ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเอามากๆ โดยเฉพาะซูชิหรือข้าวหน้าปลาดิบและซาซิมิหรือปลาดิบแล่ โดยที่ผมชอบกินคือหน้าปลาซาลม่อน หน้าไข่ปลาซาลม่อน และหน้าปลาไหล ซึ่งซุชิและซาซิมิ ถือได้ว่าเป็นอาหารมีระดับในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ผมเคยชอบถึงขนาดเคยคิดอยากจะทำบุญเลี้ยงพระด้วยซูชิหรือซาซิมิเลยทีเดียว จึงมีข้อสงสัยเกิดขึ้นมาในใจผม
คำถาม
1. ซูชิและซาซิมิถึงแม้จะเป็นของดิบแต่ก็จัดว่าเป็นอาหารมีระดับของประเทศญี่ปุ่น หากนำซูชิหรือซาซิมิไปถวายพระภิกษุ ท่านจะฉันได้หรือไม่
2. การนำของดิบถวายพระภิกษุจะได้บุญหรือเป็นวิบากกรรมอย่างไรหรือไม่
3. ทั้งที่ผมเป็นคนไทย แต่เหตุใดทำไมผมจึงรู้สึกชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นประเภทนี้ตั้งแต่แรกเห็น ทานได้โดยไม่รู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยงทั้งที่เป็นของดิบเลยแม้แต่น้อย
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นนะครับ
มีเรื่องสงสัยอีกแล้วครับท่าน3
เริ่มโดย เคยเข้าวัด, Jul 25 2008 02:47 PM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 02:47 PM
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#2
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 03:18 PM
ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันเลยครับ แต่สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบก็คือ นัตโตะครับ มันเป็นถั่วหมักเหนียวหนึบๆ กลิ่นเหม็นฉุนมาก แต่คนญี่ปุ่นก็ชอบกินกัน วันนึงผมก็ลองไปซื้อมากินบ้าง กินได้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายครับพี่น้อง อิอิ แล้วก็เอากล่องนัตโตะที่มีเหลืออยุ่ให้อาจารย์สาวชาวญี่ปุ่นสอนภาษาญี่ปุ่นซึ่งผมเรียนอยู่ เขาก็ชอบมากๆๆ!!
ตอบข้อ3.ผมคิดว่าคงเป็นค่านิยม สมัยนิยม และชื่อเสียงของอาหารญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของผม เมื่อสมัยเรียนม.ปลาย ผมชอบเพลงญี่ปุ่น ดารานักร้อง(โดยเฉพาะสาวญี่ปุ่นเพราะน่ารัก คิขุดี) ก่อน แล้วก็มากินอาหารญี่ปุ่นครับ จนสุดท้ายก็มาสนใจเรียนภาษา..เมื่อก่อนถึ่งกับเป็นกระแส Japan Feverสำหรับผมเลยก็ว่าได้..แต่ปัจจุบันนี้ธรรมะFeverครับ และจะFeverต่อไปอินฟินิตี้ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
ตอบข้อ3.ผมคิดว่าคงเป็นค่านิยม สมัยนิยม และชื่อเสียงของอาหารญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของผม เมื่อสมัยเรียนม.ปลาย ผมชอบเพลงญี่ปุ่น ดารานักร้อง(โดยเฉพาะสาวญี่ปุ่นเพราะน่ารัก คิขุดี) ก่อน แล้วก็มากินอาหารญี่ปุ่นครับ จนสุดท้ายก็มาสนใจเรียนภาษา..เมื่อก่อนถึ่งกับเป็นกระแส Japan Feverสำหรับผมเลยก็ว่าได้..แต่ปัจจุบันนี้ธรรมะFeverครับ และจะFeverต่อไปอินฟินิตี้ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

#3
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 03:25 PM
อาหารตำหรับฮ่องเต้ เป็นอาหารที่สูงส่งมีไว้สำหรับฮ่องเต้เสวยเท่านั้น
แต่ขอโทษมีแต่ประเภท สมองลิง อุ้งตีนหมี สุนัขทองคำ ฯลฯ แบบนี้ถึงจะเป็นอาหารชั้นเลิศ ผมก็ม่ายเอาด้วยครับ
แต่ขอโทษมีแต่ประเภท สมองลิง อุ้งตีนหมี สุนัขทองคำ ฯลฯ แบบนี้ถึงจะเป็นอาหารชั้นเลิศ ผมก็ม่ายเอาด้วยครับ
#4
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 03:37 PM
เท่าที่ทราบ ห้ามพระฉันของดิบนะ
เรื่องนี้ คงต้องให้พระมาตอบนะครับ
เรื่องนี้ คงต้องให้พระมาตอบนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 03:40 PM
ถ้าทานแบบเป็นเรื่องเป็นราวจะชอบอาหารไทยมากสุด เพราะถูกปากและถูกราคา..
