
ขอปรึกษาปัญหาส่วนตัวหน่อยครับ
#1
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 12:20 AM
ผมเป็นสมาชิกที่นี่มานานเหมือนกัน ไม่ค่อยมีเวลาได้ไปที่วัดธรรมกายเท่าไร ส่วนใหญ่จะหมั่นไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดเเถวๆมหาวิทยาลัยผมครับ ช่วงนี้ผมมีเวลาว่างเลยเเวะเข้ามาครับ อยากถามเกี่ยวกับความเห็นทุกๆท่านครับว่าคิดยังไงกับโหราศาสตร์ไทยครับ ผมเองก็เคยไปดูครับเเต่ยิ่งดูยิ่งเสียใจเครียดขึ้นมาก ดูบางที่ก็ออกมาไม่ตรงกับอีกที่ ดูออกมาไม่ดีอะไรต่างๆนาๆ จนผมรู้สึกสับสนจริงๆครับ
อีกเรื่องครับ ตอนนี้ผมมีเรื่องทุกข์ใจมากๆ ผู้หญิงทิ้งผม โดยให้เหตุผลของทางที่บ้านไม่ให้คบกับใครต่างๆนาๆ เเต่หลังจากนั้นเหมือนกับว่าเขาหลอกผมต่างๆนาๆ ผมรู้สึกเสียใจมากๆ เหมือนกับว่าเขาเล่นตลกกับผม ผมพยายามลืมต่างๆนาๆ นั่งสมาธิต่างๆนาๆ เเต่ก็ยังไม่หายเสียใจเลยครับ ผมอยากได้คำเเนะนำจากท่านกัลญาณมิตรหน่อยครับว่าผมควรจะทำยังไงดี
ขอบคุณสำหรับทุกคำเเนะนำล่วงหน้านะครับ เเละก็ขอโทษนะครับที่โพสเอาเรื่องทุกข์มาเล่าให้ฟัง เเต่ผมก้ไม่รู้จะหาที่ปรึกษาดีๆเท่าบอร์ดของวัดธรรมกายได้เเล้วหละครับ
#2
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 03:42 AM

แต่ตัดอาลัยนี้ไม่ขาดประหลาดนัก
จะตัดรักยิ่งไม่ขาดประหลาดใจ
มันเป็นเช่นนั้นเอง ดอกไม้พญามาร
จงรู้เท่ารู้ทัน รู้กันรู้แก้
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
"หยุดเป็นตัวสำเร็จ"
ถ้าตายลงเวลานี้ คุณจะไปไหน ไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบใช่ไหม
ชอบไปที่ใด จงเอาใจไปอยู่ที่นั่น ผู้ใดใจหมอง ต้องไปอบาย ผู้คนทั้งหลายอยากไปสวรรค์
แล้วคุณละอยากจะไปไหน ก็อยู่ที่ใจคุณเอง อย่าประมาทในวัยและวันเวลา เพราะความตาย
ไม่มีนิมิตรหมาย เกิดคนเดียวตายคนเดียว ใช้เวลาอย่างฉลาด
ผ่านแล้วผ่านเลย จงเปิดประตูสวรรค์ให้กับตัวเอง รู้ไหมว่ามีอะไร ๆ ดี ๆ มากมายรอคุณอยู๋
มิใช่คนข้างกายแต่เขาอยู่ทีศูนย์กลางกายคุณเอง ขอให้โชคดี
#3
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 08:16 AM
#4
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 09:33 AM
ยกใจให้สูงกว่าเราที่เป็นอยู่ ณ.ปัจจุบัน แล้วมองย้อนดูภายในตัวเอง
เพลง "หยูดที่ใจเราเอง"
http://www.youtube.c...re=channel_page
ส่วนเพลงรักแบบตัดใจแนะนำ เพลง "ฝันที่ต้องจบครับ"
แนวคิดคนเราจะต้องพลัดพลาดจากของรักของชอบใจด้วยกันหมดทั้งสิ้น
http://www.youtube.c...re=channel_page
ขอตบท้ายด้วยเพลงใหม่ล่าสุด อาจช่วยให้ตัดใจได้บ้างนะครับ
เพลง "พอเถอะ"
http://www.youtube.c...re=channel_page

