
ถามเกี่ยวกับการทำบุญนะครับ
#1
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 07:40 AM
ทำแบบถูกไหมครับ
#2
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 10:01 AM
พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์เมื่อยังสร้างบารมี ก็มีนิพพานเป็นที่ตั้งตลอดเวลา และเป็นหนึ่งในธรรมสโมธาน ซึ่งเป็นคุณธรรมของพระโพธิสัตว์ เพราะฉนั้น ขอให้เอานิพพานเป็นที่ตั้งทุกครั้งนะครับ และรายละเอียดอะไรก็อธิษฐานตามใจชอบครับ
เคล็ดลับถ้าไม่รู้จะอธิษฐานอะไร คุณยายท่านสอนว่า ให้ดูตัวเราเองว่า ชาตินี้เราบกพร่องอะไร ให้อธิษฐานแก้สิ่งนั้นครับ
#3
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 10:09 AM
Def. ตั้งใจมุ่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, ตั้งจิตปรารถนา,
ตั้งจิตขอร้องต่อสิ่งที่ตนถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง.
Sample:ท่านแม่ทัพใหญ่จะต้องไปอธิษฐานกับพระพุทธรูปให้ชนะก่อนออกศึกสงครามเสมอ
Related word : พิษฐาน;
#4
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 10:41 AM
ดีครับ และการอธิษฐานจิตไปวงบุญิศษไม่พลัดพรากกับทีมงานของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ก็เป็นหนึ่งในหน้าที่และสิ่งที่ควรทำนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 10:53 AM
แล้วมันจะไม่เป็นการทำบุญแล้วหวังผลตอบแทนเหรอครับ
#6
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 12:11 PM
เช่น ตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อให้ เป็นผู้มีสติปัญญาในอนาคต อย่างนี้เรียกว่า เป้าหมายชีวิต หรือ อธิษฐานบารมีครับ
แต่ถ้า ตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อให้ สอบได้คะแนนดี พ่อจะได้ซื้อรถให้เป็นรางวัล อย่างนี้เรียกว่า ทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนครับ
แต่อีกหละครับ ผมว่า แม้เบื้องต้นจะทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนก็ตาม เช่น เด็กตั้งใจเรียน เพื่อหวังรางวัล แต่พอเขาเรียนมากเข้ามากเข้า สติปัญญาพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็จะเข้าใจได้เองว่า อ๋อ ตั้งใจเรียน เพราะจะไ้ด้เป็นผู้มีสติปัญญาในอนาคต เห็นมั้ยครับ มันพัฒนาไปเป็นขั้นๆ
ดังนั้น ย้ำอีกครั้งว่า อย่ากลัวการทำดี อย่ากังวลว่าเราทำดีเพราะหวังผลตอบแทนหรือเปล่า แต่ให้เราทำดีเรื่อยๆไป ทำดีจนกลายเป็นนิสัย แล้วคำว่า ทำดีเพื่อหวังผลตอบแทน จะหายไปจากใจเราเอง เพราะความดีคือนิสัยของเราไปแล้วไงล่ะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 12:27 PM
- มิได้มีความหมายเยี่ยงการติดสินบน แล้วจะต้องออกดอกออกผลในทันทีดังใจหมาย เพื่อที่จะไปแก้บนต่อ
- หากไม่อธิษฐาน(ตอกย้ำ) ความตั้งตนชอบก็จะหย่อน ยิ่งใจร้อน ก็จะคลอนแคลน ในผลแห่งบุญ ก่อให้ผลบุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
#8
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 07:38 PM
ยิ่งนานวันคุณได้ศึกษาธรรมมะมากขึ้นๆ..ได้ฟังธรรมจากครูบาฯบ่อยๆ..
วันพรุ่งคำอธิษฐานคุณก็จะรัดกุมขึ้นเรื่อยๆ..อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออก..อะไรที่สำคัญกว่าก็เพิ่มเข้าไป..
คำอธิษฐานที่ดีที่สุด คือคำอธิษฐานของปูชนียาจารย์ของเราที่ท่านได้ประพฤติปฎิบัติเป็นประจำนั่นเอง..
ขอให้คุณไปเสาะหามาศึกษาดูเองน่ะครับ..
สาธุ..
#9
โพสต์เมื่อ 26 December 2008 - 08:53 PM
การทำบุญโดยมีเจตนาจะหาผลประโยชน์จากการทำบุญนั้น เช่น
การบริจาคเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง หรือ การทำบุญเอาหน้านั่นเอง(ต้องมีเจตนาประกอบด้วยนะ)
หรือ การออกเงินช่วยสร้างเสนาสนะให้วัด โดยมีเงื่อนไขว่า จะขอรับปัจจัยจากงานกฐิน/ผ้าป่า/งานฉลองต่างๆของทางวัด
ซึ่งเท่าที่ทราบมาเจ้าภาพผู้ใจบุญ(หรือเปล่า???)ได้กำไรอื้อเลย
การอธิษฐานจิตหลังการทำบุญนั้นเท่ากับเป็นการวางแผนการใช้บุญที่เกิดขึ้นนั้นเพื่อเป้าหมายที่อธิษฐาน
เหมือนเราวางแผนไว้ว่า เงินเดือนที่กำลังจะออกของเดือนนี้เราจะเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง
เวลาเราทำบุญยังไงมันก็ต้องได้บุญอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่อธิษจิตคือวางแผนการใช้บุญเอาไว้ให้ถูกวิธี
เราก็อาจดำเนินชีวิตผิดพลาดได้ เหมือนคนที่ไม่รู้จักวางแผนการใช้เงิน แม้จะไม่จน แต่ก็จะไม่รวยขึ้นเป็นต้น ฯลฯ
เหตุนี้ การอธิษฐานจิต(วางแผนการใช้บุญของตน/ทำชีวิตให้มีเป้าหมาย) จึงเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศน์ที่เปลี่ยนคนธรรมดา
ให้กลายเป็นพระพุทธเจ้า ,พระอรหันต์, พระเจ้าจักรพรรดิได้ นั่นเพราะมีการแผนการใช้บุญ(อธิษฐานจิต)อย่างถูกวิธีนั่นเอง
ฯลฯ
#10
โพสต์เมื่อ 27 December 2008 - 05:22 PM
#11
โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 09:36 PM
#12
โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 01:56 AM
#13
โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 01:45 PM