ไม่สมควรอย่างยิ่งคือนึกถึงหน้าแฟนครับ ไม่เหมาะสักเท่าไหร่
หากใจมันฟุ้งก็ให้มันฟุ้งไปครับ บอกกับใจว่าหากยังฟุ้งอยู่ก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ลุกไปไหน เดี๋ยวใจมันจะกลัวเลิกฟุ้งไปเองครับ จริงๆนะครับไม่ได้โม้! ^ ^"
หากใจมันฟุ้งก็ให้มันฟุ้งไปครับ บอกกับใจว่าหากยังฟุ้งอยู่ก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ลุกไปไหน เดี๋ยวใจมันจะกลัวเลิกฟุ้งไปเองครับ จริงๆนะครับไม่ได้โม้! ^ ^"
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 11:06 AM
สาธุค่ะ

#7
โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 11:48 AM
สุดยอดเลยครับ ผมก็พกหลวงปู่ฯ ติดตัวเสมออ่ะครับ เคยขี่รถล้ม แต่ไม่เป็นอะไรมาก ระบมที่ก้นกบนิหน่อยครับ
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย
นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ
#8
โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 03:08 PM
ขอถามการนั่งสมาธิหน่อยค่ะ. ถ้านั่งไปซักพักรู้สึกวูบหลับน่ะค่ะและก็จะตื่นแล้วนั่งต่อโดยรู้สึกตัวโดยตลอดเวลาจน
หมดเวลาของช่อง DMC (คือนั่งสมาธิตามช่อง DMCน่ะค่ะ) อย่างนี้ถือว่าใช้ได้หรือไม่คะ. หรือขยับขาหรือตาบ้าง
ได้ไหมคะ. ผู้ที่ทราบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการนั่งสมาธิแบบถูกวิธีช่วยแนะนำด้วยนะคะ
#9
โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 09:21 AM
คำตอบคือได้ครับ เป็นอาการปกติของผู้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญ อาจมีเผลอวูบหลับไปบ้าง ขาชาบ้าง เกร็งบ้าง ตั้งใจมากจนบีบเปลือกตาบ้างซึ่งวิธีแก้ก็ง่ายๆ หากง่วงหรือวูปหลับ ก็งีบหลับสักแปปแต่อย่ายาวนะครับ เมื่อยหรือเกร็งก็ขยับสักนิดให้ร่างกายผ่อนคลาย ตั้งใจมากไปก็ลืมตาเพื่อให้คลายจากการบีบเปลือกตา ทำได้ทุกอย่างครับเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายไม่เกร็งไม่เครียดจนเกินไป ยกเว้นหลับเท่านั้นครับ
มีทริปแนะนำสักเล็กน้อยนะครับ
1. ถ้ารู้สึกเมื่อยหรือขาชาอย่าขยับจะดีกว่านะครับ อย่าไปสนใจความรู้สึกนั้น เพราะถ้าขยับจะเกิดอาการปวดอย่างมากถึงมากที่สุด ถ้าจะขยับให้ปวดยิ่งขึ้นแล้วล่ะก็สู้อดทนรอปวดทีเดียวหลังเลิกนั่งจะดีกว่า จริงไหมครับ
2. ก่อนนั่งหาเบาะมารองยกก้นขบให้สูงกว่าปลายเท้าสักเล็กน้อย จะช่วยยืดเวลาไม่ให้ขาชาได้ครับ
3. ถ้าหากกลัวจะปวดขามาก ให้นั่งเก้าอี้แทนการนั่งขัดสมาธิก็ได้ครับ เพียงแต่มีข้อแม้ว่าอย่านั่งพิงพนักพิง ตั้งตัวตรงจะช่วยในเรื่องบุคลิคของเราด้วยครับ
มีทริปแนะนำสักเล็กน้อยนะครับ
1. ถ้ารู้สึกเมื่อยหรือขาชาอย่าขยับจะดีกว่านะครับ อย่าไปสนใจความรู้สึกนั้น เพราะถ้าขยับจะเกิดอาการปวดอย่างมากถึงมากที่สุด ถ้าจะขยับให้ปวดยิ่งขึ้นแล้วล่ะก็สู้อดทนรอปวดทีเดียวหลังเลิกนั่งจะดีกว่า จริงไหมครับ
2. ก่อนนั่งหาเบาะมารองยกก้นขบให้สูงกว่าปลายเท้าสักเล็กน้อย จะช่วยยืดเวลาไม่ให้ขาชาได้ครับ
3. ถ้าหากกลัวจะปวดขามาก ให้นั่งเก้าอี้แทนการนั่งขัดสมาธิก็ได้ครับ เพียงแต่มีข้อแม้ว่าอย่านั่งพิงพนักพิง ตั้งตัวตรงจะช่วยในเรื่องบุคลิคของเราด้วยครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#10
โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 02:14 PM


หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย
นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