
ดูแอนิเมชั่นมหานรกขุม 5 แล้ว....
#1
*หุ่ย*
โพสต์เมื่อ 20 May 2005 - 12:30 PM
#2
*มิ้ง+หมอ*
โพสต์เมื่อ 21 May 2005 - 12:20 AM
จริงๆ แล้วน้องหุ่ยอาจเอาเรื่องไปเทียบกับหนังหรือภาพยนตร์ แล้วก็เอาความรู้สึกของตัวเองมาวัดว่าน่ากลัวหรือไม่ ความจริงมันจะไม่น่ากลัวเลยหากผู้ดูไม่ได้มีกรรมทางนั้น และมันจะน่ากลัวอยู่ลึกๆสำหรับคนที่มีกรรมทางนั้นอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องทำให้กลัว อีกอย่างหนึ่ง การลงทัณฑ์ของมหานรกทั้ง 2 ขุมไม่เหมือนกัน ขุม 1 มีความรุนแรงในทำร้าย แต่ขุม 5 นั้น เซาะเนื้อหนังเผากระดูกด้วยน้ำกรด มันย่อมไม่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน ขุม 1 ทำให้ตกใจได้ด้วยเสียงและท่าทางความรุนแรง ซึ่งในชีวิตประจำวันของคนก็อาจเทียบเคียงความรุนแรงของการทุบตีฟันเจาะได้ว่าน่ากลัว แต่ขุม 5 เป็นความน่ากลัวเฉพาะคนที่เคยโดนน้ำกรดราดตัวเท่านั้น และการถูกกัดเซาะไปพร้อมกับการอาเจียนไม่หยุดเลยนั้น ใครไม่โดนย่อมไม่สามารถซาบซึ้งความน่ากลัวนั้น แต่ใครเคยโดนน้ำร้อนลวกและเคยอาเจียนของร้อนๆ ในท้องย่อมรู้ว่าเป็นความทรมาน ขุม 1 เป็นความเจ็บปวดรุนแรง ขุม 5 เป็นการกัดเซาะที่ซึมลึกรุนแรงทรมานยาวนาน ความรู้สึกย่อมต่างกัน จริงไหมคะ ทำอย่างที่ทำอยู่นี่ดีมากแล้วค่ะ อยากเห็นขุมอื่นๆ ต่อไปอีกค่ะ ขอให้กำลังใจค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 21 May 2005 - 01:42 PM
#4
*Guest*
โพสต์เมื่อ 21 May 2005 - 02:42 PM
#5
*ยอดเยี่ยม*
โพสต์เมื่อ 22 May 2005 - 10:24 PM
#6
โพสต์เมื่อ 23 May 2005 - 08:12 AM
ภาพและเสียงต้องสัมพันธ์กันทุกขุม รุนแรงมากน้อยเป็นไปตามขุม
ยิ่งลึกก็ยิ่งน่ากลัว
ตามจริง อยากเห็นภาพแอนิเมชั่น อเวจี ซะด้วยซ้ำ
หากเป็นไปขอความกรุณาจากทีมงาน
กราบเรียนนมัสการ ถามหลวงพ่อธัมมะ ว่า
ท่านมีโครงการ จะทำภาพออเวจีมาให้ดูบ้างหรือเปล่าค่ะ
เท่าที่จำได้ว่า
หลวงพ่อธัมมะท่านได้ตัดทอนความรุนแรงให้แล้วส่วนหนึ่ง
เราเชื่อว่า ท่านต้องกลั่นกรองมาอย่างดีแล้วระดับหนึ่ง
ไม่ใช่ทำเพื่อความสะใจของใครหรอกค่ะ
หากต้องการความเป็นจริง ตรง ๆ ตามความคิดของคุณ ๆ กันนะ
ท่านต้องสื่ออกมาตรง ๆ เลย รู้เห็นเช่นไร ก็สื่อออกมา โหดแค่ไหน ทรมานแค่ไหน
ก็ต้องพยามสื่อออกมาให้ใกล้เคียงมากที่สุด โดยไม่ต้องตัดทอนแต่อย่างใด
จริงเปล่าค่ะ?
แต่เราคิดว่า หากไม่รุนแรงพอ จนทำให้คนสะดุ้งนะ
เราเชื่อว่า มันไม่เป็นผลหรอก หากจะมีผลก็ต่อ บุคคลที่สั่งสมบุญมาดี
ประกอบกรรมดีมาพอสมควร
แต่ประเภทแบบบาปยังหนา ปัญญาก็ยังหยาบ พวกนี้แทบไม่สะดุ้งเลย
ดีไม่ดี ปากสวยแต่...ก็จะโพล้งออกด้วยซ้ำ
ที่สำคัญ
หลวงพ่อธัมมะท่านและทีมงาน เกรงว่า เด็ก ๆ เล็ก ๆ จะดูไม่ได้
แต่ความคิดเรานะค่ะ หากภาพที่ดูแล้วทำให้เด็กกลัว
เค้าจะได้มีความกลัวต่อการทำบาป การประพฤติผิดศีล
เด็กเหมือนผ้าขาว ตอนนี้ยังทำขู่ได้ก็ควรขู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยดี ในสายตาความคิดของผู้ใหญ่บางท่าน แต่เราคิดว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" แต่ต้องอยู่ในเหตุผลที่ดี สมเหตุสมผล นะค่ะ ไม่ใช่แบบไร้เหตุผล ไร้สามัญสำนึกของการเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ที่ดี
แต่เด็กที่ดี ๆ ได้ก็มาจากการขู่ที่ดีของผู้ใหญ่ไม่ใช่เหรอค่ะ
เด็กสมัยนี้ พอเด็กโตเข้าประถมเด็กบางคนก็ฉุดไม่อยู่แล้ว
อย่างน้อย ๆ เด็กที่ได้ดูเรื่องราวเหล่านี้
เมื่อโตขึ้น เค้าได้ระลึกถึงตอนเป็นเด็กว่า
เคยดูอะไรก็ไม่รู้ น่ากลัวที่สุดในโลกเลย
ภาพอดีตเก่า ๆ จะหวนกลับมาให้เค้าระลึกถึงได้
ยิ่งเด็กที่ดูย้ำ ๆ เค้าจะฝังใจได้เลยว่า เค้าจะไม่ทำผิดศีล
จะพยายามที่สุดที่จะอยู่ในศีลในธรรมอันดี
ตามจริงนะค่ะ เมื่อเด็กดู ผู้ใหญ่ที่มีความรู้มีคุณธรรมที่ดี ควรนั่งดูอยู่ด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กดูตามลำพัง แต่หากเด็กโตแล้ว พอรู้เรื่องแล้ว ต้องให้เค้ากลับมาเล่าให้เราฟัง เหมือนให้เค้าทำการบ้านมาส่งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
เมื่อวานไปร่วมบุญบวชเอาบุญมาฝากทุกท่านด้วยนะค่ะ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
สาธุ
^/^
#7
โพสต์เมื่อ 24 May 2005 - 08:03 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#8
โพสต์เมื่อ 25 May 2005 - 01:55 AM

#9
โพสต์เมื่อ 25 May 2005 - 07:16 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#10
โพสต์เมื่อ 26 May 2005 - 08:39 AM
#11
โพสต์เมื่อ 01 February 2007 - 10:01 AM
#12
โพสต์เมื่อ 05 May 2009 - 12:18 AM