ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เพราะรักหรือเพราะกรรม...สอบถามค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr23488

usr23488
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 June 2008 - 09:01 PM

อยากสอบถามค่ะ วันไหนที่ไปฟังธรรมมะแล้วมีปัญหาคาใจเว็บนี้ช่วยได้จริงๆค่ะ
วันนี้เลยต้องขอรบกวนอีกครั้งนึงนะคะ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง dry.gif

ถามว่าถ้ามีพ่อคนนึงเค้าทำอะไรทุกอย่างๆๆ ก็เพื่อลูก
เพื่ออนาคตของลูก เพื่อวันนึงพ่อแม่ต้องจากโลกนี้ไปลูกจะได้ไม่ลำบาก
พ่อจะเป็นห่วงลูกและรักลูกมาก และคิดไว้เสมอว่าก่อนตายต้องเตรียมเงินไว้เพื่อลูกจะได้ไปลำบาก
แม้ตอนนี้พ่อจะอายุมากแล้วแต่พ่อก็ยังต้องทำงานหนักเพราะห่วงลูก
เลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโตเลี้ยงมาอย่างดีที่สุด แบบคุณหนู คุณชายเลย
แม้แต่การกินพ่อกินอะไรก็ได้ แต่ลูกต้องได้กินของที่ดีที่สุด เลี้ยงดูแบบดีที่สุด เท่าที่พ่อจะคนนึงจะทำได้

อยากถามค่ะ ว่าพ่อมีกรรมเก่าอะไรหรือเปล่าที่ต้องทำอะไรทุกอย่างเพื่อลูกแบบนี้

.......................................................
คือตอนนี้หนูเองใช้ชีวิตอยู่แบบส่วนมากจะเป็นผู้ให้มากกว่า
ให้แบบไม่ต้องการอะไรตอบแทน ให้เพราะรู้สึกดี ให้แล้วมีความสุข เลย ให้ๆๆๆ


ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ เรื่องพ่อ นี้หนูคาใจมากๆ



#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 05 June 2008 - 10:59 PM

QUOTE
ถามว่าถ้ามีพ่อคนนึงเค้าทำอะไรทุกอย่างๆๆ ก็เพื่อลูก
เพื่ออนาคตของลูก เพื่อวันนึงพ่อแม่ต้องจากโลกนี้ไปลูกจะได้ไม่ลำบาก
พ่อจะเป็นห่วงลูกและรักลูกมาก และคิดไว้เสมอว่าก่อนตายต้องเตรียมเงินไว้เพื่อลูกจะได้ไปลำบาก
แม้ตอนนี้พ่อจะอายุมากแล้วแต่พ่อก็ยังต้องทำงานหนักเพราะห่วงลูก
เลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโตเลี้ยงมาอย่างดีที่สุด แบบคุณหนู คุณชายเลย
แม้แต่การกินพ่อกินอะไรก็ได้ แต่ลูกต้องได้กินของที่ดีที่สุด เลี้ยงดูแบบดีที่สุด เท่าที่พ่อจะคนนึงจะทำได้

