ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

DMC Blog: โชคดีนะ!


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 12:00 AM

วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึก “โชคดี” เพราะในขณะที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะหุ่นมนุษย์สู้รบกันไม่ลดราวาศอก แต่ผมกลับเป็นสุขสงบ น่าอัศจรรย์ใจว่า ประเทศที่อุดมสมบูรณ์ มีข้าว มีน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม มีศิลปะ วัฒนธรรมอันวิจิตร น่าจะเป็นดินแดนที่ผู้คนอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุขนี้ กลับต้องรุ่มร้อนไปด้วยมือของคนในแผ่นดินที่ทำสงครามเข้าใส่กัน ทั้งทาง “ความคิด” “คำพูด” และ “การกระทำ” พลอยทำให้ “ชีวิต” ของคนนับล้านเดือดเนื้อร้อนใจ และร้อนกายไปด้วย

ผมเห็นใจทุกคนที่อยู่ใน “เกม” และสงสารทุกคนที่เป็น “หมาก” แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเราลิขิตชีวิตตนเอง เราก็ต้องเดินอยู่ในเกมที่เรากระโจนเข้าไปนั้น

ท่ามกลางความรู้สึกมืดมนของคนเป็นอันมาก ผมกลับรู้สึกเป็นสุขใจได้ และเมื่อได้ตรองดู ผมก็ทราบว่า เป็นเพราะผม “โชคดี” กว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านคน

ความโชคดีประการแรก คือ ผมได้ “ครูดี” ครูท่านสอนผมมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น แตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆ ผมฟังท่านสอนมาตลอด จนความห้าวลดเลือนไปเรื่อยๆ บัดนี้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มขั้น และกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่วัยกลางคนในทศวรรษนี้ หากตัวผมในวันนั้น ได้คุยกับตัวผมในวันนี้ เราคงมองกันและกัน และถามว่าทำไมนายถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ทุกวันนี้ใจผมเป็นอิสระมากกว่าแต่ก่อน แม้กายจะยังติดคุกสังสารวัฏอยู่ แต่ผมก็มีใจที่เสรี มีเป้าหมายของชีวิต อาจหาญ ร่าเริง เบิกบาน และรู้ว่า ทุกๆ เช้า เราตื่นมาเพื่ออะไรกัน แน่นอนว่า ผมไม่ได้ตื่นมาเพื่อเป็นทุกข์ แต่ผมตื่นมาเพื่อสร้างความสุข และ “ครูดี” ของผมท่านก็สอนผมมาโดยตลอดว่า เราจะสร้างความสุขได้อย่างไร “ครูดี” ทำให้ผมฉลาดขึ้น จิตใจมั่นคง มีหลักในการคิด และมีมุมมองที่ไม่เหมือนใคร “ครูดี” สอนให้ผมมองชีวิต ตั้งแต่บัดนี้ไป จนถึงจุดสิ้นสุดของ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถ้าถามว่าในโลกนี้ใครมองการณ์ไกลมากที่สุด ผมก็ต้องบอกว่า “ครูดี” ของผมนี่เอง เพราะเหตุนี้ เวลาวางแผนชีวิต หรือทำอะไรสักอย่าง ผมก็ต้องมองการณ์ไกล แล้วต้องทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับกลไกของกฎแห่งกรรมอีกด้วย นี้จึงเป็นความโชคดีอันดับหนึ่ง

ความโชคดีประการที่สอง คือผมมี “พ่อแม่ดี” ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ อยู่ในวัยที่เรียกว่า ถ้าจะเป็นพ่อคนก็เป็นได้แล้ว พ่อแม่ก็ยังห่วงใย คอยเอาใจใส่ผมอยู่เสมอ พ่อแม่ผมไม่เคยให้โทษ ท่านให้แต่คุณ และท่านก็ทำหน้าที่ของการเป็นพ่อแม่อย่างสุดความสามารถ นอกจากนี้ ท่านยังเป็นบุคคลแรกที่ชี้นำผมมาสู่ธรรมะ การที่ผมมีครอบครัวที่ดีนี้เอง ก็ทำให้ชีวิตเป็นสุขอีกประการหนึ่ง

ความโชคดี ประการต่อมา คือมี “เพื่อนดี” การมีเพื่อนดี ก็หมายถึงการมีสังคมที่ดีเป็นของตัวเอง เพื่อนๆ ของผม ล้วนเป็นนักสร้างบุญสร้างบารมี เราทุกคนมองเป้าหมายเดียวกัน มีความปรองดอง สมัครสมานกลมเกลียว เป็นเพื่อนที่ไม่ให้โทษ ผมรู้สึกว่าหากเรามีความมั่นใจในตัวเอง แล้วยืนเท่อยู่คนเดียว เราก็รู้สึกดีอยู่แล้ว แต่การที่เรามีความมั่นใจ แล้วยืนอยู่ท่ามกลาง “เพื่อนดี” เราย่อมรู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก ความเท่ย่อมทับทวีคูณ เหมือนหงส์ที่อยู่ในหมู่หงส์ ก็มีแต่จะสง่างามยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อนดีจึงทำให้ความสุขของชีวิตสมบูรณ์ขึ้นได้

ความโชคดีประการสุดท้ายที่ผมอยากจะกล่าวถึง คือความ “ใฝ่ดี” ของผมเอง เพราะถ้าหากผมไม่ใฝ่ดีเสียแล้ว ผมก็คงละทิ้ง “ครูดี” “พ่อแม่ดี” และ “เพื่อนดี” ทั้งหมดไป การขีดเส้นทางเดินให้กับชีวิตของตนเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญ ผมเคยจำได้ถึงสมัยก่อนที่ผมจะมารู้จัก “ครูดี” บางครั้งผมมีเรื่องที่ผมอยากจะทำ ซึ่งก่อให้เกิดสงครามภายในใจ ใจของผมเอง แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ต่อสู้ ต่อต้าน ซึ่งกันและกัน จนผมต้องรู้สึกเหนื่อยและล้า ในการตัดสินใจว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และสำหรับการตัดสินใจสุดท้ายนั้น ความ “ใฝ่ดี” ก็จะเป็นตัวชี้นำไปสู่ความถูกต้องดีงามอยู่เสมอ

วันนี้... เป็นวันที่ประเทศเราวุ่นวายจริงๆ และในความวุ่นวายนั้น ก็ทำให้ผมรู้ว่า เรา... “โชคดีจริงๆ”

from DMC Blogger: Our Dhamma Planet


#2 เด็กน้อย...หัดเดิน

เด็กน้อย...หัดเดิน
  • Members
  • 237 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 08:37 AM

โชคดีจริงจริง

#3 tazzeeใจใส

tazzeeใจใส
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 08:58 AM

ใช่คะรู้สึกอย่างเดียวกัน......

#4 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 09:24 AM

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#5 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 09:43 AM

ส่วนตัวของดิฉันเอง นั้นก็มีความ คิดคล้ายๆกับคุณ. Blissinessman เหมือนกันค่ะ แต่จะมีความสุข มากกว่านั้นก็คือ

ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีเวลาอยู่ กับการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิได้แบบสบายๆ มาทุกๆวันถึงแม้นงาน ในโลกบางอย่างจะยุ่งก็จะ

ปล่อยวางหมด ทุกๆอย่าง ขออยู่กับ มหาปูชนียาจารย์ ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ จากใจที่เป็นอยู่ในตอนนี้ค่ะ ใจก็

เลยใสปิ้งๆๆๆ จริงๆ ค่ะ โชคดีเป็นของดิฉัน ในตอนนี้ค่ะ มีสุขตลอดเวลาค่ะ


#6 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 11:40 AM

เป็นบทความที่ดี มีสาระธรรม อ่านแล้วใจสบายดีครับ
ผมได้ แง่คิดอีกมุม คือ มงคลสูตร คาถาแรก
สำคัญกับวิถีี ชีวิตของมนุษย์ ทั้งใลกนี้และในโลกหน้า มากมายนะครับ

ขอร่วมยินดี กับ ความโชคดี ๔ ของคุณ Blissinessman ด้วยครับ
คุณมีโชคดี มีสมบัติใหญ่ และคุณมองเห็นมันด้วยตนเอง

สาธุ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#7 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 01:50 PM

เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ
และคิดว่าตัวเองโชคดีเหมือนกัน ที่เจอครูดี ที่สอนให้สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้โดยไม่ลังเล ว่าสิ่งที่ทำดีหรือไม่ดี ควรทำหรือควรเลิกทำ

และโชคดีที่มีพอจะมีบุญมาบ้างที่ทำให้คิดและมองออก และไม่เผลอไปเป็น หมาก ให้ใคร และไปสร้างวิบากกรรมโดยไม่รู้ตัว

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#8 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 02:25 PM

QUOTE
ทุกวันนี้ใจผมเป็นอิสระมากกว่าแต่ก่อน แม้กายจะยังติดคุกสังสารวัฏอยู่ แต่ผมก็มีใจที่เสรี มีเป้าหมายของชีวิต อาจหาญ ร่าเริง เบิกบาน และรู้ว่า ทุกๆ เช้า เราตื่นมาเพื่ออะไรกัน แน่นอนว่า ผมไม่ได้ตื่นมาเพื่อเป็นทุกข์ แต่ผมตื่นมาเพื่อสร้างความสุข


ผู้ที่จะอยู่อย่างสงบได้ คือผู้ที่มีความสุขภายใน
ผู้ไม่มีความสุขภายใน ย่อมอยู่อย่างสงบไม่ได้

เมตตาพาแผ่ให้ -----สรรพสัตว์
สรรพสัตว์ต่างก็เป็น -----พี่น้อง
พี่น้องเที่ยววนวัฏฏ -----ทนทุกข์ แลฤา
ทนทุกข์ทนร่ำร้อง -----เมตตา

เพียงเรารู้ชาตินี้ ----เกิดมา ทำไม
มาเพื่อทำอะไร -----อยู่นี้
โลกจักสงบสุข -----ยิ่งกว่า นี้นา
สันติภาพจักยังให้ -----โลกสวรรค์

สรรพสัตว์หยุดเข่นฆ่า -----กันเสีย ทีนา
หยุดเบียดเบียนชีวิต -----พี่น้อง
เราเกิดแก่เจ็บตาย -----เป็นทุกข์ เดียวกัน
สรรพสัตว์หยุดร่ำร้อง -----โลกนี้งดงาม
--------------------------------------------


ศรีวยาฆร ประพันธ์.

#9 Smiling Girl

Smiling Girl
  • Members
  • 550 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 09:15 PM

อ่านแล้วรู้สึกดี อยากแบ่งปัน "ความโชคดี" ให้เพื่อนมนุษย์ทั่วโลกจังเลย happy.gif

เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)


#10 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 11:42 PM

"ชาวกระทู้นี่นี้--------------ประภัส สรเอย

หล่อทองหลวงปู่วัด--------ปากน้ำ

คือที่สุดแห่งเนื้อ------------นาบุญ ศักดิ์สิทธิ์

เพื่อที่สุดแห่งธรรมย้ำ-------ทั่วทั้ง พระนิพพาน."