แรงระเบิดทำให้ตัวถังของรถถูกฉีกแยกออกจากกันกระเด็นไปคนละทิศละทาง เหลือแต่ตัวเครื่องกับล้อหน้า เศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณถนน กลุ่มควันดำทะมึนลอยโขมง นอกจากนี้ ร่างของคนขับยังกระเด็นห่างไปจากจุดเกิดเหตุกว่า 50 เมตร สภาพศพร่างเละ เหลือแต่ส่วนลำตัว ทั้งแขน ขา ขาด อวัยวะภายในกระเด็นตกไปอยู่อีกฟากของถนนชวนสยดสยอง
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผกก. สภ.เมืองยะลา ที่นำกำลังรักษาความปลอดภัยในงานทำบุญถวายสังฆทาน บริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ห่างจากที่เกิดเหตุราว 100 เมตร ได้ยินเสียงระเบิด รีบนำกำลังมาที่เกิดเหตุและสั่งปิดถนนสุขยางค์ทันที ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก. พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก.(ป.) นำกำลังมาสมทบ พร้อมประสาน ร.ต.ท.ไพโรจน์ เมืองสุวรรณ หน.ชุด “ศรชัย” หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ภ.จ.ยะลา มาตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าจะมีระเบิดเป็นกับดักซุกซ่อนไว้
จากการตรวจสอบในซากรถ ปรากฏว่าพบถังดับเพลิงซุกอยู่ในซากของรถเก๋ง 1 ใบ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก. เจ้าหน้ารีบเก็บกู้ไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าในถังดับเพลิงมีส่วนผสมของดินระเบิด เหล็กเส้นและปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท เป็นระเบิดที่พร้อมทำงานเต็มพิกัดแต่โชคดีที่ยังไม่ทำงาน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบใบขับขี่ที่ถูกไฟไหม้บางส่วนระบุชื่อ นายสาลาฮูดิน ปูลา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 6 บ้านบาตูปูเต๊ะ ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ส่วนรถตรวจสอบจากทะเบียนทราบเป็นของนางหัทยา แตมามุ อยู่บ้านเลขที่ 294/1 ถนนปัตตานีภิรมย์ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี เป็นปลัดอำเภอเมืองปัตตานี ฝ่ายทะเบียนอาวุธปืน
หลังทราบดังนั้น พล.ต.ต.สายัณห์ได้สั่งให้ สภ.ธารโต ตรวจสอบรายชื่อเจ้าของใบขับขี่พบว่า นายสาลาฮูดิน เป็นน้องของนายอับดุลเลาะ ปูลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่าและพยายามฆ่า ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ตายคือนายสาลาฮูดินได้ขนระเบิดถังดับเพลิง 2 ลูก เตรียมนำไปก่อวินาศกรรมลักษณะ “คาร์บอมบ์” ในงานทำบุญถวายสังฆทานพระสงฆ์ 266 วัด อุทิศให้เหยื่อไฟใต้และมอบทุนช่วยเหลือครูใต้ ที่จังหวัดยะลาร่วมกับมูลนิธิธรรมกาย จัดขึ้นที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร หรือเป้าหมายอีกแห่งอาจเป็นงานซ้อมใหญ่รับพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาที่อยู่ใกล้กัน ระหว่างที่คนร้ายกำลังขับรถวนหาที่จอด “คาร์บอมบ์” ปรากฏว่าระเบิดกลับทำงานเสียก่อน

ส่วนเจ้าของรถเก๋งคือนางหัทยา ตรวจสอบแล้วทราบว่า อยู่ระหว่างเดินทางไปสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอที่กรุงเทพฯและทราบว่านางหัทยานำรถคันดังกล่าวขายโอนลอยให้เต็นท์รถตะลุโบะ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ของนายยูโซ๊ะ ลาเต๊ะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายหลังทางเต็นท์ ได้ขายโอนลอยไปอีกทอดและยังไม่ทราบว่าคนที่ซื้อต่อเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนหาที่มาของรถอีกครั้ง
ข่าวจาก: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีที่ 59 ฉบับที่ 18317 วันอาทิตย์ ที่ 16 มีนาคม 2551