อยากถามค่ะ ว่าพ่อมีกรรมเก่าอะไรหรือเปล่าที่ต้องทำอะไรทุกอย่างเพื่อลูกแบบนี้

nerd_smile.gif สำหรับกรณีนี้ผมมีความเห็นว่า เป็นเพราะดวงบุญในตัวของเขาเองต่างหากล่ะครับ ที่เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ดลบันดาลให้พ่อของเขา คิด พูด และทำกับเขาเช่นนั้น นับได้ว่าเขาเป็นผู้มีอุปถัมภกรรมฝ่ายกุศลที่เคยสั่งสมมาแต่ในอดีตเป็นอย่างดี เฉกเช่นเดียวกันกับมหาอุบาสิกาวิสาขาในสมัยพุทธกาล ด้วยผลแห่งมหาทานบารมีแต่ครั้งในอดีต ที่ท่านได้เคยบำเพ็ญบุญอันสำเร็จแต่การถวายผ้าไตรจีวรแด่สงฆ์หมู่ใหญ่ อันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข เมื่อถึงคราวที่กุศลดังกล่าวถึงคราวส่งผล จึงดลบันดาลให้ท่านธนัญชัยเศรษฐีผู้เป็นบิดาคิดทำเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ซึ่งมีมูลค่าถึง ๙o,ooo,ooo กหาปณะ (๑ กหาปณะ เท่ากับ ๔ บาท) ให้แก่นางยังไงล่ะครับ เพราะถ้าหากนางไม่เคยได้ประกอบเหตุดังกล่าวไว้แต่เมื่อครั้งกระโน้น ท่านธนัญชัยเศรษฐีย่อมไม่มีความคิดที่จะทำเครื่องประดับดังกล่าวให้หรอกครับ ดังนั้น ใครก็ตามที่ได้เกิดในครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ที่เป็นเช่นนี้ ก็ขอให้รับรู้เอาไว้ด้วยนะครับว่า คุณเป็นผู้โชคดีอย่างมากมายมหาศาลกว่าคนอีกหลายล้านคนบนโลกนี้ ซึ่งน้อยคนนักที่เกิดมาแล้วจะได้มีพ่อแม่ที่สุดแสนประเสริฐเช่นเดียวกับคุณ ก็ขอให้คุณหาทางตอบแทนพระคุณของท่าน ด้วยการชักชวนให้ท่านมีศรัทธาในเรื่องบุญและคุณของพระรัตนตรัย หากท่านยังไม่มีศรัทธา หากท่านตระหนี่ พึงแนะนำให้ท่านรู้จักการให้ทาน หากท่านเป็นผู้ทุศีล จงยังให้ท่านมีศีล หากท่านยังเป็นผู้มีความเห็นผิด พึงยังท่านให้เข้าถึงซึ่งความเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล หากดวงปัญญาของท่านยังไม่ผ่องแผ้ว พึงชักนำให้ท่านบำเพ็ญจิตภาวนาที่เป็นสัมมาสมาธิ เมื่อได้ทำดังนี้ คุณย่อมได้ชื่อว่า เป็นคนดีในทรรศนะของพระพุทธองค์ตรงตามพระบาลีที่ว่า "นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตฺเวทิตา" ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ทดแทนพระคุณของบิดามารดาได้หมดสิ้นอีกด้วยครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#3 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 08:01 AM

อืม เรื่องนี้ก็อยากนะครับที่จะอธิบาย ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผม ผมคิดว่าเป็นทั้ง2อย่างครับ

อย่างแรก เป็นเพราะความรักของพ่อที่มีต่อลูก อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องกรรม แต่เป็นเรื่องของความรักที่พ่อมีให้กับลูกล้วนๆจึงไม่ขอพูดอะไรมาก

อย่างที่2 เป็นเพราะกรรมในอดีต เพราะอะไรจึงเป็นเพราะกรรมในอดีต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสบอกไว้ว่า สิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกนี้ตายเกิดมาแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วน หากเอากระดูกในแต่ละภพแต่ละชาติมารวมกัน จะสูงมากกว่าเขาพระสุเมรุเสียอีก หากนำเลือดแต่ละหยดมารวมกันมีมากกว่านําในมหาสมุทธมากนัก พระองค์ยังตรัสบอกไว้อีกว่าสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ไม่เคยมีชีวิตใดที่ไม่เคยเกิดมาพบกัน ไม่เคยมีชีวิตใดที่ไม่เคยเกิดมาแล้วไม่เจอกัน บางชาติเคยเกิดเป็นพ่อแม่กัน บางชาติเคยเกิดเป็นพี่น้องกัน บางชาติเคยเกิดเป็นญาติกัน บางชาติเคยเกิดเป็นเพื่อนกัน บางชาติเคยเกิดเป็นศัตรูกัน ฯลฯ ดังนั้นการที่ผู้เป็นพ่อบางคนต้องมาทำงานหนักเพื่อลูก เพื่อให้ลูกได้สุขสบาย จึงอาจเป็นไปได้ว่า อาจเคยเกิดเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้กันมาชาติก่อนๆ กรรมที่เคยเบี้ยวหนี้จึงทำให้ต้องมาใช้หนี้กันในฐานะพ่อกับลูกจริงไหมครับ

