ทำอย่างไรดีคะ ทำไมถึงไม่ค่อยรักแม่เลย

ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้
เริ่มโดย kittyhark, May 08 2008 08:56 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 08:56 PM
#2
โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 10:40 PM
ระลึกถึงความดีที่ท่านอุ้มท้องเรามาด้วยความยากลำบาก กว่าเราจะกำเนิดออกมาได้ท่านเจ็บปวดร่างกายเจียนจะขาดใจแค่ไหน
ผมนะ sensitive มากเลยล่ะ พูดถึงพ่อ ถึงแม่ ก็น้ำตาไหลแล้ว ยิ่งดูทองล้นหลัง....เมื่อฟ้าเปลี่ยนสี ก็ยิ่งร้องไห้ทั้งเรื่องเลย
ผมนะ sensitive มากเลยล่ะ พูดถึงพ่อ ถึงแม่ ก็น้ำตาไหลแล้ว ยิ่งดูทองล้นหลัง....เมื่อฟ้าเปลี่ยนสี ก็ยิ่งร้องไห้ทั้งเรื่องเลย
#3
โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 11:17 PM
คุณ kittyhark โพสท์ไว้ด้วยเนื้อหาที่น้อยมาก ๆ นะ เลยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แต่...อย่างไรก็ตาม
ก็จริงอย่างคุณ likity บอกไว้นั้นแหละ
ที่คุณ kityhark ไม่รักแม่ มาจากวิบากกรรมในอดีต หรือ เหตุปัจจุบันก้เป็นไปได้ทั้งนั้น
จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่ค่อยรักท่าน ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่กตัญญูต่อท่าน จริงไหม!!!!
ไม่ว่าคุณจะรักหรือไม่รักด้วยเหตุอันใดก็ตาม...มาวัดพระธรรมกาย ทุกวันอาทิตย์ มาสนทนาธรรมกับกัลยาณมิตร
พระอาจารย์ ตลอดจนที่สำคัญ มาตรึกระลึกถึงดวงใส ๆ ตามคำสั่งสอนของคุณครูไม่ใหญ่สิ รับรอง...คุณจะได้คำแนะนำดีดี
ไปปฏิบัติต่อคุณแม่ จนคุณจะรักคุณแม่มากกว่าชีวิตของคุณจริงนะ
คุณแม่ของผม...ก่อนเสียชีวิต...ผมดูแลและใช้เวลาอยู่กับแม่ของผม...น้อยไป จนบัดนี้ ผมไม่มีเวลาให้ท่านอีกแล้ว
เพราะท่านไปสถิตที่วิมานบนฟ้าจากการที่เราและครอบครัวของเรา เป็นกัลยาณมิตร ค่อยบอกบุญให้ตรึกระลึกถึงบุญเสมอ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกคำแนะนำ...
ก็จริงอย่างคุณ likity บอกไว้นั้นแหละ
ที่คุณ kityhark ไม่รักแม่ มาจากวิบากกรรมในอดีต หรือ เหตุปัจจุบันก้เป็นไปได้ทั้งนั้น
จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่ค่อยรักท่าน ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่กตัญญูต่อท่าน จริงไหม!!!!
ไม่ว่าคุณจะรักหรือไม่รักด้วยเหตุอันใดก็ตาม...มาวัดพระธรรมกาย ทุกวันอาทิตย์ มาสนทนาธรรมกับกัลยาณมิตร
พระอาจารย์ ตลอดจนที่สำคัญ มาตรึกระลึกถึงดวงใส ๆ ตามคำสั่งสอนของคุณครูไม่ใหญ่สิ รับรอง...คุณจะได้คำแนะนำดีดี
ไปปฏิบัติต่อคุณแม่ จนคุณจะรักคุณแม่มากกว่าชีวิตของคุณจริงนะ
คุณแม่ของผม...ก่อนเสียชีวิต...ผมดูแลและใช้เวลาอยู่กับแม่ของผม...น้อยไป จนบัดนี้ ผมไม่มีเวลาให้ท่านอีกแล้ว
เพราะท่านไปสถิตที่วิมานบนฟ้าจากการที่เราและครอบครัวของเรา เป็นกัลยาณมิตร ค่อยบอกบุญให้ตรึกระลึกถึงบุญเสมอ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกคำแนะนำ...
