
แฟนสวย มีเมตตา อ่อนโยน แต่ผมเป็นทุกข์
#1
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 10:30 PM
แต่ด้วยความเป็นคนใจดี อ่อนโยน มีเมตตา ชอบสงสาร เห็นอกเห็นใจผู้อื่น อีกทั้งเป็นคนปฎิสัมพันธ์ ดีมาก (คุยเก่ง)
จึงมีผู้ชายมาชอบมากหน้าหลายตา ตั้งแต่เจ้าของโรงแรม ไฮโซ นักธุรกิจ ตลอดจนถึงเด็กนักศึกษา แม้กระทั่งคนไม่ได้ร่ำเรียนมา คือแฟนต้องการงานเจอผู้คนมากหน้าหลายตา ทุกวงการ ตั้งแต่ระดับ โปรเฟชชนอล จนถึงคนรากหญ้า
ความทุกข์ เกิดจากสาเหตุใดละ เกิดจากที่ด้วยนิสัยแฟนเป็นคนมองโลกในแง่ดี ใครทำดีก็ดีด้วย เลยมีคนที่สร้างภาพว่าดี แต่มาเพื่อหวัง เข้าถึงตัวแฟนผม เรื่องนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดก็เกิดอีก เป็นครั้งที่ 5 เท่าที่แฟนบอก คือมีคนธัมมะธัมโม เข้ามาตีสนิทแฟนผม พูดเรื่องศีลธรรม และวางตัวดีมาก จนวันหนึ่ง ไปทำการงานและต้องติดต่อพูดจากการค้ากับชายคนนี้ เพราะชายคนนี้มีผลต่องานที่บริษัท แฟนอยู่กับเขา 2 ต่อ 2 เขาจึงแสดงทาสแท้ ลวนลามกอดจูบ แฟนผม ดีที่แฟนไหวตัวทัน จึงตบเขาไปแรงมาก จนเขาชงัก แล้วจึงเรียบหนีออกมา โทรมาหาผมร้องไห้ทั้งคืนเลยครับ ผมปลอบใจไปว่าอย่าไว้ใจคนง่าย แฟนผมบอกไม่คิดว่า คนที่วางตัวดี เรียบร้อย ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ผมก็ได้ดุไปเหมือนกันว่า เคยบอกแล้วว่าอย่าไว้วางใจคนง่าย คนเราสมัยนี้ดูกันที่ภายนอก ไม่ได้
ผมมานั่งนึกก็ เราจะดูแลเขาตลอด24 ชม. ได้อย่างไร เราก็ต้องทำงาน อีกอย่างแฟนเคยเจอแบบนี้ มา 5ครั้งแล้ว ตอนแรกๆเขาก็โกรธ แต่ด้วยใจเมตตา อ่อนโยน ชอบเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เชื่อคนง่าย คนที่ทำไม่ดีกับเขา ก็โทรมาง้อ มายกแม่น้ำทั้งห้า บ้างก็มาร้องไห้ ขอโทษ เขาก็ยกโทษให้ทุกครั้ง
ผมกลัวจิงๆ ว่าคนพวกนี้มันจะไม่สำนึก แล้วคิดชั่วๆกับแฟนผมอีก แล้วเรี่องอาจคงจะไม่ใช่แค่แฟนถูกแค่ลวนลาม
กลุ้มใจเหลือเกิน
#2
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 11:11 PM
#3
โพสต์เมื่อ 15 December 2008 - 11:51 PM
1. ต้องระวังครับ โรค Aids กระจายไปมาก พลาด ครั้งเดียว ชีวิตอาจจะหมดอนาคต สมัยนี้ความเสี่ยงสูงเกินกว่าจะทำตัวเป็นคนใจอ่อน คบคนง่าย ไว้ใจคนไม่เลือก ไม่ระวังตัว
2. หาพระขวัญวัดปากน้ำ หรือพระของวัด ไว้ติดตัวครับ
3. ทุกครั้งที่ทำบุญ ให้เขาอธิษฐานให้พ้นภัยทุกข์ชนิด และให้มีปัญญารู้ทันคน และอธิษฐานล้อมกรอบไว้ให้ดี
4. คนเรามีกรรมเป็นของตัวเอง เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆของคนบางคน แต่กลับเป็นของยากของอีกคน เคยทำอย่างใดไว้ ก็ได้รับผลเช่นนั้น ต้องแก้ด้วยบุญ และการปฏิบัติธรรม มางานบุญใหญ่บ่อยๆครับ
5. ในกรณีนี้ อาจจะต้องฝึกมองโลกในแง่ร้าย บ้างครับ เพราะเป็นคนที่มองโลกดีเกินไป ใน case study มีกรณีที พี่ชายข่มชืนน้องสาว ก็ยังมี ให้เขาได้รับรู้แง่มุมเหล่านี้บ้าง จะได้ระวังตัว มากกว่านี้
6. สุดท้าย ถ้าไม่รักก็ไม่ทุกข์ครับ ความสวยก็อยู่ไม่นานครับ ถ้าอายุมากขึ้นความสวยลดลง ปัญหาก็อาจจะลดลงเอง
ขอให้แก้ปัญหาได้ลุล่วงครับ
#4
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 12:12 AM
#5
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:27 AM
#6
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:27 AM
2. จงอย่าไว้ใจผู้ชายให้มากนัก เค้าจะเป็นคนดีได้อย่างที่คุณคิด ถ้าโอกาส เวลา สถานที่ สภาพแวดล้อม ไม่เอื้ออำนวย ถ้าทุกอย่างมันพร้อม เค้าอาจคิดว่าคุณเอาด้วย มีใจ ต้องการ จึงลงมือ เมื่อขัดขืนเลยงงๆ เอ.. ขัดขืนตามบทบาทหรือเปล่าหว่า... การคุยเก่ง สนิดมาก อาจทำให้ผู้ชายคิดว่าคุณสนใจเค้าเป็นไปได้มาก
#7
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:51 AM
แฟนผมก็ทำงานที่ต้องเจอและพบปะผู้คนเยอะ แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้
ผมแนะนำให้ลองหาบทสอนที่หลวงพ่อทัตตชีโวท่านเคยสอนไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการวางตัว การนุ่งห่ม แล้วเราจะรู้ว่าเรามีส่วนที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นรึไม่
#8
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 10:58 AM


#9
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 11:24 AM
- ฟังแล้วเธอคงเป็นผู้ที่พร้อมด้วย ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ และ คุณสมบัติ...
- ที่สำคัญคือสถานภาพโสด ย่อมเป็นที่หมายปอง และ อาจเป็นนางฟ้าในสายตาหนุ่มๆอีกหลายๆคนนะ
- ใน 24ชม.เราต่างต้องดูแลรับผิดชอบตนเองก่อนเสมอ มีเวลาก็ควรโทรไปเสวนากันบ้างตามประสาความห่วงใย
- ทุกคนต้องเรียนรู้ศาสตร์แห่งการดำเนินชีวิต รวมถึงการวางตัวในสังคม สำคัญต้องวางใจไว้ที่หลุมหลบภัย จึงจะรู้ทันเหลี่ยมคูผู้คนและแคล้วคลาด จากภัยของราคะทั้งปวง
ไฟล์แนบ
#10
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 12:21 PM
ขอให้รักคงมั่นตลอดไปนะ
#11
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 01:08 PM
จึงทำให้..
น่าเห็นใจ..ทั้งตัวคุณและแฟนคุณ..
ส่งผลให้..
ไม่น่าไว้วางใจ..กับเหตุการณ์ใหม่ๆที่จะเข้ามาในชีวิต..
แต่ถ้า..
ทั้งคุณและแฟนคุณ ทั้งคู่เป็นคนรักบุญ..หมั่นหาบุญใส่ตัวเสมอๆ..ไม่เปิดช่องให้ทำบาป (แม้เพียงเล็กน้อย)..
บุญก็จะนำพาให้คุณทั้งคู่ พบแต่ความสุข (always) ความสำเร็จในชีวิตคู่และการงานอาชีพ..แม้กระทั่งพานพบแต่คนดีๆ
เชื่อเถอะครับ..
หนทางพ้นทุกข์มีเพียงสถานเดียว คือ มรรคมีองค์แปด นั่นแหล่ะครับ..อย่าเสียเวลาไปหาที่อื่นใดเลย..
สาธุ..
#12
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 01:19 PM
ในทางพระพุทธศาสนา การที่บุคคลจะเป็นคนสมบูรณ์ได้นั้นจะต้องมีการพัฒนาคุณสมบัติ 2 ด้านให้เท่าเทียมกัน คือ ด้านกรุณา และด้านปัญญา
กรุณาในที่นี้ หมายถึง ความรักความเอื้อเฟื้อแผ่ความเอื้ออารี ความอดทน และคุณสมบัติอันประเสริฐทางด้านอารมณ์ หรือคุณสมบัติทางด้านจิตใจอย่างอื่นๆ
ส่วนปัญญา หมายถึง ทางด้านพุทธปัญญา หรือคุณสมบัติทางด้านจิต หากบุคคลใดพัฒนาเฉพาะด้านอารมณ์ ไม่ยอมพัฒนาทางด้านพุทธปัญญา บุคคลนั้นอาจจะกลายเป็นคนโง่ แต่มีจิตใจดี ส่วนผู้ใดพัฒนาเฉพาะด้านพุทธปัญญาแต่ไม่ยอมพัฒนาทางด้านอารมณ์ ผู้นั้นอาจจะกลายเป็นคนฉลาดแต่จิตใจกระด้าง ไม่มีน้ำใจกับผู้อื่น เพราะฉะนั้น การที่จะให้เป็นคนสมบูรณ์แบบได้นั้น จะต้องพัฒนาทั้งสองด้านให้เท่าเทียมกัน นั่นคือจุดมุ่งหมายของวิถีชีวิตแบบพุทธ คือวิถีชีวิตที่มีปัญญา และมีความกรุณาเชื่อมโยงไม่แยกออกจากัน
(จาก http://www.easyinsur...a4u/core_3.htm)
#13
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 02:02 PM
โลกไม่ใช่มีแต่สีชมพูตลอดเวลานะครับ เธอต้องฝึกมองโลกไปตามความเป็นจริงให้เป็น ว่าชายปกติแล้วก็ต้องการหญิง หญิงก็ต้องการชาย
แต่ชายและหญิงที่รักกันเป็นแฟนกันแล้ว ก็จะต้องมีปกติมีใจเดียวกัน ไม่หว่านเสน่ห์ให้ใครมาลุ่มหลงงงงายอีก พูดง่ายๆก็คือ อย่าหวังควบสองตำแหน่งนั่นเองครับ อย่าเผื่อยิ้ม อย่าเผื่อรักให้ใครแม้เป็นเพียงเล่นๆ ถ้าไม่มีเหตุอันควร อันนี้เข้าใจนะครับ
เพราะมันเป็นธรรมดาของคนสวยคนหล่อ ที่จะต้องการโชว์รูปอันเรอโฉม มารยาทอันดียิ่ง มิตรภาพอันยอดเยี่ยม ให้ใครต่อใครเขาชื่นชม แต่อย่าลืมว่า ในดีก็อาจมีร้ายเข้ามาผสมผสานก็ได้ อย่าได้มองโลกในมุมเดียว แต่จงมองไปถึงสภาพความเป็นจริงที่มันกำลังเกิดขึ้นด้วย
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ท่านเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า อย่าทอดสะพานให้เขามันก็หมดเรื่อง ถ้าไม่ไปทอดสะพานให้เขา เขาก็ข้ามมาไม่ได้ ทั้งหมด ก็หวังว่าคุณก็คงจะเข้าใจนะครับ ผมไปละนะ

#14
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 02:38 PM
ที่ว่าโดน5ครั้งเนี่ย ไม่ใช่แฟนไม่ระวังตัว หรือไปอยู่ในที่ลับตาคนนะครับ บางทีไปกันเป็นกลุ่มเนี่ย แล้วเพื่อนผู้ชายคนนั้น ก็รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้แฟนนั่งคนเดียว นายคนนี้ก็เลยเข้ามาคิดไม่ดี