อีกสาเหตุหนึ่ง อาจเป็นเพราะบุญเก่าของผู้เป็นลูก ที่บังเอิญได้เกิดมาเป็นลูกของผู้ที่มีกรรมเบี้ยวหนี้มาก่อน ผู้ที่มีกรรมเบี้ยวหนี้จึงต้องทำงานเก็บเงินไว้เพื่อให้ลูกที่มีบุญเก่าได้ใช้อย่างสุขสบาย

ในความคิดด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผม ผมคิดว่านี่อาจเป็นวัฐจักรของกรรมเบี้ยวหนี้อย่างนึงก็ได้ครับ พ่ออาจต้องมาทำงานหนักให้ลูก แต่ถ้าลูกไม่ตอบแทนนําพักนําแรงของผู้เป็นพ่อ ก็อาจติดหนี้เลี้ยงดูของผู้เป็นพ่อ แล้วต้องไปทำงานชดใช้ในฐานะพ่อต่อๆไป

ลองสังเกตุดูสิครับครอบครัวบางครอบครัว พ่อทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด จนสร้างฐานะให้รํารวยเป็นเศรษฐี ลูกบางคนแทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็มีกินมีใช้ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่บางครอบครัว พ่อทำงานแทบเป็นแทบตายแต่ฐานะก็ไม่ดีขึ้น กรรมเก่าบีบคั้นตัดรอนให้ต้องเป็นเช่นนั้นไงครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#4 131072

131072
  • Members
  • 237 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 09:51 AM

พ่อเหนื่อยก็เพื่ออนาคตของลูก....พ่อของดิฉันอยากบวชแต่ไม่เคยมีโอกาสสักครั้งในชีวิตเพราะต้องทำงานเหนื่อยทุกๆวันแก่แล้วก็ยังไม่เคยได้หยุดพักบ้างเลย....สงสารพ่อค่ะที่ทำได้ตอนนีก็คือตั้งใจเรียนให้จบสักวันหากมีโอกาสดิฉันจะบวชให้พ่อได้ชื่นใจแต่เสียดายที่กรรมเก่าทำให้เกิดมาเป็นหญิง....อาจเป็นเพราะกรรมของเราทั้งคู่ที่อยากบวชเหมือนกันแต่ไม่มีโอกาสเลย

#5 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 10:43 AM

สรุปก็มีหลายแบบ เช่น

(๑) พ่อรวย+เมื่อพ่อตายลูกรวยเองต่อไปได้ เช่น นางวิสาขา คือ บุญเก่ามากทั้งพ่อลูก

(๒) พ่อจนมากทำงานแทบตายกินอยู่เองขัดสนมาก+แต่เลี้ยงลูกเลอเลิศ+ภายหลังพ่อตายลูกยากจนทันทีลำบาก
ในกรณีนี้ พ่อเป็นหนี้ลูกชาติก่อน และลูกไม่มีบุญเก่าของตนเอง

(๓) ขอเพิ่มเติมอีกแบบ เช่น ลูกชายพั่งฮ้งในเปาบุ้นจิ้น พ่อรวยลูกก็รวย ทานบารมีมากทั้งคู่ รักลูกสุดชีวิตจิตใจ(ดูจากหนัง) แต่มิจฉาทิฐิ เลี้ยงลูกแบบ"พ่อแม่รังแกฉัน"คือตามใจทุกอย่างในทางที่ผิด ขาดศีลและปัญญาบารมี(ทิฏฐุชุกัมม์คือการทำความเห็นให้ตรง) ดังนั้น เวลาบอกบุญใคร ช่วยให้ทิฏฐุชุกัมม์แก่เขาด้วย สงสารเขา

