ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระคุณแม่


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr22873

usr22873
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2008 - 01:02 AM

:'
[/left]พระคุณแม่

ผมคงดีใจนะถ้าทุกคนเข้ามาอ่านข้อความฉบับนี้ มีอยู่วันหนึ่งที่ผมท้อแท้ต่ออุปสรรคก็มีแม่คนเดียวนี้แหละครับที่คอยอยู่ข้างผมมาตลอด แต่วันหนึ่งผมได้บวชสามเณร ณ วัดแห่งหนึ่งผมได้ฟังพระท่านกล่าวว่า ทำไมบอกรักแฟนบอกรักได้ แต่ทำไมบอกรักแม่บอกรักไม่ได้(อาย)แฟนเกิดเรามาไหมเห็นเราไปรักเขา แต่แม่ที่เกิดเรามาเนี๊ยเคยผันแลบ้างทุกๆครั้งเวลาลูกทำผิด แม่จะขึ้นไปอยู่ด้านบน แหละแม่ก็หันหน้าเข้าฝาผนังเอาศรัะของท่าน ที่ท่านทำแบบนี้เพราะท่านท้อแท้ที่เลี้ยงลูกไม่ดี แต่ที่จริงไม่สมควรโทษพ่อแม่

ทุกๆคนที่นั่งอ่านอยู่ตอนนี้เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าสักวันแม่จากเราไปเราจะเหลือใครอีกไหมต่อให้เรารวย แล้วเอาอาหารที่ โก้ ราคาแพงไปต้องไว้มันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาเลย ทุกวันนี้ผม ทำเพื่อแม่สู้เพื่อแม่แหละจะทำให้แม่เห็นว่าลูก สู้เพื่อแม่

(ถ้าวันไหนแม่จากผมไป ผมคงจะอยู่ตอนไปไม่ได้แล้ว ผมก็อยากกอดแม่มาเสมอตลอดระยะเวลา16ปีแต่ผมไม่เคยได้กอดท่านเพราะผม อายที่จะกอด(แต่จริงๆแล้วกอดแม่ห้ามอายนะครับ) ตอนนี้ผมเหลือแม่เพียงผู้เดียวแล้วที่เลี้ยงผมและน้องมาตลอด15ปีท่านไม่เคยที่จะท้อกับอุปสรรคที่มาขว้างท่านสู้ชนะได้ตลอด
[left]

นั้นทุกคนอ่านแล้วก็อย่ารู้สึกท้อในเวลาที่เราไม่สมหวัง (ให้กับไปดูที่แม่เราว่าแม่เราสู้ฟ่าแดดฟ่าฝนมามากแล้วถึงคราวนี้ให้ท่านได้พักบ้างเถิดท่านเหนื่อยเพื่อเรามามากแล้ว เลี้ยงท่านดูแลท่านให้ดีเถิกก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้ กระผม ขอ ขอบพระคุณทุกคนที่อ่านข้อความฉบับนี้จนหมด แล้ววันหลังผมหวังว่าคงจะมาเล่าสู้กันฟังอีกมากครับ......รักแม่ให้มากๆนะครับ รับทำสิ่งใดก็ให้รีบทำเสี่ยก่อนที่มันจะสายไป....

#2 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2008 - 08:40 PM

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วที่บ้านตาดทอง ในฤดูฝนมีการเตรียมปักดำกล้าข้าวทุกครอบครัวจะออกไปไถนาเตรียมการเพราะปลูก ครอบครัวของชายหนุ่มคนหนึ่งกำพร้าพ่อ ไม่ปรากฏชื่อหลักฐาน ก็ออกไปปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกัน

วันหนึ่งเขาไถนาอยู่นานจนสาย ตะวันขึ้นสูงแล้วรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากกว่าปกติ และหิวข้าวมากกว่าทุกวัน ปกติแล้วแม่ผู้ชราจะมาส่งก่องข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้าผิดปกติ

เขาจึงหยุดไถนาเข้าพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ ปล่อยเจ้าทุยไปกินหญ้าสายตาเหม่อมองไปทางบ้าน รอคอยแม่ที่จะมาส่งข้าวตามเวลาที่ควรจะมา ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจยิ่งสายตะวันขึ้นสูงแดดยิ่งร้อนความหิวกระหายยิ่งทวีคูณขึ้น

ทันใดนั้นเขามองเห็นแม่เดินเลียบมาตามคันนาพร้อมก่องข้าวน้อยๆ ห้อยต่องแต่งอยู่บนเสาแหรกคาน เขารู้สึกไม่พอใจที่แม่เอาก่องข้าวน้อยนั้นมาช้ามาก ด้วยความหิวกระหายจนตาลาย อารมณ์พลุ่งพล่าน เขาคิดว่าข้าวในก่องข้าวน้อยนั้นคงกินไม่อิ่มเป็นแน่ จึงเอ่ยต่อว่าแม่ของตนว่า

"อีแก่ มึงไปทำอะไรอยู่จึงมาส่งข้าวให้กูกินช้านัก
ก่องข้าวก็เอามาแต่ก่องน้อยๆ กูจะกินอิ่มหรือ?"

ผู้เป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกว่า "ถึงก่องข้าวจะน้อยก็น้อยต้อนแต้นแน่นในดอกลูกเอ๋ย ลองกินเบิ่งก่อน"

ความหิว ความเหน็ดเหนื่อย ความโมโห หูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังเสียงใดๆ เกิดบันดาลโทสะอย่างแรงกล้า คว้าได้ไม้แอกน้อยเข้าตีแม่ที่แก่ชราจนล้มลงแล้วก็เดินไปกินข้าว กินข้าวจนอิ่มแล้วแต่ข้าวยังไม่หมดกล่อง จึงรู้สึกผิดชอบชั่วดี รีบวิ่งไปดูอาการของแม่และเข้าสวมกอดแม่

อนิจจา แม่สิ้นใจไปเสียแล้ว..

ชายหนุ่มร้อยไห้โฮ สำนึกผิดที่ฆ่าแม่ของตนเองด้วยอารมณ์เพียงชั้ววูบ ไม่รู้จะทำประการใดดี จึงเข้ากราบ นมัสการสมภารวัดเล่าเรื่องให้ท่านฟังโดยละเอียด

สมภารสอนว่า "การฆ่าบิดามารดาผู้บังเกิดเกล้าของตนเองนั้นเป็นบาปหนัก เป็นมาตุฆาต ต้องตกนรกอเวจีตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นคนอีก มีทางเดียวจะให้บาปเบาลงได้ก็ด้วยการสร้างธาตุก่อกวมกระดูกแม่ไว้ ให้สูงเท่านกเขาเหิน จะได้เป็นการไถ่บาปหนักให้เป็นเบาลงได้บ้าง"

เมื่อชายหนุ่มปลงศพแม่แล้ว ขอร้องชักชวนญาติมิตรชาวบ้านช่วยกันปั้นอิฐก่อเป็นธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้ จึงให้ชื่อว่า "ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" จนตราบทุกวันนี้

ทุกวันนี้มีผู้มากราบธาตุก่องข้าวน้อยฯทุกวันเพื่อขอขมาลาโทษเหมือนเป็นการไถ่บาปที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ บางคนเมื่อมีลูกแล้วถึงรู้ว่าบุญคุณแม่มากสุดเหลือคณานับ เพิ่งรู้ว่าเลี้ยงดูลูกนั้นยากหนักหนาขนาดไหน จึงมาสำนึกที่ทำให้แม่ต้องเสียใจ บ้างก็มากราบไหว้เพื่อรำลึกถึงบุญคุณแม่

คติ:ทำดีกับพ่อแม่ยามเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ดีว่า สำนึกได้เมื่อท่านจากไป

ไฟล์แนบ


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#3 สุรชัย (กัปตัน)

สุรชัย (กัปตัน)
  • Members
  • 407 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 April 2008 - 05:15 PM

สาธุครับ