
ทำบุญด้วยตัวเองกับมือ Vs แบบอื่นๆ
#1
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 04:25 PM
"ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ...
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"
#2
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 06:19 PM
#3
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 06:45 PM
ก่อนทำ -- ปิติใจที่จะได้ทำบุญ เช่น เตรียมอาหาร นับเงินใส่ซอง เตรียมถวายพระ เป็นต้น
ขณะทำ -- ปิติใจขณะที่ถวายทาน เช่น ประเคนอาหารพระ ถวายปัจจัยพระ แล้วปลื้ม
หลังทำ -- ปิติใจเมื่อได้ทำทานนี้ไปแล้ว ไม่เสียดายในทาน คิดแล้ว ยิ่งปิติใจ เป็นดอกเบี้ยบุญทับทวีคูณ
ถ้าขณะโอนเงิน แล้วปิติใจว่าจะได้ทำ
และรู้ว่าวันนี้เพื่อนจะนำปัจจัยไปถวายให้ ก็ยิ่งปิติใจอีก
ทำแล้วก็นึกถึงบุญบ่อยๆ
จะได้บุญทับทวีคูณ
#4
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 08:06 PM
ขณะทำ -- ปิติใจขณะที่ถวายทาน เช่น ประเคนอาหารพระ ถวายปัจจัยพระ แล้วปลื้ม
หลังทำ -- ปิติใจเมื่อได้ทำทานนี้ไปแล้ว ไม่เสียดายในทาน คิดแล้ว ยิ่งปิติใจ เป็นดอกเบี้ยบุญทับทวีคูณ
สำหรับผม ถ้าทำได้ด้วยมือตนเองยอมปิติใจมากกว่าครับ... หมั่นนึกถึงบุญเรื่อยๆบ่อยๆ ขอให้บุญรักษาได้มีเวลามาทำด้วยมือได้บ่อยๆครับ
#5
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 09:44 PM
เพราะเราไม่ได้ถวายกับมือ
แต่ก็ได้บุญ
#6
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 10:30 PM
แต่สิ่งที่สำคัญคือใจ หากไม่ได้ทำด้วยตนเองแล้วเป็นการยากที่จะมีความรู้สึกปลื้มปิติเท่ากับที่ได้ทำด้วยตนเอง
ดังนั้นหากไม่อาจไปด้วยตนเอง ก่อนทำบุญก็นั่งสมาธิให้ใจใสๆซะก่อน เมือ่ทำแล้วก็ให้กลับมานั่งสมาธิและหมั่นตรึกถึงบุญที่
ได้ทำมาอยู่เสมอๆ แล้วจะได้ได้บุญเต็มที่ ที่สำคัญอีกอย่างคือศีลเราต้องบริสุทธิ์ด้วย ก็จะได้บุญมากขึ้นอีก
แต่ดีที่สุดหาโอกาสไปทำเองให้ได้ ก็จะได้เน็ตๆเลย อนุโมทนาครับ
#7
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:04 PM
ผลบุญที่ได้รับเหมือนกัน เพียงแต่จะต่างกันตรงมี่ส่งผลยาวนานหรือระยะเวลาอันสั้น เพราะบุคคลที่ได้ทำบุญด้วยตนเองโดยตรง ย่อมมีความระลึกถึงบุญที่ตนเองทำนั้นได้ง่าย และนึกถึงได้บ่อย ๆ มากกว่าบุคคลที่ได้ชื่อว่าทำผ่าน เมื่อจิตของผู้ที่ทำบุญด้วยตนเองโดยตรงนั้นหมั่นตรึกระลึกนึกถึงบุญนั้นได้บ่อย ๆ จิตใจเป็นกุศลอย่างต่อเนื่อง ผลแห่งบุญนั้น เมื่อคราวส่งผลก็จะมาอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว ยิ่งบุญนั้นเป็นบุญที่ทำได้ยากแต่บุคคลใดสามารถทำได้ระยะเวลาแห่งการตรึกระลึกนึกถึงบ่อยขึ้นและความรู้สึกจะปลาบปลื้มปีติใจมาก ผลแห่งบุญจะส่งผลยาวนานเหมือนมีบ่อน้ำส่วนตัวไว้ใช้ไม่มีวันเหือดแห้ง
และหากบุญนั้นได้ทำถูกวิธีใน ๓ กาล คือ
ก่อนทำ ขณะที่ทำและหลังจากทำ นั้นมีจิตผ่องใสเป็นกุศลอยู่ในบุญ ผลแห่งบุญก็จะให้ผลเร็ว แรง มาได้โดยง่าย ไม่มีเงื่อนไข ไม่เป็นทุกขลาภ

#8
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:05 PM
คำตอบ ผลบุญเกิดเหมือนกัน
แต่ต่างกัน...ผู้ถวายทานกับมือ ผลบุญย่อมบังเกิดทันที ขณะที่ผู้ฝากผู้อื่นไปทำ ผลบุญจักเกิดได้ต้องมีตัวกลางหรือสื่อกลางจึงจะบังเกิดผล
#9
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:29 PM

"ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ...
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"
#10
โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:44 PM
แต่ก็ขอให้ทำเถิดครับ
สาธุ ครับผม
#11
โพสต์เมื่อ 16 January 2009 - 05:00 AM
โอกาสที่จะเดินทางไปวัดก็ไม่ใช่ง่าย สู้เพื่อนๆที่อยู่ทางเมืองไทยไม่ได้เลย ดิฉันเองก็พยายามตามตืด
ติดตามบุญทุกบุญค่ะ บ่อยครั้งเหมือนกันที่นึกน้อยใจที่ไม่ได้อยู่ใกล้วัดเหมือนคนอื่นเขา ก็ขออนุโมทนาบุญ
กับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกับหลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยายค่ะ สาธุค่ะ
ดวงพร เมืองBODØ NORWAY.ค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 16 January 2009 - 09:52 AM
โอกาสที่จะเดินทางไปวัดก็ไม่ใช่ง่าย สู้เพื่อนๆที่อยู่ทางเมืองไทยไม่ได้เลย ดิฉันเองก็พยายามตามตืด
ติดตามบุญทุกบุญค่ะ บ่อยครั้งเหมือนกันที่นึกน้อยใจที่ไม่ได้อยู่ใกล้วัดเหมือนคนอื่นเขา ก็ขออนุโมทนาบุญ
กับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกับหลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยายค่ะ สาธุค่ะ
หมั่นนึกถึงบุญมากๆ อธิฐานจิตให้ได้ปิติในบุญ ได้โอกาสถวายบุญใหญ่ด้วยมือตนเอง... ถึงอยู่ต่างแดนได้ทำบุญ นึกถึงบุญก็ได้่แน่ๆเน็ตๆ ไม่ต้องกังวลให้บุญตกหล่นครับ โดยเฉพาะระหว่าทำ แม้นนั่งหน้าดาวธรรมประกอบพิธีไปพร้อมกันก็จะได้รับการคุมบุญไปด้วย เหมือนได้ถวายด้วยมือตนเอง
แต่ถ้ามีโอกาสไปที่ศูนย์สาขา ก็จะเกิดพลัง ดวงบุญขยายเพิ่มขึ้นอีกเป็นทับทวี
ขออนุโมทนาบุญครับ
#13
โพสต์เมื่อ 16 January 2009 - 10:33 AM

#14
โพสต์เมื่อ 16 January 2009 - 11:14 AM
หมั่นเอามาทบทวนบ่อย ๆ บุญในวาระสามก็มากขึ้นเรื่อย ๆ บัญชีบุญก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายดวงบุญเราก็ขยายออกไปเรื่อย ๆ น่ะค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 17 January 2009 - 05:02 AM
สาธุค่ะ
nanalek