ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ใบหน้าของแม่


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 NongNa0601

NongNa0601
  • Members
  • 19 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 09:24 PM

ในอดีต มีหญิงหม้ายคนหนึ่ง นางมีลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งนางรักดั่งแก้วตาดวงใจ เฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดู ตรากตรำทำงานหนักเพื่อส่งเสียให้ลูกชายได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด จนเมื่อสำเร็จการศึกษา ก็ได้เข้ารับราชการมีตำแหน่งใหญ่โต ทำให้ฐานะของครอบครัวดีขึ้น มีหน้ามีตาและเป็นที่รู้จักของสังคม แต่ทุกครั้งที่มีแขกมาที่บ้าน ทุกคนก็จะได้เห็นหญิงชราที่มีหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งคอยดูแลอยู่เป็นประจำอย่างดี เมื่อมีคนถามว่าหญิงชราคนนี้เป็นใคร ลูกชายก็จะบอกกับทุกคนว่า "หญิงชราผู้นี้คือคนรับใช้เก่าแก่ที่ดูแลมาตั้งแต่เล็ก ส่วนคุณแม่นั้นได้เสียชีวิตไปนานแล้ว"

ลูกชายจะบอกกับคนรู้จักทุกคนเช่นนี้ เพราะเขาไม่ต้องการให้คนในสังคมรับรู้ว่าเขามีแม่ที่มีหน้าตาอัปลักษณ์เป็นที่น่ารังเกียจ เพื่อเป็นการรักษาภาพพจน์และชื่อเสียงของตนเอาไว้ โดยที่ลูกชายไม่เคยรู้เลยว่าคำพูดนั้นได้ไปทำร้ายจิตใจของผู้เป็นแม่ให้ปวดร้าวยิ่งนัก

ด้วยความเสียใจกับการกระทำของลูกมานาน จึงทำให้ผู้เป็นแม่ล้มป่วยลงด้วยความตรอมใจ วันหนึ่งขณะลูกชายได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของแม่ที่ห้องพัก คุณแม่จึงได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวในอดีตให้ลูกชายฟัง

ลูกเอ๋ย แม่ของเจ้าน่ารังเกียจมากใช่มั๊ย แม่คงทำให้เจ้าอับอายขายหน้า ลูกเอ๋ย เจ้าเคยรู้มั๊ยว่าทำไมหน้าแม่จึงอัปลักษณ์เช่นนี้ ความจริงแล้วหน้าของแม่ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าเห็นมาตั้งแต่เกิดหรอก แต่เป็นเพราะเมื่อตอนที่เจ้าอายุได้ ๔ เดือน บ้านของเราเกิดไฟไหม้ ทุกคนต่างหนีเอาตัวรอดออกมาได้เหลือแต่เจ้าคนเดียวที่ติดอยู่ในบ้าน สิ่งเดียวที่แม่คิดตอนนั้น คือเข้าไปหาทางช่วยเจ้าออกมาให้ได้ แต่เพราะในวันนั้นมีลมพัดแรงทำให้ไฟลุกโหม ทุกคนต่างฉุดรั้งแม่ไว้ไม่ให้เข้าไปเพราะกลัวจะได้รับอันตราย แม่เองก็รู้ว่าโอกาสที่จะรอดออกมานั้นมีน้อย แต่เป็นห่วงว่าเจ้าจะได้รับอันตราย แม่จึงตัดสินใจฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยเจ้าโดยไม่คิดถึงชีวิตของตัวเอง ในที่สุดแม่ก็ช่วยเจ้าออกมาได้อย่างปลอดภัย เพื่อนบ้านบริเวณนั้นจึงช่วยกันพาแม่ไปส่งโรงพยาบาล เมื่อฟื้นขึ้นมาได้รู้ว่าเจ้าปลอดภัยแม่ก็ดีใจแล้ว แม้ร่างกายของแม่จะได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าจะเสียโฉมไปแม่ก็ไม่เสียดาย

ลูกเอ๋ย แม่ต้องขอโทษเจ้าด้วย แม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เจ้าต้องอับอายที่มีแม่หน้าตาอัปลักษณ์ไม่สวยเหมือนแม่ของคนอื่น วันนี้เจ้าเติบโตขึ้นมามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงได้เป็นเจ้าคนนายคนแม่ก็ยินดีกับเจ้าด้วย แม่ไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้า หวังเพียงให้ลูกของแม่เป็นคนดีมีคุณธรรม แม่ก็พอใจแล้ว

เมื่อลูกชายได้ฟังเรื่องราวจากปากของแม่ ก็รู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่ตนได้เคยกระทำต่อแม่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลูกชายได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ คอยดูแลปรนนิบัติแม่เป็นอย่างดี เมื่อมีแขกมาที่บ้านลูกชายจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับแม่ และกล่าวยกย่องด้วยความภูมิใจว่าตนนั้นเป็นผู้ที่โชคดีที่มีคุณแม่ที่ประเสริฐที่สุด

ที่ผมได้นำเรื่องนี้มาลงนั้นอยากให้ผู้ที่เป็นลูกทุกคนนั้นได้กตัญญูต่อพ่อแม่ให้มากขึ้น บางคนมีพ่อ บางคนเหลือแต่แม่ บางคนยังโชคดีมีทั้งพ่อและแม่ก็นับว่าเป็นบุญ เราควรจะเอาใจใส่ดูแลท่านบ้าง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยให้ท่านอยู่อย่างอดๆอยากๆ ยามเจ็บป่วยก็พาท่านไปหาหมอบ้าง

พุทธพจน์ : แม้นว่าบุคคลใคเอาพ่อแบกไว้ที่ไหล่ซ้าย เอาแม่แบกไว้ที่ไหล่ขวา วนรอบเขาพระสุเมรุเป็นจำนวนหนึ่งแสนกัป จนไหล่ทั้งสองข้างบดเนื้อเถือกระดูกแทงกระฉุดถึงไขข้อ โลหิตไหลอาบท่วมถึงข้อเท้า ก็มิอาจจะทดแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุพการีได้

เรามีความแก่เป็นธรรมดา  ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ 

เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา  ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้

เรามีความตายเป็นธรรมดา  ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

เราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบทั้งสิ้น

เรามีกรรมเป็นของของตน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว 


#2 hk_girlza

hk_girlza
  • Members
  • 580 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 11:38 AM

อนุโมทนาบุญ กับ ข้อความดีๆ เตือนสติ ค่ะ

#3 ชวนชมdmc

ชวนชมdmc
  • Members
  • 34 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 08:06 PM

สาธุ ขอบคุณบทความดีๆ มีข้อคิดเตือนใจ ทำให้มีสติ เมื่อได้คิดก็คิดได้ จาได้ไม่ไปนรกค่า....

#4 131072

131072
  • Members
  • 237 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 10:23 AM

อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานนะค่ะ....ไม่มีรักไหนเป็นรักที่ยิ่งใหญ่เท่ารักของพ่อกับแม่อีกแล้วค่ะ