หลวงพ่อทตฺตชีโวท่านเก่งพิมพ์ดีดจากกระเป๋าเจมส์บอน
#1
โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 12:22 AM
#2
โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 12:27 PM
#3
โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 12:31 PM
อยากบอกทุกคนว่า..อัจฉริยะสร้างได้ จริงๆครับ
#4
โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 05:25 PM
#5
โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 07:02 PM
สาธุเลยครับ
ไม่ต้องลงทุนไปเรียนให้เสียตังเลยนะครับ
แต่ตั้งประเด็นว่า ถ้าท่านมีเวลาและปัจจัย ท่านก็อาจจะไปเรียนก็ได้นะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 08:40 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#8
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 10:29 AM
ดังนั้นจะไม่มีอุปสรรคใดๆที่จะสามารถขัดขวางนักสร้างบารมีได้ แม้แต่พญามารยังพ่ายต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอระลึกและนำแบบอย่างที่ดีนี้ไปปฎิบัติ และขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 10:48 AM
#10
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 02:09 PM
#11
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 05:02 PM
ไม่ได้คิดเทียบชั้นกับครูนะคะ เพราะคงไม่ติดฝุ่นในเล็บเท้า แหะๆ
แค่จะเล่าว่าฟ้าร้างเอง ก็ไม่เคยไปหัดเรียนที่ไหน เปิดหนังสือ หัดเอง แต่โชคดีหน่อย ตรงที่มีคุณอาใจดี ยกเครื่องพิมพ์ดีดมาให้หัด แค่บ่นว่าอยากหัดพิมพ์งานให้พ่อเท่านั้นเอง แหะๆ ก้อเลยพิมพ์ดีดเป็นตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาลัย ทั้งไทยและฝรั่ง ทั้งที่สมัยนั้น คอมพิวเตอร์คือไร ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยยย ด้วยสติปัญญาตอนนั้นที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ก้อคิดได้แต่เพียงว่า โลกนี้คงมีแต่เครื่องพิมพ์ดีด
ฮี่ๆ

อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#12
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 06:18 PM
พวกเราโชคดีนะคะ ที่มีต้นแบบการฝึกตัวดีๆในทุกๆด้านของหลวงพ่อท่าน
#13
โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 05:35 AM
บุคคลต้นแบบท่านหนึ่งของเราครับ
#14
โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 03:05 PM

#15
โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 04:16 PM
โดย ท่านไม่เคยลืม ยึดแบบอย่างจากครูบาอาจารย์ และ หลักในพระไตรปิฎก เป็นแนวทาง เป็นถนนให้เดิน
...
เวลาที่เราจะต้องคุยกับคนทางโลกที่ยึดแต่เหตุ แต่ผล หรือ คนใหม่ๆ ที่ยังศึกษาไม่พอในวัด มายืนเถียงเรา ข้างๆคูๆ แบบรู้ไม่จริง
เราก็จะขอ ยึดแนวทางของท่านเสมอ...ก็จะได้ผลดีทุกครั้ง ถ้าคนนั้น ไม่มุ่งแต่จะเอาชนะ
เลยยึดแนวทางท่านมาตลอด นุ่มนวล ชัดเจน มีหลักการ
...เพราะเราต้องอยู่อย่างมีความสุขกับคนที่ต่างความคิด ความเชื่อ
บางครั้ง ต้องทำให้เขา ศรัทธาในเราก่อน จึงจะเป็นทนายแก้ต่างให้วัดเราได้
ขอกราบแทบเท้า กราบขออนุโมทนากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านทั้งสองรูป
ที่เป็นพระพ่อที่เดินนำ ให้ลูกตามแบบมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเลย
และ ขอบคุณเจ้าของกระทู้จ้ะ
#16
โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 07:42 PM
สบายไปแปดอย่าง..
รักหลวงพ่อมั่กๆฮับ..