ชอบอาหารญี่ปุ่นรองลงมา เพราะทานได้เรื่อยๆเหมือนขนมเลย แต่แพงง่ะ..
แต่ชอบเพลงญี่ปุ่น ชอบภาษาของเขา ไม่รู้ทำไม รู้สึกน่ารักยังไงบอกไม่ถูก..
ตกลงตอบไม่ตรงคำถามเลยง่ะ.. รอท่านอื่นละกัน.. อยากรู้เหมือนกัน..
ชอบอาหารญี่ปุ่นรองลงมา เพราะทานได้เรื่อยๆเหมือนขนมเลย แต่แพงง่ะ..
แต่ชอบเพลงญี่ปุ่น ชอบภาษาของเขา ไม่รู้ทำไม รู้สึกน่ารักยังไงบอกไม่ถูก..

ตกลงตอบไม่ตรงคำถามเลยง่ะ.. รอท่านอื่นละกัน.. อยากรู้เหมือนกัน..
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#6
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 03:50 PM
ขอตอบอย่างผู้รู้น้อยนะครับ
ข้อ 1 ท่านฉันไม่ได้ครับ เพราะอาหารนั้นเป็นการฆ่ามาเพื่อให้ท่านฉันโดยตรง ซึ่งพระจะฉันได้ต้องไม่เป็นสิ่งที่เขาฆ่ามาให้ฉันโดยตรง ไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่สงสัยว่าเขาฆ่ามาเพื่อให้ท่านฉันครับ
ข้อ 2 ผมว่าน่าจะได้บาปมากกว่านะครับ เพราะนำสิ่งที่ท่านฉันไม่ได้ไปถวายนะครับ
ส่วนข้อสามไม่ขอตอบนะครับ เพราะยังไม่เห็นด้วยธรรมจักษุนะครับ
ข้อ 1 ท่านฉันไม่ได้ครับ เพราะอาหารนั้นเป็นการฆ่ามาเพื่อให้ท่านฉันโดยตรง ซึ่งพระจะฉันได้ต้องไม่เป็นสิ่งที่เขาฆ่ามาให้ฉันโดยตรง ไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่สงสัยว่าเขาฆ่ามาเพื่อให้ท่านฉันครับ
ข้อ 2 ผมว่าน่าจะได้บาปมากกว่านะครับ เพราะนำสิ่งที่ท่านฉันไม่ได้ไปถวายนะครับ
ส่วนข้อสามไม่ขอตอบนะครับ เพราะยังไม่เห็นด้วยธรรมจักษุนะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 04:10 PM
QUOTE
1. ซูชิและซาซิมิถึงแม้จะเป็นของดิบแต่ก็จัดว่าเป็นอาหารมีระดับของประเทศญี่ปุ่น หากนำซูชิหรือซาซิมิไปถวายพระภิกษุ ท่านจะฉันได้หรือไม่
- ฉันได้ถ้าจำเป็น...แต่ท่านคงจะไม่คุ้นลิ้น(เว้นชาวญี่ปุ่นที่บวชเป็นพระ) หากมีสำรับภัตตาหารอื่นเป็นทางเลือก...ท่านคงเลี่ยงการฉันของดิบQUOTE
2. การนำของดิบถวายพระภิกษุจะได้บุญหรือเป็นวิบากกรรมอย่างไรหรือไม่
- ได้บุญ...แต่พระอาจรู้สึกว่าดิบ(เหมือนข้าวดิบ...ไม่ปราณีต) หรือเสี่ยงกับโรคาอาพาธ เพราะท่านคงไม่คุ้นเคยกับอาหารต่างประเทศ- ขนาดหนอนรถด่วนทำสุก...บางรูปเห็นแล้วคงลำบากที่จะฉันนะ
QUOTE
3. ทั้งที่ผมเป็นคนไทย แต่เหตุใดทำไมผมจึงรู้สึกชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นประเภทนี้ตั้งแต่แรกเห็น ทานได้โดยไม่รู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยงทั้งที่เป็นของดิบเลยแม้แต่น้อย