ปล. คำแนะนำสุดท้ายฟังคำสอนยาย MP3 ฟังทุกวันจนเป็นอารมณ์ แล้วจะคิดอะไรได้เยอะครับ
ขอบอก ขอบอก :-)
Happy & Smile.
#5
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 10:13 AM
#6
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 12:10 PM
#7
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 01:20 PM
#8
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 03:40 PM
ชีวิตของคุณในวันนี้ เกิดจากคุณออกแบบชีวิตของคุณมาเองในอดีตชาติ หาใช่เพราะสวรรค์หรือพระพรหมลิขิต การไปดูหมอดูก็เป็นการไปดูเพียงปลายเหตุที่เรากำลังรับผลอยู่เท่านั้น ที่ถูกต้องคือ เมื่อดูกลับมาแล้ว ต้องรีบทำให้ตนเองตั้งอยู่ในความไม่ประมาท รีบออกแบบชีวิตของตัวเราเองเสียใหม่ แข่งกับผังชีวิตเก่าที่ไม่ดีที่ติดมาข้ามชาติ ด้วยการทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ ให้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อคุณประกอบเหตุดีในปัจจุบันมากเข้าๆๆ ชีวิตก็จะเป็นไปตามที่คุณปรารถนา อนาคตของคุณจะแจ่มใส (และให้สู้กับอุปสรรคด้วยจิตใจที่เบิกบาน เหมือนเด็กเห็นขนมหวานอยู่ตรงหน้า ลองคิดว่ามันเป็นสิ่งท้าทายความสามารถของคุณที่คุณจะต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ ขอเพียงแค่อดทน อดทน และก็อดทน สักวัน คุณต้องชนะ แต่ถ้าคนเดียวสู้ไม่ไหว ก็เข้ามารับกำลังใจจากเพื่อนๆกัลยาณมิตรในเว็บนี้ได้ทุกครั้งไป)
ที่จริงแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ไม่ทรงแนะนำให้ไปดูหมอดู แต่ทรงแนะนำให้พุทธศาสนิกชนตรวจดูตนเองด้วยธรรมะ ซึ่งเรียกว่า แว่นธรรม(ไว้ส่องดูตนเอง ตรวจสอบตนเอง)มีหัวข้อดังต่อไปนี้
1.ศรัทธา :ตรวจดูว่าตัวเรามีศรัทธาในกฎแห่งกรรม ในพระรัตนตรัย ในบุญกุศล ว่ามากหรือน้อยลงกว่าแต่ก่อน
2.ศีล :ตรวจดูว่าตัวเรามีศีล มีความเกรงกลัวและความละอายต่อการผิดศีล ว่ามากหรือน้อยลงกว่าแต่ก่อน
3.สุตตะ :ตรวจดูว่าตัวเราได้การหมั่นเข้าไปแสวงหาความรู้ สะสมข้อมูลธรรมะใหม่ๆ ว่ามากหรือน้อยกว่าแต่ก่อน
4.จาคะ :ตรวจดูว่าตัวเราได้สละทรัพย์สิน-ความสะดวกสบาย-อารมณ์-กิเลส ที่เป็นข้าศึกต่อการทำความดี ต่อการทำพระนิพพานให้แจ้ง ว่ามากหรือน้อยกว่าแต่ก่อน
5.ปัญญา :ตรวจดูว่าตัวเราได้เพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในการหยั่งแยกได้ในเหตุผล ดีชั่ว คุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ ว่ามากหรือน้อยกว่าแต่ก่อน
6.ปฏิภาณ :ตรวจดูว่าตัวเราได้นำเอาปัญญามาใช้โต้ตอบได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว ว่ามากหรือน้อยกว่าแต่ก่อน
ซึ่งถ้าตรวจแล้วพบว่ามากกว่าแต่ก่อนก็ขออนุโมทนาด้วย แต่ถ้าน้อยลงกว่าแต่ก่อนก็ได้เวลาปรับปรุงตนเองแล้ว
ประเด็นที่ 2 เรื่องความยึดติดกับความรัก
รู้ตัวหรือไม่ว่า คุณโชคดีกว่าใครอีกหลายๆพันล้านคน ที่ได้มาพบกับคำสอนในพระพุทธศาสนา ที่สามารถทำให้พ้นจากทุกข์ได้ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนตกอยู่ในไตรลักษณ์ ดังนั้นเมื่อคุณไปยึดมั่นกับคน สัตว์ สิ่งของ ว่าเป็นของๆเรา ทั้งๆที่ในสภาพความเป็นจริงของคน สัตว์ สิ่งของนั้น คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และอนัตตา(ไร้แก่นสารสาระ)แล้วคุณจะไม่ทุกข์ได้อย่างไร ถ้าคุณเอาใจไปผูกกับทุกข์มันก็ทุกข์ ถ้าคุณเอาใจไปผูกสุขมันก็สุข ถ้าคุณเอาใจไปผูกกับความเป็นจริงด้วยสติรู้เท่าทันใจคุณก็จะปล่อยวางแล้วเกิดปัญญาเกิดความสว่างขึ้นมาในใจ จะรู้สึกแช่มชื่นเบิกบาน เป็นอิสระ เพราะใจไม่ไปยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นเลย มันมาอย่างไรมันก็ไปอย่างนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไป ดุจเดียวกับความรักที่คุณยึดติดกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ไม่พ้นอาการนี้เช่นเดียวกัน
ความรักที่แท้จริง จะต้องบริสุทธิ์งดงามและสูงส่ง กล่าวคือ ถ้ารักใครเข้าจริงๆ จะต้องทำให้เขาเข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน จึงจะถูกต้อง ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงกระทำต่อบิดา-มารดา-ภรรยา-บุตร-หมู่ญาติ-และสรรพสัตว์ (ถ้ารักไม่จริง ก็ดึงเขามาติดอยู่กับวัฏฏะสงสาร อยู่ในวงจรของการเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบสิ้น) นี้ย่อมแสดงว่าทั้งคุณและเขายังไม่เข้าใจในเรื่อง "ความรักที่แท้จริง" ก็หลอกตัวเองและหลอกคนอื่นอยู่ร่ำไป
สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้ก็คือ ปล่อยวางเรื่องราวที่ไม่ดีกับจิตใจออกไปก่อน แล้วตั้งต้นทำแต่สิ่งที่ทำให้จิตใจเป็นบุญกุศล ถ้าทำได้อยากลองชวนให้ทำบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการให้ต่อเนื่องทุกวัน ถ้าคุณทำได้ จะ 7 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี ก็ได้ ค่อยๆวัดกำลังและค่อยๆเพิ่มบุญในตัวของเราขึ้นไป ใจก็จะคิดแต่เรื่องบุญกุศล ยกใจเราให้เหนี่ยวพระนิพพานไว้ กระแสวัฏฏะก็จะมาฉุดรั้งใจเราได้น้อยลง
บุญกิริยาวัตถุ 10
การทำบุญในพุทธศาสนา 10 อย่าง คือ
1.ทานมัย บุญสำเร็จด้วย การบริจาคทาน
2.ศีลมัย บุญสำเร็จด้วย การรักษาศีล
3.ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วย การเจริญภาวนา
4.อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วย การประพฤติถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
5.เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วย การช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ
6.ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วย การให้ส่วนบุญ
7.ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วย การอนุโมทนาส่วนบุญ
8.ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วย การฟังธรรม
9.ธรรมะเทศนามัย บุญสำเร็จด้วย การแสดงธรรม
10.ทิฎฐชุกรรม บุญสำเร็จด้วย การทำความเห็นให้ตรง
ลองทำเป็นตาราง 10 ข้อให้เช็คได้ทุกวัน แล้วจะเห็นผลอย่างที่คุณนึกไม่ถึง
#9
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 04:00 PM
#10
โพสต์เมื่อ 03 April 2009 - 11:11 PM
หันมาดูดวงในกลางกายดีกว่าครับ อย่าท้อ อย่าหนี ทำดีเรื่อยไป
#11
โพสต์เมื่อ 04 April 2009 - 02:30 AM
เรื่องโหร ....... เอาเป็นว่า เราลิขิตชีวิตฅนเอง และถ้าจะไปหาหมอดู แนะนำให้เอาเงินนั้นไปทำบุญท่าจะดีกว่าครับ
เรื่องความรัก ....... คิดเอาเสียว่า รักมากที่สุดให้รักตัวเองครับ เอาให้เราประสบความสำเร็จทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
#12
โพสต์เมื่อ 04 April 2009 - 11:36 AM

