
---บ่อนคาสิโน คอมเพล็กซ์---
#1
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 09:14 PM
จะเอาของผิดให้เป็นของถูก อุบาว์ทมันจะลง
ในความคิดเห็นส่วนตัว
ต่อไปหลังจากบ่อน ก็จะมีการทำแท้งเสรี แน่ ๆ เพราะนักการเมืองสามารถพูดให้ของผิดเป็นของถูก
ว่าการทำแท้งเถื่อนมันอันตราย เกิดการติดเชื้อ ไม่ปลอดภัย
เล่นการพนันกันทั้งวันทั้งคืน อั้นอุจาระปัสสาวะ งานการไม่ทำ ประเทศชาติหายนะกับเรื่องพวกนี้ เล่นการพนันมันติด เล่นกันจนข้ามวันข้ามคืน เสียไปเท่าไรก็อยากถอนทุนคืน
พูดของผิดให้เป็นของถูก นักการเมืองไม่น่าเป็นอย่างนี้เลย เสียแรงที่เลือกไป
การพัฒนาประเทศเราต้องพึ่งโสเภณี กับ การพนัน พร้อมด้วยเหล้า บุหรี่ น่าสงสารประเทศไทยจริง ๆ
เยาวชนไทยที่โตขึ้นมาเวลากับสิ่งแวดล้อมแบบนี้ จะไปในทิศทางไหน
เพื่อเงิน ตัวเดียว เราต้องเสียอะไรไปบ้าง
เมื่อวานได้ฟังครูหยุย ตอบคำถาม นายสังสิทธิ์ ได้ดีมาก รายการตาสว่าง ช่อง 9
นายสังสิทธิ์ : ประเทศรอบ ๆ เปิดบ่อนกันหมดแล้ว
ครูหยุย : ประเทศอื่นมันเลว แล้วเราต้องเลวตามหรือไง ความทัดเทียมกันเรื่องความเลวเราต้องการหรือไง
ทำไมเราต้องเอาของไม่ดีมาใส่ในบ้านตัวเองหล่ะ ???? ทำไมต้องเลียนแบบสิ่งไม่ดีมา
ครูหยุย : บ่อนขัดต่อนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงที่ยั่งยืน ซึ่งปรารกฎอยู่ในรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 2 มาตรา
บ่อนเป็นความจำเป็นตรงไหน บ่อนสนองนโยบายตรงไหน
#2
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 09:37 PM
#3
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 09:45 PM
#4
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 09:57 PM
#5
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 11:00 PM
แหม่ ความคิดช่างมีศีลธรรมเสียจริง จะมีบ่อนคาสิโนเพื่อการท่องเที่ยว ในขุดก่อน ได้หวยบนดินมา มันก็ส่งเสริมอบายมุขอย่างโจ่งแจ้งอยู่แล้ว ประเทศไทยยุคนี้ ชอบทำดำให้เป็นขาว
Edit by Admin
#6
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 06:58 AM
#7
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 09:46 AM
เอาเป็นว่าเราก็รักษาใจใสๆ แล้วช่วยกันแผ่เมตตา ให้เขาเลิกคิดอย่างนี้ซะ
หรือถ้าอยากได้บุญใหญ่
ก็ช่วยกันเขียนเรื่องราว โทษของการพนัน แบบเป็นเคสจริง ๆ
ถวายคุณครูไม่ใหญ่ ท่านจะได้มีข้อมูลเอาไปเล่าในโรงเรียนค่า...
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15344
เขียนโล้ดๆ นอกจากได้ช่วยชาติแล้ว ยังได้บุญใหญ่กันอีกค่า
สาธุๆ
#8
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 10:00 AM
ไหนจะหวยบนดิน ไหนจะเอาน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ นี่จะเปิดบ่อนเสรีอีกแล้ว สงสารบรรพบุรุษเราจริง ๆ เลย
เริ่มต้นไว้อย่างดี สั่งสมบุญบารมีมาจนรุ่นลูกรุ่นหลานได้อยู่กันอย่างมีความสุขสบาย แต่บัดนี้คนรุ่นนี้กำลังจะทำลาย
สิ่งดี ๆ ที่บรรบุรุษสร้างสมไว้ดีแล้วนี้เสียยับเยิน แล้วอนาคตลูก ๆ หลาน จะเป็นอย่างไร
เมื่องไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองของพระพุทธศาสนา โปรดอย่าให้เป็นแหล่งรวมอบายมุขเลย
จน... เครียด... ไปทำบุญ...แบบนี้แน่นอนกว่าเนอะ
#9
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 10:29 AM
เปิดเสรีแหล่งอบายมุข
เล่นพนัน ไปขุมหก
เล่นพนันแล้วก็ต้องเสพน้ำเมา เหล้าบุหรี่ ค้ายาบ้า ยาเสพติด ไปต่อที่ขุมห้า
เล่นพนันกับการโกหก เพราะไม่มีนักผนันพูดความจริง จากขุมห้า ไปต่อที่ขุมสี่
ถ้าได้ก็พาไปเสพกาม เสียก็ไปล่อลวง อยากได้เงินก็ประกอบธุรกิจน้ำกาม ไปขุมสาม
ไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ไปลักขโมย เป็นโจรปล้นชิง ฉ้อโกง ต่อขุมสอง