ผมคิดว่าน่าจะยังมีอีกหลายกรณี แต่ยังคิดไม่ออกครับ

#6 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 03:16 PM

ลูกที่เกิดมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่รัก ต้องประกอบเหตุมาดี ได้สงเคราะห์ญาตมาในอดีต ก็จะเป็นที่รัก ทำทานมาดี ก็จะเกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย จึงได้บุพการีที่มีกำลังทานมาดี
ถ้าได้มีส่วนใช้จ่ายในทรัพย์ด้วยตนเองด้วย ก็แสดงว่านอกจากจะได้ชักชวนคนอื่นทำทานแล้ว ยังทำทานด้วยตนเองอีกด้วย

ส่วนบิดามารดา ที่ทุ่มเทเสียสละให้ลูกด้วยความรักนั้น มาจากเหตุ 2 ประการ คือ กรรมดีที่ประกอบร่วมกันมาในอดีต หรือการประกอบเหตุในปัจจุบันชาตินี้
การที่ท่านทำมาหากินด้วยความยากลำบาก ก็มาจากทานที่ไม่สมำเสมอ ใช้ของดีไหมดี มาจากความประณีตของทานที่ท่านทำมา ไม่ได้เกี่ยวเลยว่า ถ้ารักมากต้องไม่ใช้ ยอมลำบาก อดๆอยากๆ ไว้เพื่อลูก
ถ้าผู้มีบุญเก่า ท่านก็จะมีปัญญา วางแผนให้ลูก ทั้งเงิน+ความรู้ทางโลก และสร้างบารมี ทางธรรม ใจท่านก็จะสงบไม่ต้องคอยห่วงต้องทุ่มเท เก็บเงินสำรองอนาคตไว้อย่างมากมาย
ตัวท่าน ก็จะมีใช้อย่างสบาย ไม่ต้องอดออมสุดชีวิตเป็นคนที่คิดทางโลกๆ
ท่านจะรู้ว่า ให้ท่านเก็บไว้มากเพียงใด ถ้าลูกชายลูกสาวท่านไม่มีบุญรับ สมบัตนั้นก็ต้องสูญสลายไปอย่างแน่นอน...


#7 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 09:29 AM

สาธุ.. สาธุ.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#8 hk_girlza

hk_girlza
  • Members
  • 580 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 01:41 PM

ชาตินี้ มี เป็น อยู่ อย่างไร ก็เพราะ บุญ บาป ในอดีตชาติ

ชาติหน้า จะเป็นอย่างไร ดูได้จาก ชาตินี้ ที่กำลังทำอยู่


หนี้กรรม... เป็นสิ่งที่ต้องมองให้ยาวสุดสายกรรม

แม้ชาตินี้เราจะไม่รับรู้ ก็ไม่ได้แปลว่า เราจะไม่มีหนี้ และ ไม่ต้องชดใช้

#9 เศรษฐีหน้าใส

เศรษฐีหน้าใส
  • Members
  • 177 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 04:10 PM

หน้าที่พ่อ ท่านอยากทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุดเท่าที่ท่านรู้และเข้าใจ ส่วนหน้าที่ลูกก็ต้องทำให้ดีที่สุด คือต้องให้ท่านอยู่ในบุญให้ได้ ให้ท่านแบ่งเวลามาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างเหมาะสม ท่านทำเพื่อเราแล้ว เราต้องทำเพื่อท่านด้วย

#10 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 04:10 PM

จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์

อโหสิกรรม คือ กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก ได้แก่กรรมทั้งที่เป็นกุศลและอกุศลที่เลิกให้ผล เหมือนพืชที่หมดยาง เพาะปลูกไม่ขึ้นอีก