#13
โพสต์เมื่อ 04 April 2009 - 01:49 PM
ไปกันเยอะ ๆ นะคะ 1 ปี มี1 ครั้ง 10 ปี มี10 ครั้ง 100 ปี มี 100 ครั้ง
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#14
โพสต์เมื่อ 04 April 2009 - 09:01 PM
#15
โพสต์เมื่อ 04 April 2009 - 09:11 PM



ไฟล์แนบ
#16
โพสต์เมื่อ 05 April 2009 - 08:19 PM
ผม........... :'(
#17
โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 04:05 PM


ขอตอบเสริมจากคนอื่นๆน๊ะค๊ะ
1.เรื่องโหราศาสตร์... แสดงว่าคุณอาจเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเองเท่าไรนัก ถึงต้องคอยพึ่งหมอดู หรือหมอเดา ..
ถ้าคุณได้อ่านหนังสือในหมวดการพัฒนาตนเอง ตามร้านหนังสือนายอินทร์ หรือซีเอ็ดบุ้ค คุณจะทราบว่าหมอดูคู่กับหมอเดา ทุกสิ่งอยู่ที่เรา เราทำอย่างไร ได้อย่างนั้น ควรหมั่นประพฤติปฎิบัติธรรม นั่งสมาธิทุกวัน ค่อยเป็นค่อยไป และ ค่อยๆเพิ่ม ให้ได้อย่างน้อย วันละ 1 ชม. จะทำให้เรามีกำลังใจที่เข้มแข็งแล้วก็มีสติระลึกตนได้ตลอดเวลา จะมีสิ่งดีๆๆ มาหาเรา สิ่งไม่ดีก็อธิษฐานจิตให้ไปไกลๆๆ อย่าให้เราได้ไปข้องเกี่ยว

หรือถ้าหาโอกาสไปบวชธรรมทายาทได้ยิ่งดี จะได้มีเรื่องสนุกๆๆ กับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ได้เพื่อนแยะ กับเรื่องเล่าเยอะ จากพระอาจารย์

2.เรื่องของความรัก...อกหักรักคุด เป็นธรรมดาของรักแรกรุ่น อีกหน่อยจะดีเอง ค่อยๆเรียนรู้ไปน๊ะค๊ะ กะลองมาสมัครอาสาสมัครของวัดดูจะได้มีกิจกรรมทำทุกสัปดาห์ ประกอบกับได้บุญแยะ เพื่อนเยอะ...
นั่งสมาธิวันละนิด จิตแจ่มใส น๊ะจ๊ะ
