ตั่งแต่ที่เข้ามาเป็นสมาชิกเว็บไซต์ดิฉันก็ได้ศึกษาเรื่องราวของพญาครุฑและพญานาคและก็ได้เกิดข้อสงสัย ว่าแต่เดิมที ครุฑและนาค เป็นของคู่กันมา แต่เวลาที่ได้ยินคนพูดกัน ก็เห็นจะมีแต่เรื่องราวของพญานาคเท่านั้น เช่น พบรอยประหลาด หรือพบเห็นพญานาคขึ้นมาเล่นน้ำ บางครั้งก็มีเรื่องเล่าต่างๆมากมาย แต่พญาครุฑซึ่งเป็นศํตรูกับนาคกลับไม่มีัใครเคยพบเคยเห็นหรือแม้แต่จะมีเรื่องราวเล่าขานกันเลย เรื่องนี้ดิฉันให้ความสงสัยเป็นอย่างมาก แล้วคนอื่นมีความเห็นอย่างไรคะ

ครุฑกับนาค
เริ่มโดย ข้าวเหนียวปั้นน้อย, Jun 16 2008 02:17 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 16 June 2008 - 02:17 PM
#2
โพสต์เมื่อ 16 June 2008 - 04:26 PM
อาจเป็นเพราะภพของพญานาค อยู่ใกล้กับภพของมนุษย์ จึงทำให้มีเรื่องราวของพญานาค มากกว่า ครุฑ น่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
โพสต์เมื่อ 16 June 2008 - 04:38 PM
ภพภูมิของพญาครุฑเป็นภพภูมิที่ละเอียดอยู่เหนือท้องฟ้าขึ้นไป จัดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยากที่จะพบหลักฐานหรือเรื่องเล่าขานใดๆ แต่มนุษย์ในยุคก่อนๆ สมัยที่อายุขัยมนุษย์เป็นพันๆหมื่นๆปี มนุษย์สมัยนั้นกิเลสยังมีไม่มากเหมือนสมัยนี้ ก็สามารถเห็นสิ่งที่ละเอียดนั้นได้ เมื่อก่อนนาคกับครุฑเวลามาเมืองมนุษย์ก็จะแปลงกายเป็นมนุษย์แต่สมัยนี้มีอีกไหม..ผมว่าไม่น่าจะมี หรือถ้ามีก็คงน้อยเพราะสภาพแวดล้อมและสิ่งต่างๆมันเปลี่ยนไปแล้ว
ที่เห็นแต่พญานาคเพราะใต้ลำแม่น้ำโขงมีพญานาคซึ่งเป็นภพซ้อนภพ อยู่ใต้บาดาล ซึ่งก็มีบางคนที่มีบุพกรรมเชื่อมโยงกับพญานาคก็จะเห็นได้ด้วยตาเนื้อ หรือเห็นคราบของพญานาคได้ ส่วนครุฑเป็นภพภูมิที่อยู่ไกลจากเมืองมนุษย์ จึงไม่มีเรื่องเล่าขานใดๆ แต่ก็มีหลักฐานทางพระไตรปิฎก และจิตของผู้รู้ภายในที่เข้าถึงโดยสมาธิ ไปรู้ไปเห็นได้
ที่เห็นแต่พญานาคเพราะใต้ลำแม่น้ำโขงมีพญานาคซึ่งเป็นภพซ้อนภพ อยู่ใต้บาดาล ซึ่งก็มีบางคนที่มีบุพกรรมเชื่อมโยงกับพญานาคก็จะเห็นได้ด้วยตาเนื้อ หรือเห็นคราบของพญานาคได้ ส่วนครุฑเป็นภพภูมิที่อยู่ไกลจากเมืองมนุษย์ จึงไม่มีเรื่องเล่าขานใดๆ แต่ก็มีหลักฐานทางพระไตรปิฎก และจิตของผู้รู้ภายในที่เข้าถึงโดยสมาธิ ไปรู้ไปเห็นได้
#4
โพสต์เมื่อ 16 June 2008 - 09:03 PM
อืมมม..

ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#5
โพสต์เมื่อ 17 June 2008 - 03:59 AM
จดๆจ้องที่จะเข้าวัดอยู่นานหลายปี จนวันหนึ่งอยากรู้เกี่ยวกับพญานาค
ต้องยอมรับว่า เพราะ พญานาคศรีสุทโธ แท้ๆที่จุดประกายในการเข้ามาค้นหาท่าน
เพราะยิ่งค้นก็ยิ่งตื่นเต้น จนในที่สุดเรื่องราวที่ค้นวันนี้ ขยายวงไปกว้างมาก กว้างซะจนจนเข้าไปค้นถึง " ธรรมะ "
ก็ดีใจมาก และนับเป็นบุญที่วันนี้ได้มีโอกาสได้อ่านเรื่องราวคำสั่งสอนดี ของพุทธองค์
แต่ก็ยังไม่ทิ้งการแกะลอยค้นหาความจริงเกี่ยวกับ พญานาค
ต้องยอมรับว่า เพราะ พญานาคศรีสุทโธ แท้ๆที่จุดประกายในการเข้ามาค้นหาท่าน
เพราะยิ่งค้นก็ยิ่งตื่นเต้น จนในที่สุดเรื่องราวที่ค้นวันนี้ ขยายวงไปกว้างมาก กว้างซะจนจนเข้าไปค้นถึง " ธรรมะ "
ก็ดีใจมาก และนับเป็นบุญที่วันนี้ได้มีโอกาสได้อ่านเรื่องราวคำสั่งสอนดี ของพุทธองค์
แต่ก็ยังไม่ทิ้งการแกะลอยค้นหาความจริงเกี่ยวกับ พญานาค
#6
โพสต์เมื่อ 17 June 2008 - 04:21 PM
ต้องหาดูมิซีรี่เรื่องพญานาค และบั้งไฟพญานาคมาเปิดดูสิครับ..แต่ใจอย่าได้ไปยึดมั่นในพญานาคมากนะครับ แต่ศึกษาให้ได้ความรู้ก็ดี เพราะก็เคยมีCase ในสมัยพุทธกาล มีหญิงคนหนึ่ง ที่ปรารถนาและสนใจในเรื่องราวของพญานาคเป็นพิเศษ และบูชาพญานาค ตายจากชาตินั้นด้วยจิตที่ระลึกถึงพญานาคอยู่เสมอ ก็จะไปสู่ภพภูมิของพญานาค เป็นมเหสีของพญานาคราช สมใจปรารถนา ใจเราเป็นธาตุสำเร็จเมื่อคิดหรือพูดสิ่งใด ก็ย่อมไปเป็นเช่นนั้น ดั่งที่ปรากฏตัวอย่างมาแล้วมากมาย...ซึ่งสิ่งที่เป็นที่ระลึกที่แท้จริงมีเพียงสิ่งเดียวที่ยิ่งกว่าสิ่งใดๆในภพ3 นั่นก็คือ พระรัตนตรัย

#7
โพสต์เมื่อ 17 June 2008 - 06:17 PM
เส้นทางการเข้าวัดของผมนี้ มันก็เปรียบเหมือนคนที่ปลูกบ้านอยู่ข้างป่า
เห็นป่าอยู่ทุกวัน เกิดมาก็เติบโตมาคู่กับป่าข้างบ้าน
เหตุเพราะวันนึง มีนกตัวหนึ่งบินผ่านหลังคาบ้าน แล้วโฉบเข้าไปในป่าข้างบ้าน
เกิดสนใจนกครับ เลยเดินตามเข้าไปดู
ระหว่างทางที่เดิน และคอยมองหานกอยู่นั้น จึงรู้ว่า
ป่าข้างบ้านของเรานี้ ช่างร่มเย็นเหลือเกิน เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้วก็เพิ่งจะเคยเดินเข้ามา เสียดายที่เดินเข้ามาช้าไป
จึงนับว่าชีวิตนี้ช่างเป็นหนี้บุญคุณนกตัวนั้น ที่ได้พาเข้ามารุ้จัก ความร่มรื่นของป่า
เห็นป่าอยู่ทุกวัน เกิดมาก็เติบโตมาคู่กับป่าข้างบ้าน
เหตุเพราะวันนึง มีนกตัวหนึ่งบินผ่านหลังคาบ้าน แล้วโฉบเข้าไปในป่าข้างบ้าน
เกิดสนใจนกครับ เลยเดินตามเข้าไปดู
ระหว่างทางที่เดิน และคอยมองหานกอยู่นั้น จึงรู้ว่า
ป่าข้างบ้านของเรานี้ ช่างร่มเย็นเหลือเกิน เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้วก็เพิ่งจะเคยเดินเข้ามา เสียดายที่เดินเข้ามาช้าไป
จึงนับว่าชีวิตนี้ช่างเป็นหนี้บุญคุณนกตัวนั้น ที่ได้พาเข้ามารุ้จัก ความร่มรื่นของป่า
#8
โพสต์เมื่อ 18 June 2008 - 09:32 AM
ภาพประกอบจาก www.dmc.tv

ภุมมเทวา, รุกขเทวา, อากาสเทวา อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก

ภุมมเทวา, รุกขเทวา, อากาสเทวา อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก
