* จริงวันนี้ ได้วันนี้ จริงพรุ่งนี้ ได้พรุ่งนี้
*ใจที่มีพลัง จะต้องเป็นใจที่เป็นกลาง ๆ ตั้งมั่น มั่นคง
*ให้มีความอยากนั่ง และนั่งอย่างสบายเป็นทุนก่อน
*วิธีเร่งที่ดีที่สุด คือ การดูเฉย ๆ แล้วจะเย็นและมีความสุขในการนั่ง
*พอนั่งปุ๊บก็หมดหน้าที่ของตา หรือร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นหน้าที่ของใจแล้ว
*ให้รักษาอารมณ์สบายตลอดเวลา ทั้งในการนั่งและช่วงอื่น ๆ เพราะว่า “ อารมณ์สบายจะก่อให้เกิดความง่าย” ง่ายต่อการนึกนิมิต ง่ายต่อการหยุดนิ่ง ง่ายต่อการเข้าถึงธรรมภายใน
*ความสบาย มีอยู่ ๒ อย่าง คือ เกิดขึ้นเองกับเราสร้างขึ้น ความสบายที่เกิดขึ้นเอง จู่ ๆ ก็เกิดขึ้นเอง ส่วนความสบายที่เราสร้างขึ้น ทำได้โดย
๑. ห่างจากสิ่งหรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ
๒. หาสิ่งที่ทำให้สบายใจ เช่น ชมนกชมไม้ อาหารถูกใจ อยู่สงบคนเดียว ”
*ให้รักษาอารมณ์สบายก่อนที่จะนั่งจนเกิดความรู้สึกอยากนั่ง มีความพอใจในการนั่ง
*นิมิต คำภาวนามีไว้กันความฟุ้ง ความง่วง ถ้าไม่ฟุ้งไม่ง่วงก็ให้วางใจนิ่งๆเฉยๆ
*อย่าอยากได้ อยากเห็น เพราะเราจะเผลอไปเร่ง แล้วตึงประสาทตา ปวดขมับ เกร็งกล้ามเนื้อ ท่องไว้ “ ไม่อยาก ๆ” ถ้าได้ด้วยความอยาก ถึงจะใสแค่ไหนก็ไม่เอา ให้ได้ด้วยความสบายอย่างเดียว
*ให้มีชั่วโมงนั่งเยอะๆ ชั่วโมงนิ่งเยอะๆ
* การปฏิบัติธรรมให้มีมรรค ผล นิพพานเป็นแก่นสาร ไม่หวังลาภยศสรรเสริญ ถ้าหวังอย่างนั้นจะทำให้จิตไม่นิ่ง ต้องทำใจให้บริสุทธิ์ คิดเสมอว่าเรียนไปทำไม เอาจริงไหม
*ปล่อยใจเลื่อนลอยไปที่อื่นหรือเปล่า
*ต้องสะอาดหมด ทั้งซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน นอก ใน ฯลฯ
*นั่งเพราะความอยาก ลมหายใจจะร้อนๆ และอั้น พออั้นมากเข้า ๆ จะปล่อย “ ฮือ” ออกมา
*แม้เราจะไม่เข้าถึงธรรมในวันนี้ แต่อารมณ์สบาย คือ ของขวัญอันยิ่งใหญ่แก่จิตใจ ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงธรรมในวันหน้า
*จิตมีลักษณะเป็นดวง จึงเรียกว่า ดวงจิต
* ความเบา ความสบาย เป็นสิ่งที่เมื่อนั่งแล้วต้องเริ่มทำ ไม่ว่าจะได้ธรรมะในระดับใดก็ตาม
* อย่ากลัวเสียเวลา อย่ากลัวเสียหน้า อย่ากลัวว่าจะไม่ได้
* ถ้าเห็นภาพต้นไม้ คน สัตว์ สิ่งของ อย่าไปต่อสู้ เพราะใจเริ่มเป็นสมาธิ จึงจะเห็นภาพ ให้ดูเฉยๆ ดูจุดที่เล็กที่สุด เดี๋ยวภาพก็จะเปลี่ยนแปลงไปเอง เปลี่ยนไปสู่ความไม่เปลี่ยน
* ความง่ายเกิด เพราะเราทำจิตใจให้คิดว่าง่าย
* ความยากเกิด เพราะเราทำให้คิดว่ายาก
* อย่าเสียดายความคิดเก่าๆ จงสลัดทิ้งออกไป ตัดใจให้เหมือนตายจาก
* เรื่องหยาบๆภายนอก ถ้าดูเบา จะมีผลต่อภายใน
* อย่าท้อใจ อย่าน้อยใจ เพราะเมื่อกระแสใจเสื่อมคุณภาพ บาปจะเข้าครอง ต้องปลุกใจให้ฮึดสู้ นั่งให้สนุกเบิกบาน ให้เป็นบุญบันเทิงให้ได้
* ถ้ายาก เด็กทำไม่ได้หรอก
* เป็นอนุบาลตอนนี้ อีก ๕ นาที เป็นดอกเตอร์ก็ได้
* อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ อย่ากลัวว่าจะได้ช้า
* อย่านั่งไปบ่นไป “ ไม่เห็นมีอะไรๆๆๆ” ให้เฉยๆ จะได้นิสัยอุเบกขา ใจจะได้เป็นกลางๆ
* ถ้าส่วนไหนตึง นั่นพยายามเกินไป อย่าฝืนให้ปรับ
* ถ้าใจยังไม่พร้อมที่จะนึก อย่าเพิ่งนึก ให้วางใจเฉยๆ จงคอยด้วยใจที่เยือกเย็น วางใจในที่สบายๆ การวางใจเฉยๆ ไม่ใช่ช้า เพราะใจเฉย เป็นใจที่ใกล้กับใจละเอียดแล้ว
* ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก เลิกอยากก็เลิกยาก
* ทำไมฟุ้ง ทำไมฟุ้งทำไมคิดหลายเรื่อง; เพราะจิตกำลังหาที่สบาย เมื่อยังไม่พบที่ชอบก็แสวงหาต่อไป เมื่อพบที่ชอบก็หยุด เหมือนนกกระโดดหากิ่งไม้ จากกิ่งนั้นไปกิ่งนี้พอพบที่ชอบก็หยุด การที่มีความคิดเหลือเฟือ ไม่ใช่ว่าฝึกจิตไม่ได้ เพราะความคิดเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งของจิต
* ถ้าอยากได้เร็ว จะได้ช้า ถ้าไม่กลัวช้า จะได้เร็ว
* ให้ตัดใจ หักใจ ห้ามใจ ของหยาบๆภายนอกก่อน
* เรื่องข้างในมีอีกเยอะ อย่าไปเลอะเรื่องข้างนอก
ขอให้เข้าถึงธรรมะใสๆภายในกันทุกคนเลยนะ
เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆนะครับทุกคน...