อีกกรณี ก็ใช้เรื่องการงานผลประโยชน์เข้ามาบังคับ แล้วงานมันมีมูลค่าเยอะ ถ้าเราไม่ได้งานนี้ บริษัทก็ต้องเสียหาย ก็ต้องปล่อยวางเรื่องส่วนตัว เอางานเป็นใหญ่ก่อน คนพวกนี้ก็ใช้โอกาสนี้ จีบแฟนผม เข้าถึงตัวแฟน มันแย่ๆมากๆ แต่ด้วยแฟนเป็นนักมาเก็ต หรือ เจรจาการค้า จะไปคุย ลวกๆ แข็งๆ กับลูกค้า ได้อย่างไรละ
อีกอย่างที่มีคนบอก แฟนสวยจิงอยู่ แต่เสน่ห์เนี่ย แรงมาก ขนาดนั่งอยู่เฉยๆยังมีคนมาขอเลี้ยงข้าว เอาดอกไม้มาให้ที่ทำงาน ทั้งที่ไม่รู้จักกัน
แบบนี้จะทำยังไง
(ขอบคุณนะครับที่หลายท่านแนะนำมา ผมจะลองทำตามดู ไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือทำบุญ)
#15
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 05:10 PM

#16
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 05:26 PM
ผู้ชายอ่ะ มันจะมีความคิดทะลึ่ง สอดละเอียดอยู่เสมอ
ดังนั้นแล้ว ถ้าผู้ชายพูดอะไรในทำนองเช่น
1. ทีเล่นทีจริง
2. ถามเรื่องไม่ควร แบบหน้าตาเฉย
3. มาทำตลก แบบขำๆ
4. ดูดีเกินจริง
ระวังให้ดี มันเป็นการแสดงออกขั้นแรกถึงความปราถนา *0* Expression of needs
มันเป็นสัญญาณเตือน ผู้หญิงมักจะคิดว่า "ไม่หรอกมัง คิดมากไปหรือเปล่านะเรา พี่น้องกันล่ะน่า"
เปรียบเทียบเหมือน เวลาเราจะจับแมว เราก็ร้องเมี๊ยวๆ แล้วย่องเข้าไปเงียบๆ
แมวไม่ตื่น เราก็ตะครุบเลย ฉันใด ฉันนั้น
จะจับหญิง ผู้ชายก็จะส่งสัญญาณ ด้วยคำถาม คำพูด โดยมีสีหน้า หน้าตาเฉย เพื่อทอดสะพาน
ให้ระวังให้ดี อิอิ
เราควรมีเส้น เช่น ไม่อยู่ด้วยกันสองคน หรือว่าไม่ไปไหนด้วยกันสองคน และถ้าไปมากกว่าสอง
สองคนนั้นก็ควรเป็นพวกเดียวกับเรา ไม่ใช่ว่า ไปกันสามคน มีเราเป็นหญิงคนเดียว อีกสองคนพวกเขา ก็เตี๊ยมกัน
หรือไม่ไปไหนตอนกลางคืน เป็นต้น
นะ มันมีคำอธิษฐานบทนึง พูดว่า ให้รู้ทันเล่กลของพญามาร ประมาณนี้ เราก็ต้องศึกษาไว้
#17
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:32 PM
เพราะหน้าที่การงาน..
ก็เป็นเรื่องธรรมดา..
แต่ต้องฉลาดเอาตัวรอด
...
เมื่อมีหน้าตาดี..เป็นที่ต้องตาต้องใจเพศตรงข้าม..
ก็จะต้องเข้าใจธรรมชาติ ของเรา
ที่จะเป็นเป้าหมายของชายเจ้าชู้..
...
การนัดหมายทางธุรกิจ จะแยกได้ 2 ประเภท
คือ การนัดพบปะเพื่อประชุม นำเสนอ หรือ หาทางแก้ไขเรื่องธุรกิจ.
การนัดหมาย จะนัดหมาย ตามสถานที่สุภาพ เงียบ
ประเภทนี้ ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา
ส่วนอีกวิธี คือการ entertain ลูกค้า
คือการเลี้ยงขอบคุณ หรือพาไปเที่ยวนั่นเอง
อันนี้แหละ ตัวก่อปัญหาลูกผู้หญิง
...
ประเภทนี้ ที่มีความเสี่ยง..
ต้องเลือกดีๆ เลี่ยงได้ต้องเลี่ยงเลย
ถ้าไม่ได้จริงๆ
ให้ผู้ชายไปทำหน้าที่แทน
หรือ ชวนเพื่อน 2-3 คนไปเป็นเพื่อนเสมอ
อย่าอยู่ดึกเลย 2-3 ทุ่ม
...
