
รับมาซะดีๆว่าอ่านแล้วรู้สึกอย่างไร
#1
โพสต์เมื่อ 25 August 2008 - 10:36 PM
แปลว่า
"ขอนอบน้อม แด่ พระผู้มีพระภาค อรหันตะ สัมมาสัมพุทธเจ้า"
ผู้กล่าวคำนมัสการว่า นโม เป็นครั้งแรก คือ สาตาคีรียักษ์
ผู้กล่าวคำนมัสการว่า ตสฺส เป็นครั้งแรก คือ อสุรินทราหู
ผู้กล่าวคำนมัสการว่า ภควโต เป็นครั้งแรก คือ ท้าวจตุโลกบาล
ผู้กล่าวคำนมัสการว่า อรหโต เป็นครั้งแรก คือ ท้าวสักกเทวราช
ผู้กล่าวคำนมัสการว่า สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เป็นครั้งแรก คือ ท้าวมหาพรหม
คำนมัสการทั้ง ๕ คำนี้ ต่อมาภายหลังพระอรหันต์ทั้งหลาย ได้ประมวลเข้าไว้เป็นบทเดียวกัน เพื่อใช้สำหรับกล่าว
นมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๓ ประเภท คือ
นโม จบที่ ๑ สำหรับ นมัสการ พระสัทธาธิกะพุทธเจ้า
นโม จบที่ ๒ สำหรับ นมัสการ พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า
นโม จบที่ ๓ สำหรับ นมัสการ พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า
อนึ่ง ใน "นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส" ประกอบด้วยพระพุทธคุณทั้ง ๓ ประการแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ
พระพุทธเจ้าทรงเป็น สมฺมาสมฺพุทธสฺส ผู้ตรัสรู้ดีโดยชอบได้โดยพระองค์เอง ด้วย พระปัญญาธิคุณ
พระพุทธเจ้าทรงเป็น อรหโต ผู้ห่างไกลจากข้าศึก คือ กิเลสทั้งหลาย ด้วย พระบริสุทธิคุณ
พระพุทธเจ้าทรงเป็น ภควโต ผู้สั่งสอนให้ผู้อื่นตรัสรู้ตาม ด้วย พระมหากรุณาธิคุณ
เป็นยังไงกันบ้างครับ แค่คาถา ๑ บท ยังมีที่มาที่ไป ยังมีความหมายลึกซึ้งขนาดนี้ ผุ้ที่กล่าวคำในคาถานี้คนแรกๆก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดาเลย ขนาดท้าวมหาพรหม ยังเปล่งวาจาคาถายอมรับในพระปัญญาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย พวกเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดในบวรพุทธศาสนา พยายามรักษาตัวกันไว้ให้ดีนะครับ อย่าให้หลุดไปไหนกันเชียว เราเดากันไม่ถูกหรอกครับ ว่า การจะได้ยินคำว่าพระรัตนตรัยนั้น ยากเย็นแค่ไหน ตอนนี้พวกเราได้ยินกันแล้ว ทราบซึ้งกันแล้ว ก็พยายามเกาะหมู่เกาะพวกกันไว้ให้ดีนะครับ
ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสเทศนาในเรื่องใด ถึงเป็นเหตุให้ เทวดาทั้งหลายได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นจำนวนถึง ๘๐ โกฏิ !!!
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
ปล. ที่มาที่ไป คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี ๑ ขุททกปาฐ ๑ ปรมัตถโชติกา ๑ นิทานสังยุตต์ ๑
#2
โพสต์เมื่อ 25 August 2008 - 11:21 PM
#3
โพสต์เมื่อ 25 August 2008 - 11:32 PM
#4
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 12:58 AM
รอฟัง..เอ้ย รออ่านด้วยใจจรดจ่อมากมาย..
สาธู๊..
#5
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 01:02 AM
#6
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 06:37 AM
Anumothana Boon
#7
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 07:02 AM
#8
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 08:31 AM
จะรออ่านตอนต่อไปครับ
#9
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 08:58 AM
#10
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 10:46 AM
ขออุโมทนาบุญ....สาธุ
#11
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 11:03 AM
ซึ้งในพระรัตนตรัย
บุญแล้วที่เกิดมาเป็นพุทธ
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี
#12
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 11:04 AM
สาธุ สาธุ สาธุ..

ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#13
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 12:53 PM
#14
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 02:14 PM
#15
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 02:23 PM
เกิดความรู้สึกว่า อุเหม่เรา จะอธิษฐานขอไปพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตัวเป็นๆ ซักครั้งนึง หากสมหวังจริง คงดีไม่น้อยเลย
ขอบคุณท่านทัพพีในหม้อนะคะ สาธุ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#16
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 03:29 PM
...ยังไงก็ขอสาธุการที่...ใช้ทัพพีตักความรู้ในหม้อมาให้เพื่อนๆได้รู้
#17
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 03:33 PM
สาธุเจ้าค่า
#18
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 03:53 PM
#19
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 04:59 PM
#20
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 06:46 PM
#21
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 07:12 PM
นั่นคงเป็นที่มาว่าทำไม จึงสวดมนต์แล้วมีสิทธิเข้าถึงธรรมได้
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#22
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 09:03 PM
#23
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 10:32 PM
#24
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 10:48 PM
อ่านแล้วรู้สึกยินดี ที่ได้มารู้ มาเห็น
ปิติ ดีใจ ที่ได้มาร่วมวงบุญเดียวกันกับหมู่คณะ
#25
โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 06:17 PM
ถ้ามีการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นผมคงไม่เม่ือยมือมากครับ
คนต่างชาติชอบถาม เพราะเขาได้ยินบ่อย
เจ้านายผมเป็นคนละเอียด เขาคงหายสงสัยหากได้คำแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น
------------
อ่านแล้วรู้สึกว่าภาษีบาลีง่ายนิดเอง
สาธุ สาธุ สาธุ
#26
โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 11:29 PM

ดีจัง ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะครับ
ไฟล์แนบ
#27
โพสต์เมื่อ 28 August 2008 - 09:35 AM
Anumothana.... sadhu...sadhu...sadhu.........
#28
โพสต์เมื่อ 28 August 2008 - 01:15 PM
อนุโมทนาบุญกับธรรมทานครั้งนี้ด้วยนะครับ ^ ^"
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#29
โพสต์เมื่อ 28 August 2008 - 02:04 PM
#30
โพสต์เมื่อ 29 August 2008 - 01:27 AM