
ถามเรื่องการทำบุญ
เริ่มโดย art2007, Jun 28 2008 01:00 AM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 28 June 2008 - 01:00 AM
คุยกับญาติ(ศิษย์เก่า มอเกษตรเขาว่าเคยเข้าชมรมพุทธศาสตร์ฯและเคยมาวัดแต่ตอนนี้ไม่เข้าค่ะ) คุยกันว่าทำไมบางคนถึงรวยก็เลยบอกเขาว่าเป็นเพราะทำบุญมาเยอะ เขาก็เลยย้อนถามว่าแล้วอย่างพวกต่างประเทศเนี่ยทำไมเขารวยกว่าเราเพราะเขาไม่ใช่ศาสนาพุทธและศาสนาของเขาก็ไม่ได้บอกให้คนทำบุญ เลยไม่รู้ว่าจะตอบยังงัย แต่ในความคิดตนเองคิดว่าคนพวกนี้อาจเคยทำบุญในพุทธศาสนาแต่ไม่ได้อธิฐานให้เกิดในพระพุทธศาสนาไม่ทราบถูกหรือเปล่า ถ้าใช่ก็สงสัยอีกว่าแล้วทำไมประเทศเราถึงไม่รวยและพัฒนาเหมือนต่างประเทศ ส่วนอีกข้อนึงที่สงสัยคือกำลังฟังเดอะช็อคเอฟเอ็มแล้วเขากำลังไปพิสูจน์บ้านร้างก็เลยสงสัยว่า ทำไมผีต้องปรากฎตัวตอนกลางคืน(ขอโทษที่ไร้สาระแต่ว่าสงสัยค่ะ) แล้วที่ฟังเนี่ยเขาไปบ้านร้างเก่าแก่มากแล้ว็ประมาณว่ามีผีที่เป็นเจ้าของบ้าน สงสัยว่าเจ้าของบ้านเนี่ยเขายังหวงบ้านอยู่นานมากแล้วเขาไม่ไปไหนหรือยังงัยอยู่มาเป็นร้อยปี
จะโดนลบกระทู้อีกไหมเนี่ยเคยตั้งแล้วก็โดนลบก็ไม่รู้สาเหตุในการลบค่ะ :'(

#2
โพสต์เมื่อ 28 June 2008 - 09:41 AM
เรื่องนี้มีคำตอบอยู่ในพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อทัตตะชีโวเรื่องฆราวาสธรรมในช่วงสุดท้ายแผ่นที่3ครับ
คำตอบที่หลวงพ่อตอบคือ เพราะประเทศของเขามีการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบในหน้าที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวินัยครับ แม้ประเทศอื่นจะไม่รู้จักพุทธศาสนา แต่เขาทำถูกหลักพุทธศาสนาในเรื่องวินัยนี่เองครับ และแม้ประเทศเราพัฒนาแล้วแต่เราพัฒนาผิดทางครับ ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาพัฒนาไปในทางที่ถูกนั่นคือเขาพัฒนาทางด้านความรู้ แต่ของประเทศไทยนั้น พัฒนาไปในทางอบายมุข ตัวอย่างที่หลวงพ่อท่านยกไว้ คือ โรงหนัง ชั้น1ในเมืองเขาเทียบได้ชั้น3ของเรา แล้วอย่างที่ผ่านมา แทนที่จะพัฒนาการศึกษาการเรียนรู้ของเยาวชนไทยแต่รัฐบาลไทยจะพัฒนาอะไรบ้าง บ่อนเสรี หวยบนดิน
ประการสำคัญ ทั้งที่เมืองไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ คนไทยเป็นชาวพุทธ แต่เมื่อดูตามความเป็นจริงแล้ว คนไทยเป็นชาวพุทธจริงๆสักกี่คน เอาแค่บทสวดอิติปิโส ใน100คนจะมีสวดได้จนจบสักกี่คน ศีล5 ให้ท่องจะท่องได้อย่างถูกต้องสักกี่คน ถูกไหมครับนี่มันเป็นอย่างนี้ครับ
หากอยากฟังรายละเอียดลองไปหาฟังดูนะครับ กว่าจะหาเจอว่าหลวงพ่อเคยจอบคำตอบนี้ในแผ่นไหน เล่นเอามึนตึบ เหอๆ ^ ^"