- ความคุ้นเคยมั้ง?- โดยส่วนตัวไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่แรกเห็น พอไปกินที่ญี่ปุ่นก็เริ่มจะอร่อย(เริ่มเรียนรู้) แต่ก็ยอมรับว่าไม่กล้ากินปลาปักเป้า-หอยเม่นดิบ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#8
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 04:46 PM
ตอนแรกผมก็ตระหนักเหมือนอย่างที่ คุณหน่วยปราบพญามาร กล่าวไว้คือหากเป็นซูชิหรือซาซิมิชั้นเลิศจะต้องใช้ของสดทำ และการจะได้ของสดคือต้องจับมาเป็นๆแล้วทำทันที แต่ในปัจจุบันนั้นตามที่ผมเห็นตามร้านขายส่วนใหญ่เขาจะใช้ปลาแบบที่แล่มาสำเร็จรูปแล้วน่ะครับ ผมเลยมีข้อสงสัยเพิ่มอีกว่าหากใช้เนื้อปลาที่สำเร็จรูปมาทำถวายพระภิกษุ ท่านจะฉันได้หรือไม่น่ะครับ
อาหารตำหรับฮ่องเต้ของพี่สิริปโป เป็นผม ผมก็ม่ายอาวเหมือนกันครับ - -" คนสมัยก่อนก็ช่างสรรหาเสียเหลือเกิน คิดแล้วสยองกึ๋ยยึ๋ยๆๆ
ของผมไม่แน่ใจว่าเป็นความคุ้นเคยหรือเปล่านะครับพี่WISH คือรู้สึกอยากกินตั้งแต่แรกเห็น คำแรกที่เข้าปากคือข้าหน้าปลาซาลม่อนก็ไม่รู้สึกว่าเอียน เลี่ยน หรือขยะแขยงแต่อย่างใด ทั้งที่หลายคนบอกว่าเหม็นคาว หรือว่าเป็นกรรมเก่าของผมหว่าที่ทำให้ผมชอบกินของดิบๆ ขนาดไก่ยังเคยกินดิบๆเลยอ่ะครับ - -"
อ่า หิวกันแล้วใช่ม้างั้นหยุดแค่นี้ล่ะกัน ^ ^" ไปทานปานะแก้หิวดีกว่าเรา
อาหารตำหรับฮ่องเต้ของพี่สิริปโป เป็นผม ผมก็ม่ายอาวเหมือนกันครับ - -" คนสมัยก่อนก็ช่างสรรหาเสียเหลือเกิน คิดแล้วสยองกึ๋ยยึ๋ยๆๆ
ของผมไม่แน่ใจว่าเป็นความคุ้นเคยหรือเปล่านะครับพี่WISH คือรู้สึกอยากกินตั้งแต่แรกเห็น คำแรกที่เข้าปากคือข้าหน้าปลาซาลม่อนก็ไม่รู้สึกว่าเอียน เลี่ยน หรือขยะแขยงแต่อย่างใด ทั้งที่หลายคนบอกว่าเหม็นคาว หรือว่าเป็นกรรมเก่าของผมหว่าที่ทำให้ผมชอบกินของดิบๆ ขนาดไก่ยังเคยกินดิบๆเลยอ่ะครับ - -"
อ่า หิวกันแล้วใช่ม้างั้นหยุดแค่นี้ล่ะกัน ^ ^" ไปทานปานะแก้หิวดีกว่าเรา

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#9
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 08:02 PM
ซูชิมีการนำมาถวายหลายครั้งแล้วนาครับยังเคยช่วยยกประเคนเลย เณรชอบขอเบิล 2 ถาดเลย ลองถามที่หอฉันดู
#10
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 10:55 AM
มัชฌิมามีพระพี่ชายที่ท่านบวชมานาน จนปัจจุบันนับพรรษาพระเถระ ที่วัดเราค่ะ
จะคุ้นหน่อย จึงขออณุญาตชี้แจง...