ติดหนี้สิน ฆ่าคนล้างหนี้ ไปขุมหนึ่ง
ทัวร์นรกโดยแท้
Y_Y
#10
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 11:28 AM
#11
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 03:42 PM
บันทัดสุดท้ายไม่ค่อยจะเหมาะสมต่อวัดนะครับ
กรุณาช่วยedit ลบออกบันทัดสุดท้ายบันทัดเดียวเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมจะขอบพระคุณมากนะครับ
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 05:41 PM
แต่เมื่อได้รู้จักกับการพนัน ก็ละทิ้งความรับผิดชอบต่อครอบครัวและธุรกิจการค้าของตนทั้งๆ ที่ความจริงก็เป็นคนรักลูกมาก ครอบครัวขัดสน เกิดการทะเลาะตบตีภรรยาเกือบทุกวันไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือดึกดื่นค่อนคืน ลูกๆ หวาดผวา นอนสะดุ้งอยู่ตลอดว่าแม่จะถูกตีเมื่อใด บางครั้งภรรยาถูกเตะจนกระทั่งแท้งลูก จนกรทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งภรรยาถึงขั้นยื่นมีดให้สามีเพื่อให้ฆ่าตนเองให้ตายไปเลยจะดีกว่า แต่ยังดีที่สามียังมีสติและลูกๆ ช่วยกันห้ามไว้ จึงไม่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
ที่จริงแล้ว ครอบครัวนี้ขยันขันแข็งและมัธยัสถ์กันทุกคน โดยเฉพาะภรรยา แต่ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน ก็ยังลำบากขัดสน เพราะเงินหมดไปกับการพนัน ทั้งไพ่ ล็อตเตอรี่ หวยใต้ดิน และการแทงม้า
นี่แหละค่ะ โทษของการพนัน แล้วท่านผู้บริหารบ้านเมืองยังคิดจะสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนเสรีอีกหรือคะ ไม่มีได้หรอกค่ะมีแต่เสีย เพราะที่ท่านคิดว่าได้นั่นน่ะ จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ภาพลวงตา โปรดเลิกความคิดนั้นเสียเถิดค่ะ เพื่อเห็นแก่คนไทย โดยเฉพาะเยาวชนไทยที่จะต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาพครอบครัวที่มีปัญหา ที่จะกลายเป็นต้นแบบที่ไม่ดีให้เด็กๆ เหล่านั้นนำไปประพฤติตามอย่างกันร่นต่อรุ่น หากเป็นเช่นนั้น ถึงวันหนึ่งข้างหน้า เราอาจจะไม่มีแผ่นดินไทยในโลกนี้ ให้อยู่อาศัยนะคะ ....โปรดเลิกความคิดนั้นเถอะค่ะ!
#13
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 08:01 PM
#14
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 10:51 PM
คงจะยังไม่รู้ถึงโทษและบาปของการกระทำเช่นนี้กระมัง...
.....บุกเบิกไปให้ก้าวไกล ถึงคราวพวกเราเติบใหญ่ ชาติไทยได้พัฒนา....
#16
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 12:37 PM
โปรดสัตว์โลก ปิดนรก ให้สังคมส่วนรวม
#17
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 03:50 PM
ลองใจเย็นๆดีกว่า หนูว่าเราเป็นคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเค้าก็น่าจะฟังความเห็นอย่างแน่นอน
ถ้าหากไม่ละก็.....แฮะๆๆ เตรียมตัวลุย เหมือนน้ำเมาแน่นอน อิอิ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#18
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 05:55 PM

#19
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 08:30 PM
#20
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 10:04 PM
งง เครียด นั่งสมาธิ
#21
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 11:47 PM
#22
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 11:09 AM
โดยใช้เบี้ยเล่นแทนเงิน เมื่อเลิกเล่นจึงเอาเบี้ยไปขึ้นเป็นเงิน
สถานที่เล่นพนันจึงเรียกว่า "บ่อนเบี้ย"
และการเล่นพนันถั่วและโปจึงเรียกว่า "เล่นเบี้ย"
ในคราวนั้น แม้รัฐจะมีรายได้จาก "อากรบ่อนเบี้ย"
มาใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ
แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 (พระพุทธเจ้าหลวง)
ทรงตระหนักถึงภัยอันใหญ่หลวงของบ่อนเบี้ยการพนัน
ดังความบางตอนในพระราชหัตถเลขา
พระราชทานกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า
"...ได้เรียนตำราเล่นเบี้ยอย่างฝรั่งเข้าใจ
ข้อซึ่งเข้าใจกันว่าเล่นไม่น่าสนุกนั้นไม่จริงเลย
สนุกยิ่งกว่าอะไรๆหมด
ถ้าชาวบางกอกได้รู้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ
ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร
จะรอช้าแต่สักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที"
พระองค์เห็นว่าการมีราษฎรมัวเมาในการพนัน
ย่อมเป็นเหตุนำไปสู่ความวิบัติ ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม
ในความมั่นคงของประเทศชาติ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการปรับปรุงงานพระคลัง
เพื่อหารายได้อื่น มาทดแทนรายได้จากอากรบ่อนเบี้ย
โดยมีประกาศเริ่มลดจำนวนบ่อนลงเรื่อยๆ
จากที่เคยมีกว่า 400 ตำบล ในแขวงกรุงเทพฯ ในพ.ศ.2431
ลดเหลือ 47 ตำบลในพ.ศ.2433 และเหลือ 9 ตำบลในพ.ศ.2453
ซึ่งแม้จะใช้เวลายาวนาน
แต่พระองค์ก็ไม่ทรงย่อท้อ
ด้วยความมุ่งมั่นอันประเสริฐและความปรารถนาดี
ต่อพสกนิกรโดยแท้จริง
ดังที่ทรงนิพนธ์ไว้ว่า
"การเล่นเบี้ยนั้น เป็นที่ไม่ต้องพระอัธยาศัยมาทุกๆพระเจ้าแผ่นดิน
เพราะฉะนั้นควรที่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ
ผู้ซึ่งมีความนับถือต่อพระบารมี
และพระเดชพระคุณพระเจ้าแผ่นดินสืบๆ กันมา
ควรจะคิดตริตรองให้เห็นโทษเห็นคุณตามที่จริง
และงดเว้นการสนุกและการหาประโยชน์ในเรื่องเล่นเบี้ยนี้เสีย
จะได้ช่วยกันรับราชการฉลองพระเดชพระคุณทะนุบำรุงแผ่นดิน
เพิกถอนความชั่วในเรื่องเล่นเบี้ย
ซึ่งอบรมอยู่ในสันดานชนทั้งปวงอันอยู่ในพระราชอาณาเขต
เป็นเหตุจะเหนี่ยวรั้งความเจริญของบ้านเมืองให้เสื่อมสูญไป
ด้วยกำลังที่ช่วยกันมากๆ และเป็นแบบอย่างความประพฤติ
ให้คนทั้งปวงเอาอย่าง ตามคำนักปราชญ์ย่อมกล่าวว่า
การที่ทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง
ง่ายกว่าที่จะสั่งสอนด้วยปาก
ถ้าเจ้านายขุนนางประพฤติเล่นเบี้ยอยู่ตราบใด
คนทั้งปวงก็ยังเห็นว่าไม่สู้เป็นการเสียหายมาก
ผู้มีบรรดาศักดิ์จึงยังประพฤติอยู่
ถ้าผู้มีบรรดาศักดิ์ละเว้นเสีย ให้เห็นว่า
ความพยายามเช่นนั้นเป็นของคนต่ำช้าประพฤติแล้ว
ถึงแม้จะเลิกขาดสูญไปไม่ได้ก็คงจะเบาบางลงได้เป็นแท้.."
แต่แล้ว พระราชดำริในการเลิกบ่อนเบี้ยให้สิ้นไปทั้งหมด
ของพระพุทธเจ้าหลวงก็ยังไม่บรรลุสำเร็จ เพราะพระองค์สวรรคตเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6)
ได้ทรงรับพระราชภารกิจเลิกบ่อนเบี้ยมาดำเนินการต่อ
แม้บ้านเรือนในขณะนั้นจะมีความจำเป็นต้องอาศัยรายได้ดังกล่าว
แต่ก็ทรงตัดสินพระทัยเด็ดขาด
ที่จะกำจัดบ่อนเบี้ยให้สิ้นไปจากสยามประเทศ
เพื่อช่วยราษฎรให้ล่วงพ้นจากความทุกข์
ความเป็นหนี้ และความเป็นทาส
จากการลุ่มหลงมัวเมาในการพนัน
โดยทรงเห็นว่าประเทศใดมีพลเมืองยากจน
มั่วสุมอยู่กับอบายมุข ย่อมเป็นเหตุแห่งอันตราย
ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ของประเทศนั้น
ในเมื่อประเทศไทยกำลังพัฒนาปรับปรุงตนเอง
ให้มีฐานะเทียบเคียงนานาอารยประเทศ
ก็จำต้องปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่
และยกระดับจิตใจของราษฎรให้สูงขึ้นด้วย
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2458 พระองค์จึงทรงมีพระบรมราชโองการฯ
ให้ออกประกาศ ให้เลิกเล่นการพนันทุกประเภทโดยสิ้นเชิง
#23
โพสต์เมื่อ 08 March 2008 - 07:06 PM
#24
โพสต์เมื่อ 09 March 2008 - 01:17 PM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์