ส่วนเรื่องผี ผมถามคุณเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าผีโผล่เฉพาะกลางคืน หุหุ สาเหตุที่เขาเห็นผีเฉพาะกลางคืนก็เพราะว่า เขาไปลองของกันเฉพาะตอนกลางคืนไงครับ ก็เลยเห็นเฉพาะตอนกลางคืน ถ้าไปตอนกลางวันมันจะน่ากลัวหรือจริงไหมครับ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเจอผีเฉพาะตอนกลางคืน (มั่วไปนั่น - -" )
คำตอบที่หลวงพ่อตอบคือ เพราะประเทศของเขามีการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบในหน้าที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวินัยครับ แม้ประเทศอื่นจะไม่รู้จักพุทธศาสนา แต่เขาทำถูกหลักพุทธศาสนาในเรื่องวินัยนี่เองครับ และแม้ประเทศเราพัฒนาแล้วแต่เราพัฒนาผิดทางครับ ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาพัฒนาไปในทางที่ถูกนั่นคือเขาพัฒนาทางด้านความรู้ แต่ของประเทศไทยนั้น พัฒนาไปในทางอบายมุข ตัวอย่างที่หลวงพ่อท่านยกไว้ คือ โรงหนัง ชั้น1ในเมืองเขาเทียบได้ชั้น3ของเรา แล้วอย่างที่ผ่านมา แทนที่จะพัฒนาการศึกษาการเรียนรู้ของเยาวชนไทยแต่รัฐบาลไทยจะพัฒนาอะไรบ้าง บ่อนเสรี หวยบนดิน
ประการสำคัญ ทั้งที่เมืองไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ คนไทยเป็นชาวพุทธ แต่เมื่อดูตามความเป็นจริงแล้ว คนไทยเป็นชาวพุทธจริงๆสักกี่คน เอาแค่บทสวดอิติปิโส ใน100คนจะมีสวดได้จนจบสักกี่คน ศีล5 ให้ท่องจะท่องได้อย่างถูกต้องสักกี่คน ถูกไหมครับนี่มันเป็นอย่างนี้ครับ
หากอยากฟังรายละเอียดลองไปหาฟังดูนะครับ กว่าจะหาเจอว่าหลวงพ่อเคยจอบคำตอบนี้ในแผ่นไหน เล่นเอามึนตึบ เหอๆ ^ ^"
ส่วนเรื่องผี ผมถามคุณเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าผีโผล่เฉพาะกลางคืน หุหุ สาเหตุที่เขาเห็นผีเฉพาะกลางคืนก็เพราะว่า เขาไปลองของกันเฉพาะตอนกลางคืนไงครับ ก็เลยเห็นเฉพาะตอนกลางคืน ถ้าไปตอนกลางวันมันจะน่ากลัวหรือจริงไหมครับ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเจอผีเฉพาะตอนกลางคืน (มั่วไปนั่น - -" )
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 29 June 2008 - 09:08 PM
(๑) ดูชาตินี้เป็นตัวอย่าง ฝรั่งบริจาคเงินสงเคราะห์โลกมากกว่าคนไทย ชาติก่อนก็อาจเหมือนกัน
(๒) ชาวพุทธไต้หวัน ทำบุญบริจาคเงินมากกว่าฝรั่ง ไต้หวันก็รวยกว่าฝรั่ง เงินสำรองเยอะมาก, savingเก่ง, expenseน้อย
(๓) ชาติก่อนคนไทยอาจจะอธิษฐานจิตขอให้มีความสุขทุกสถาน ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ลืมขอให้รวย
ส่วนเขาก็ขอแต่รวย ลืมอย่างอื่น, เราได้เท่านี้ ก็ควร "พอเพียง" แล้ว คือ "พอใจเท่าที่เพียงมี" (นกน้อยทำรังแต่พอตัว,เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง,อย่าใฝ่สูงจนเกินศักดิ์)