พระพี่ชายท่านเคร่งมาก เรื่องการไปถวายเพลที่ร้านข้างนอก
ท่านสอนว่าต้องสังเกตุว่ามีบ่อปลาที่เลี้ยง หรือขังไว้ไหม
ถ้ามี ท่านจะเลี่ยงการสั่งปลา กุ้งค่ะ บางครั้ง ต้องย้ำถามจากครัวเป็นอย่างๆไปเพื่อความบริสุทธิ์บริบรูณ์
เรื่องปลาดิบนั้น คงไม่ใช่สั่งฆ่า เหมือนพวกปลา ที่เพิ่งนำมาจากบ่อค่ะ
เพราะมักเป็นปลาที่เลี้ยงมาพิเศษ เพราะเอาไว้ทานดิบค่ะ จึงมักมากับตู้แช่ ตายมาแล้ว
ความดิบของปลาดิบญี่ปุ่นนั้น ไม่ผิดอะไรถ้าจะถวายค่ะ บางรูปท่านชอบก็ฉันได้เหมือนเราๆ
แต่ควรปวารณา แล้วกราบถามท่านก่อน เพราะบางรูปท่านอาจไม่สบายใจที่จะฉัน หรือฉันของดิบไม่เป็นค่ะ
เรื่องอาหารจีนฮ่องเต้นั้น คงถวายได้เฉพาะชนิดที่ปรุงมาแบบปกติทานกัน ใส่จานชาม แบบงดงามน่ามอง
ส่วนเรื่องอาหารบ้าบอจำพวก ที่ชอบนำสัตว์เล็กใหญ่ มาปาณาติบาททั้งหลายทั้งปวง
ถ้าเห็นเป็นหัว เป็นตัวตน ก็ผิดค่ะ ไม่เหมาะ ด้วยประการทั้งปวง ที่จะนำมาถวายทาน
ผิดทั้งศีลเพราะสั่งฆ่ามาพิเศษ(อันนี้แน่ๆ) ผิดทั้งธรรม คือความเหมาะสมค่ะ
...
อาหารญี่ปุ่นนั้น แม้จะดิบ แต่ก็ปราณีตในการปรุง วางรูปลักษณ์สะอาดสะอ้านนี่คะ
ของโปรดเลยค่ะ นั่นน่ะ
เฮ้อ..หิวจังตอบกระทู้นี้ ...555
....
จะคุ้นหน่อย จึงขออณุญาตชี้แจง...
พระพี่ชายท่านเคร่งมาก เรื่องการไปถวายเพลที่ร้านข้างนอก
ท่านสอนว่าต้องสังเกตุว่ามีบ่อปลาที่เลี้ยง หรือขังไว้ไหม
ถ้ามี ท่านจะเลี่ยงการสั่งปลา กุ้งค่ะ บางครั้ง ต้องย้ำถามจากครัวเป็นอย่างๆไปเพื่อความบริสุทธิ์บริบรูณ์
เรื่องปลาดิบนั้น คงไม่ใช่สั่งฆ่า เหมือนพวกปลา ที่เพิ่งนำมาจากบ่อค่ะ
เพราะมักเป็นปลาที่เลี้ยงมาพิเศษ เพราะเอาไว้ทานดิบค่ะ จึงมักมากับตู้แช่ ตายมาแล้ว
ความดิบของปลาดิบญี่ปุ่นนั้น ไม่ผิดอะไรถ้าจะถวายค่ะ บางรูปท่านชอบก็ฉันได้เหมือนเราๆ
แต่ควรปวารณา แล้วกราบถามท่านก่อน เพราะบางรูปท่านอาจไม่สบายใจที่จะฉัน หรือฉันของดิบไม่เป็นค่ะ
เรื่องอาหารจีนฮ่องเต้นั้น คงถวายได้เฉพาะชนิดที่ปรุงมาแบบปกติทานกัน ใส่จานชาม แบบงดงามน่ามอง
ส่วนเรื่องอาหารบ้าบอจำพวก ที่ชอบนำสัตว์เล็กใหญ่ มาปาณาติบาททั้งหลายทั้งปวง
ถ้าเห็นเป็นหัว เป็นตัวตน ก็ผิดค่ะ ไม่เหมาะ ด้วยประการทั้งปวง ที่จะนำมาถวายทาน
ผิดทั้งศีลเพราะสั่งฆ่ามาพิเศษ(อันนี้แน่ๆ) ผิดทั้งธรรม คือความเหมาะสมค่ะ
...
อาหารญี่ปุ่นนั้น แม้จะดิบ แต่ก็ปราณีตในการปรุง วางรูปลักษณ์สะอาดสะอ้านนี่คะ
ของโปรดเลยค่ะ นั่นน่ะ
เฮ้อ..หิวจังตอบกระทู้นี้ ...555
....
#11
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 02:48 PM
อ่านกระทู้ไปชักจะเริ่มหิวซะแล้ว...ซู้ด ๆ ๆ...สาธุ
#12
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 10:53 PM
ของโปรดเราเลย อาหารญี่ปุ่น อิ อิ