การประคองความสัมพันธ์กับลูกค้า
แม้สำคัญ แต่ต้องมีกรอบ ขอบเขตกับชีวิตความปลอดภัย
ถ้าลูกค้าถาม บ่น
ก็ให้บอกไปตรงๆ อย่างสุภาพเลยว่า
กลัวมีปัญหากับครอบครัว
หรือบ้านไกล ไม่อยากขับรถกลับดึก เปลี่ยว ฯลฯ
ถ้าลูกค้าใช้เรื่องงานกดดัน
ถ้ามันจะต้องแลกศักดิ์ศรี ลูกผู้หญิง
กับงานแล้ว..
ก็ต้องยอมให้เสียงานนี้ไป ไม่คุ้ม
หาลูกค้าที่ได้ ผลประโยชน์เรื่องงานมาดูแลดีกว่า
อย่าเสี่ยง รอดวันนี้ ก็ไม่รอดวันหน้า
อย่าใจอ่อน จะอ่อนใจจ้ะ
....
#18
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:33 PM
#19
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 06:38 PM
เห็นทางสว่างแล้วจะอ๋อครับ
สั่งสมบุญเยอะๆครับผม
#20
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 07:05 PM
#21
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 08:01 PM
สั่งสมบุญ แล้วอธิฐานจิต... ให้ห่างไกล จากคนพาล
ศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรม... ไม่มีกรรม ไม่โดนทำร้ายหลอก
สร้างบุญบารมีเยอะๆ
หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้
ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว
ajvj
#22
โพสต์เมื่อ 16 December 2008 - 09:06 PM
#23
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 10:39 AM
#24
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 04:46 PM
ทำให้ไปเป็นหญิงงามเมือง มีรูปสวย รวยเสน่ห์ เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคนที่เข้าใกล้
ทำให้คนทะเลาะกัน พระราชาเลยต้องตั้งหญิงนั้นเป็นหญิงงามเมือง
ต้องให้เพื่อนหญิง อธิษฐานจิตใหม่ให้ดี ล้อมกรอบ ไม่ให้เจอคนพาล เจอแต่บัณฑิต คนที่รัก ก็ขอให้รัก และปรารถนาดีต่อเค้าด้วยความจริงใจด้วย โชคดีนะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#25
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 04:47 PM
จะได้เกิดปัญญา และนำมาใช้ในการดูคนออกมีสมาธิที่ดีได้ครับ
#26
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 04:49 PM
๒.เอากรณี ๕ เหตุการณ์มาเขียน ให้ละเอียด บุคคล สถานที่ วิธีการ(เข้าถึง-รอดตัว) อุปกรณ์(ที่ใช้ประกอบ เช่น ดอกไม้ฯ)
๓.หาข้อดี และข้อควรปรับปรุง(เพื่อระวัง)
๔.เวลาทำบุญก็นึกถึงข้อที่ควรปรับปรุง อธิฐานอย่างให้เจออีก(อันนี้เป็นการสร้างโปรแกรมให้กายมนุษย์ละเอียดจดจำ)
๕.ให้เริ่มทำตั้งแต่ข้อ ๑ ใหม่ (วนรอบเพื่อเพิ่มความเข้มข้น จดจำ และชนะด้วยบุญในที่สุด)
หมายเหตุ...เป็นคนสวยก็ดีแล้วถือว่าทำบุญมาดี...ok
#27
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 07:08 PM
เพราะเราต้องมากังวล เปงห่วงเธอ ระวังคนมาจีบ
ก็คงบอกเหมือนพี่ๆเเต่ละคนที่ตอบมาเเหละครับ ให้เธอคอยระวังตัวเอง อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ
เรียนศิลปะป้องกันตัวก้ดีคับ ไม่ก้พก พวกสเปรย์ ไว้ป้องกันตัว
ทำบุญ เเล้วอธิษฐาน ขอให้พระเดชพระคุณหลวงปู่คุ้มครอง
#28
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 08:11 PM
#29
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 10:40 PM
^^
#30
โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 09:07 AM
ขอพวกเราอย่าเป็นเช่นนั้นเลย ผมชอบคติ 2 คตินี้มาก และยึดถือปฎิบัติเสมอมา คือ
....จงรักษาความดี ให้เหมือนเกลือที่รักษาความเค็ม...
....ให้อดอย่างเสือ อย่าขโมยอย่างอีการักษาความดี...