(๔) ทำบุญแล้วต้องกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะเพื่อชาติหน้าด้วย
(๕) อิทธิบาท๔ ช่วย make money ได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับบุญที่เท่ากัน
จีนญี่ปุ่นยิว มีอิทธิบาท๔ มากกว่าฝรั่ง, ฝรั่งมีอิทธิบาท๔ มากกว่าไทย
-มีฉันทะอยากรวยๆๆๆๆๆ คือต้อง "เพียงพอ" คือ "เพียงมี(ความทะเยอทะยานขวนขวาย)เท่าที่(จนกว่าจะ)พอใจ" (สุดแต่ใจจะไขว่คว้า,ตะกายดาว,ฝันให้ไกลไปให้ถึง,ว่าวต้องต้านลมจึงจะขึ้นสูง, No bird soars too high, if he flies with his own wings. )
-ขยันตั้งใจมั่นใจจดจ่อศึกษาวิเคราะห์คิดวิธีหาเงินๆๆๆๆๆ
(๖) แต่ที่สำคัญกว่าเงินคือ ไทยจะเป็นมหารัฐทาง "พุทธิปัญญา" และจิตวิญญาณ (ได้ทางเศรษฐกิจด้วยก็ดี)
(๒) ชาวพุทธไต้หวัน ทำบุญบริจาคเงินมากกว่าฝรั่ง ไต้หวันก็รวยกว่าฝรั่ง เงินสำรองเยอะมาก, savingเก่ง, expenseน้อย
(๓) ชาติก่อนคนไทยอาจจะอธิษฐานจิตขอให้มีความสุขทุกสถาน ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ลืมขอให้รวย
ส่วนเขาก็ขอแต่รวย ลืมอย่างอื่น, เราได้เท่านี้ ก็ควร "พอเพียง" แล้ว คือ "พอใจเท่าที่เพียงมี" (นกน้อยทำรังแต่พอตัว,เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง,อย่าใฝ่สูงจนเกินศักดิ์)
(๔) ทำบุญแล้วต้องกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะเพื่อชาติหน้าด้วย
(๕) อิทธิบาท๔ ช่วย make money ได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับบุญที่เท่ากัน
จีนญี่ปุ่นยิว มีอิทธิบาท๔ มากกว่าฝรั่ง, ฝรั่งมีอิทธิบาท๔ มากกว่าไทย
-มีฉันทะอยากรวยๆๆๆๆๆ คือต้อง "เพียงพอ" คือ "เพียงมี(ความทะเยอทะยานขวนขวาย)เท่าที่(จนกว่าจะ)พอใจ" (สุดแต่ใจจะไขว่คว้า,ตะกายดาว,ฝันให้ไกลไปให้ถึง,ว่าวต้องต้านลมจึงจะขึ้นสูง, No bird soars too high, if he flies with his own wings. )
-ขยันตั้งใจมั่นใจจดจ่อศึกษาวิเคราะห์คิดวิธีหาเงินๆๆๆๆๆ
(๖) แต่ที่สำคัญกว่าเงินคือ ไทยจะเป็นมหารัฐทาง "พุทธิปัญญา" และจิตวิญญาณ (ได้ทางเศรษฐกิจด้วยก็ดี)
#4
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 07:46 PM
QUOTE
พวกต่างประเทศเนี่ยทำไมเขารวยกว่าเราเพราะเขาไม่ใช่ศาสนาพุทธและศาสนาของเขาก็ไม่ได้บอกให้คนทำบุญ
- กำลังมองที่ค่าของเงินเป็นหลักหรือเปล่า?- ลองหันมามองทรัพยากรดู แล้วจะรู้ว่าประเทศใดอุดมสมบูรณ์กว่ากัน...สมมุติว่า...ทุกประเทศมีหน่วยเงินตราเท่ากัน...ใครจะมีกินมีใช้มากกว่า....หากทุกประเทศปิดประเทศ...ใครจะอดตายก่อนกัน
- โดยผืนปฐพี