#4
*YTTRA*
โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 10:12 AM
คราวหน้าก้ออธิษฐานให้เกิดแบบโอปปาติกะเลยนะครับ หรือเกิดในดอกบัวแบบอดีตของพระอุบลวรรณาเถรีเลย
#5
โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 11:38 AM
การที่มีความรู้สึกเช่นนี้ เกิดจากใจของตนเอง อันเนื่องจากความมีทิฐิ ความมีอคติ ความไม่พอใจในบางสิ่งหรือการมองเห็นแต่ในสิ่งผิดหรือเรียกว่าจับผิดนั่นเอง วิธีแก้ก็ไม่ยากครับ พยายามมองหาแต่สิ่งที่ดีในตัวท่าน หมั่นคิดถึงความดีที่ท่านทำไว้กับเรา อย่าไปมองในสิ่งไม่ดีหรือในสิ่งผิดของท่าน หากท่านมีกระทำให้เห็น เราก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่เมื่อใดที่ท่านทำถูกทำสิ่งดีให้ยกย่องสรรเสริญชมเชยท่าน สุดท้าย มองดูตัวเองพิจารณาตัวเองเพื่อลดความมีทิฐิหรืออคติในตัวลงครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 12:55 PM
ลองทำแบบที่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ V-Star เขาทำสิครับ
#7
โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 01:30 PM
อย่ารอให้โอกาสที่จะทำดีเพื่อแม่ หรือ บอกรักแม่ ผ่านไป แล้วจะมานึกเสียดายดภายหลังนะ
ยังไงลองฟังเพลง.. รักแม่จังเลย.. ซึ้งมากเลย
ยังไงลองฟังเพลง.. รักแม่จังเลย.. ซึ้งมากเลย
#8
โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 03:26 PM
QUOTE
ทำอย่างไรดีคะ ทำไมถึงไม่ค่อยรักแม่เลย
- ขาดความผูกพันธ์? ไม่ค่อยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกัน ไม่ค่อยจะมีเวลารับประทานอาหารกัน? หรือ อาจเกิดการเปรียบเทียบกับแม่เพื่อนๆคนอื่น? หรือ รู้สึกไปเองว่าคุณแม่ไม่สนใจเรา-ให้ความรักเราน้อยกว่าพี่น้องคนอื่น ...เพราะท่านอาจไม่แสดงออก...นานจิตตังค์ฯลฯ- จิตของมนุษย์พัฒนาได้นะ พึงระลึกเสมอว่าการได้ท่านเป็นต้นแบบ ให้เราได้รูปกายมนุษย์ถือว่าโชคดีสุดๆแล้ว ไม่ต้องร้องกากา...เหมียวๆ...โฮ่งๆ...มอมอ...เหมือนเดรัฐฉานภูมิอื่นๆ
- นึกแต่สิ่งดีๆ บางครั้งเราป่วยหนัก...ใครดูแลเราจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนพัก แม้อาหารจะจำเจแต่ก็ให้คุณค่าเพราะท่านจะให้เรารับประทานก่อนเสมอ เวลาเข้าเรียนใครจัดหาที่เรียนหาเสื้อผ้านักเรียนให้ อาจต้องแวะไปรับส่งเรา...ใครหนอให้เรามาตั้งแต่เกิดโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- ถ้ายังไม่ซึ้งก็แวะเวียนไปเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้าง...เขาจะเรียกเราว่าแม่...เพราะเขาขาดสิ่งที่มีค่าที่สุด
- ถ้ายังมองไม่ออก คงต้องรอให้ตัวเองเป็นคุณแม่(Step Mom)แล้วจะรู้ว่า แม่รักเรามากเพียงใด
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC