ผมเห็นใจทุกคนที่อยู่ใน “เกม” และสงสารทุกคนที่เป็น “หมาก” แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเราลิขิตชีวิตตนเอง เราก็ต้องเดินอยู่ในเกมที่เรากระโจนเข้าไปนั้น
ท่ามกลางความรู้สึกมืดมนของคนเป็นอันมาก ผมกลับรู้สึกเป็นสุขใจได้ และเมื่อได้ตรองดู ผมก็ทราบว่า เป็นเพราะผม “โชคดี” กว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านคน
ความโชคดีประการแรก คือ ผมได้ “ครูดี” ครูท่านสอนผมมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น แตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆ ผมฟังท่านสอนมาตลอด จนความห้าวลดเลือนไปเรื่อยๆ บัดนี้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มขั้น และกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่วัยกลางคนในทศวรรษนี้ หากตัวผมในวันนั้น ได้คุยกับตัวผมในวันนี้ เราคงมองกันและกัน และถามว่าทำไมนายถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ทุกวันนี้ใจผมเป็นอิสระมากกว่าแต่ก่อน แม้กายจะยังติดคุกสังสารวัฏอยู่ แต่ผมก็มีใจที่เสรี มีเป้าหมายของชีวิต อาจหาญ ร่าเริง เบิกบาน และรู้ว่า ทุกๆ เช้า เราตื่นมาเพื่ออะไรกัน แน่นอนว่า ผมไม่ได้ตื่นมาเพื่อเป็นทุกข์ แต่ผมตื่นมาเพื่อสร้างความสุข และ “ครูดี” ของผมท่านก็สอนผมมาโดยตลอดว่า เราจะสร้างความสุขได้อย่างไร “ครูดี” ทำให้ผมฉลาดขึ้น จิตใจมั่นคง มีหลักในการคิด และมีมุมมองที่ไม่เหมือนใคร “ครูดี” สอนให้ผมมองชีวิต ตั้งแต่บัดนี้ไป จนถึงจุดสิ้นสุดของ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถ้าถามว่าในโลกนี้ใครมองการณ์ไกลมากที่สุด ผมก็ต้องบอกว่า “ครูดี” ของผมนี่เอง เพราะเหตุนี้ เวลาวางแผนชีวิต หรือทำอะไรสักอย่าง ผมก็ต้องมองการณ์ไกล แล้วต้องทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับกลไกของกฎแห่งกรรมอีกด้วย นี้จึงเป็นความโชคดีอันดับหนึ่ง
ความโชคดีประการที่สอง คือผมมี “พ่อแม่ดี” ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ อยู่ในวัยที่เรียกว่า ถ้าจะเป็นพ่อคนก็เป็นได้แล้ว พ่อแม่ก็ยังห่วงใย คอยเอาใจใส่ผมอยู่เสมอ พ่อแม่ผมไม่เคยให้โทษ ท่านให้แต่คุณ และท่านก็ทำหน้าที่ของการเป็นพ่อแม่อย่างสุดความสามารถ นอกจากนี้ ท่านยังเป็นบุคคลแรกที่ชี้นำผมมาสู่ธรรมะ การที่ผมมีครอบครัวที่ดีนี้เอง ก็ทำให้ชีวิตเป็นสุขอีกประการหนึ่ง
ความโชคดี ประการต่อมา คือมี “เพื่อนดี” การมีเพื่อนดี ก็หมายถึงการมีสังคมที่ดีเป็นของตัวเอง เพื่อนๆ ของผม ล้วนเป็นนักสร้างบุญสร้างบารมี เราทุกคนมองเป้าหมายเดียวกัน มีความปรองดอง สมัครสมานกลมเกลียว เป็นเพื่อนที่ไม่ให้โทษ ผมรู้สึกว่าหากเรามีความมั่นใจในตัวเอง แล้วยืนเท่อยู่คนเดียว เราก็รู้สึกดีอยู่แล้ว แต่การที่เรามีความมั่นใจ แล้วยืนอยู่ท่ามกลาง “เพื่อนดี” เราย่อมรู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก ความเท่ย่อมทับทวีคูณ เหมือนหงส์ที่อยู่ในหมู่หงส์ ก็มีแต่จะสง่างามยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อนดีจึงทำให้ความสุขของชีวิตสมบูรณ์ขึ้นได้
ความโชคดีประการสุดท้ายที่ผมอยากจะกล่าวถึง คือความ “ใฝ่ดี” ของผมเอง เพราะถ้าหากผมไม่ใฝ่ดีเสียแล้ว ผมก็คงละทิ้ง “ครูดี” “พ่อแม่ดี” และ “เพื่อนดี” ทั้งหมดไป การขีดเส้นทางเดินให้กับชีวิตของตนเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญ ผมเคยจำได้ถึงสมัยก่อนที่ผมจะมารู้จัก “ครูดี” บางครั้งผมมีเรื่องที่ผมอยากจะทำ ซึ่งก่อให้เกิดสงครามภายในใจ ใจของผมเอง แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ต่อสู้ ต่อต้าน ซึ่งกันและกัน จนผมต้องรู้สึกเหนื่อยและล้า ในการตัดสินใจว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และสำหรับการตัดสินใจสุดท้ายนั้น ความ “ใฝ่ดี” ก็จะเป็นตัวชี้นำไปสู่ความถูกต้องดีงามอยู่เสมอ
วันนี้... เป็นวันที่ประเทศเราวุ่นวายจริงๆ และในความวุ่นวายนั้น ก็ทำให้ผมรู้ว่า เรา... “โชคดีจริงๆ”