+++ด้านหนึ่ง...มีหิมะปกคลุม อดอยากในยามหนาว อาหารการกินหายาก จึงต้องกักตุนเสบียงในยามหนาวเหน็บ เก็บขอนไม้เป็นเชื้อฟืนใช้ความร้อนจากเตาผิงทำให้ร่างกายอบอุ่น เสบียงไม่พอก็ต้องซื้อจากประเทศอื่น หรือ นำมาจากประเทศอาณานิคม...เพราะเขาเป็นจักรวรรดินิยมมาก่อน...จึงเป็นผู้กำหนด...สร้างระบบของตน...เพื่อความได้เปรียบของตนต่อประเทศเกษตร...แต่ความลำบากของเขาก็ก่อให้เกิดนักประดิษฐ์นำมาสู่วิทยาการ
+++อีกด้าน...ถางป่าจนเป็นทะเลทรายอันเวิ้งว้าง...มีโอเอซีสกำหนดชุมชน เพราะเป็นแหล่งน้ำอันมีค่าจากฝนและหิมะที่ละลาย..นำมาซึ่งการกสิกรรม...เจาะเนินเขาให้เป็นถ้ำที่อยู่อาศัย...กั้นภัยจาก...พายุทราย...เวลาผ่านไปสู่ยุคอุตสาหกรรม...อ้าวพบหลุมน้ำมันมหึมา...เป็นความต้องการทั่วโลก...แต่ถ้าปิดประเทศ...น้ำมันนั้นกินไม่ได้นะ
+++ด้านสุดท้าย...เป็นป่าเขาลำเนาไพร พืชพรรณอุดมสมบูรณ์...มีแม่น้ำเป็นเส้นชีวิต...ดินอุดมด้วยแร่ธาตุ...ปลูกอะไรก็ออกดอกออกผล...คงมีภัยก็เพียงหน้าน้ำ...แต่บ้านก็ยกพื้นมีเรือผูกไว้...มียุ้งฉางสำรอง...ไม่มีอด...มีเนื้อนาบุญมากที่สุด
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#5
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 06:30 PM
ความเห็นส่วนตัวนะคะ ที่เค้ารวยกว่า เหตุที่เห็นได้ชัดเจนคือ
ชาวต่างประเทศมีวัฒนธรรมที่ถูกปลูกฝังมาคือ
มีความเพีียรมาก
มีวินัยมาก
มีความรับผิดชอบมาก
เหตุสามอย่างนี้ก็เป็นธรรมมะที่พวกเขาเหล่านั้นปฏิบัติอยู่เป็นนิจ จนติดเป็นนิสัยและฝังอยุ่ในสันดาน
นึกได้ีอีกข้อนะคะ คือเป็นพหูสูตรด้วย
มีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะต่อสังคม และส่วนรวม ...ต่างกับบางประเทศ ที่ไม่ค่อยมีวินัยและความรับผิดชอบต่ำส่วนรวม
ถ้าเทียบในมงคล 38 ประการ คนต่างประเทศส่วนใหญ่น่าจะมีสิ่งเหล่านี้
ทำงานไม่คั่งค้าง
มีศิลปะ
เป็นพหูสูตร
มีบุญวาสนามาก่อน
เพิ่มเติม ลองพิจารณา ตามพระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทัตตะฯ
คลิกเพื่อดู
ชาวต่างประเทศมีวัฒนธรรมที่ถูกปลูกฝังมาคือ
มีความเพีียรมาก
มีวินัยมาก
มีความรับผิดชอบมาก
เหตุสามอย่างนี้ก็เป็นธรรมมะที่พวกเขาเหล่านั้นปฏิบัติอยู่เป็นนิจ จนติดเป็นนิสัยและฝังอยุ่ในสันดาน
นึกได้ีอีกข้อนะคะ คือเป็นพหูสูตรด้วย
มีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะต่อสังคม และส่วนรวม ...ต่างกับบางประเทศ ที่ไม่ค่อยมีวินัยและความรับผิดชอบต่ำส่วนรวม
ถ้าเทียบในมงคล 38 ประการ คนต่างประเทศส่วนใหญ่น่าจะมีสิ่งเหล่านี้
ทำงานไม่คั่งค้าง
มีศิลปะ
เป็นพหูสูตร
มีบุญวาสนามาก่อน
เพิ่มเติม ลองพิจารณา ตามพระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทัตตะฯ
คลิกเพื่อดู
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป