การนั่งสมาธิ จะได้บุญเยอะ เท่า กับการทำทาน
รักษาศีล รึเปล่า
เรารู้ว่าต้องทำควบคู่กันไป แต่ บุญที่ได้เท่ากันรึเปล่า
แล้วก่อนนั่งสมาธิ ต้องสวดมนต์อะไรบ้าง
การนั่งสมาธิ ได้บุญอะไรบ้าง

นั่งสมาธิ
เริ่มโดย kissy, Jul 19 2009 09:43 AM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 19 July 2009 - 09:43 AM
#2
โพสต์เมื่อ 19 July 2009 - 03:24 PM
จริงๆ แล้วหนทางที่จะตรงไปสู่พระนิพพานนั่นก็คือ การเจริญสมาธิภาวนาครับ
บุญที่ได้ก็ต้องเยอะแน่นอนครับ
แต่ถ้าเรานั่งสมาธิอย่างเดียวโดยไม่ได้ทำทานเลย
ชาติต่อไปเราก็จะมีแต่ความรู้ แต่จะขาดทุนทรัพย์(ยากจน)ครับ
แล้วก่อนนั่งสมาธิก็ควรจะบูชาพระก่อน แล้วสมาทานศีล
เท่านี้ก็นั่งสมาธิได้แล้วครับ
ผมก็พอตอบให้ได้เท่านี้นะครับ ถ้าไม่ครบก็ขออภัยด้วยนะครับ
บุญที่ได้ก็ต้องเยอะแน่นอนครับ
แต่ถ้าเรานั่งสมาธิอย่างเดียวโดยไม่ได้ทำทานเลย
ชาติต่อไปเราก็จะมีแต่ความรู้ แต่จะขาดทุนทรัพย์(ยากจน)ครับ
แล้วก่อนนั่งสมาธิก็ควรจะบูชาพระก่อน แล้วสมาทานศีล
เท่านี้ก็นั่งสมาธิได้แล้วครับ
ผมก็พอตอบให้ได้เท่านี้นะครับ ถ้าไม่ครบก็ขออภัยด้วยนะครับ
#3
โพสต์เมื่อ 19 July 2009 - 04:42 PM
รถยนต์ที่มีแต่เพลากับล้อ ก็ยังวิ่งได้ แต่ต้องใช้คนเข็น หรือการลากจูงจากคันอื่น
รถยนต์ที่มีแต่เครื่องยนต์ มีเพลา แต่ไม่มีล้อ ไม่รู้ว่ามันจะวิ่งได้หรือเปล่า......
รถยนต์ที่มีแต่เครื่องยนต์ มีเพลา แต่ไม่มีล้อ ไม่รู้ว่ามันจะวิ่งได้หรือเปล่า......
ตั้งใจทำหน้าที่ในชีวิตของเราให้ดีที่สุด
แล้ว...
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตจะอยู่กับเราเสมอ
แล้ว...
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตจะอยู่กับเราเสมอ
#4
โพสต์เมื่อ 19 July 2009 - 08:09 PM
การนั่งสมาธิได้บุญมากมายมหาศาล มากกว่าการสร้างโบถส์ วิหาร และศาลาการเปรียญค่ะ
แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้มนุษย์ ทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนา
ซึ่่งเป็นหนทางลัดในการมุ่งสู่พระนิพพานค่ะ
เพราะทานเป็นบ่อเกิดแห่งโภคทรัพย์ เพราะหากขาดการให้ทานแล้ว
ท่านก็จะไม่มีความสะดวกสะบาย ในการถือศีลและเจริญภาวนา เป็นไปตามลำดับ
การถือศีล ก็จะทำให้เรามีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์
เมื่อชีวิตของเรามีทั้งทรัพย์และร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว
เราก็สามารถเจริญภาวนา เพื่อมุ่งไปสู่พระนิพพานได้โดยลำดับ
ซึ่งเราท่านทั้งหลายจึงต้องหมั่น ทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนาไปพร้อม ๆ กัน ให้ได้ภายในวันเดียวกันค่ะ
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีความเพียร พยายาม ค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นค่ะ
ดิฉันขอแบ่งบุญทุกบุญที่ได้กระทำมา ให้กับเพื่อน ๆ กัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ สาธุ
แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้มนุษย์ ทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนา
ซึ่่งเป็นหนทางลัดในการมุ่งสู่พระนิพพานค่ะ
เพราะทานเป็นบ่อเกิดแห่งโภคทรัพย์ เพราะหากขาดการให้ทานแล้ว
ท่านก็จะไม่มีความสะดวกสะบาย ในการถือศีลและเจริญภาวนา เป็นไปตามลำดับ
การถือศีล ก็จะทำให้เรามีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์
เมื่อชีวิตของเรามีทั้งทรัพย์และร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว
เราก็สามารถเจริญภาวนา เพื่อมุ่งไปสู่พระนิพพานได้โดยลำดับ
ซึ่งเราท่านทั้งหลายจึงต้องหมั่น ทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนาไปพร้อม ๆ กัน ให้ได้ภายในวันเดียวกันค่ะ
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีความเพียร พยายาม ค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นค่ะ
ดิฉันขอแบ่งบุญทุกบุญที่ได้กระทำมา ให้กับเพื่อน ๆ กัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ สาธุ
#5
โพสต์เมื่อ 19 July 2009 - 10:31 PM


ฉะนั้นคำว่า "อานิสงส์มาก" ในที่นี้ จึงหมายถึงการหมดจดจากกิเลสทั้งปวง ไม่ต้องเกิดอีก จริงอยู่ การเกิดในสวรรค์แต่ละชั้นนั้น มีความสุขมาก เพราะได้รับกามคุณอันเลอเลิศที่เป็นทิพย์ ละเอียดประณีตขึ้นไปตามลำดับชั้น แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสว่า กามคุณนั้นเป็นของเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของชวนให้หลงใหล เป็นของมีสุขน้อย แต่มีโทษมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรม คือ อนุปุพพิกถา แก่คฤหัสถ์ จึงได้ทรงแสดงโทษของกามไว้ด้วย ผู้ที่ยินดีหลงไหลเพลิดเพลินในกาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันน่าใคร่ น่าพอใจ ย่อมไม่อาจล่วงทุกข์ไปได้ ผู้ที่จะล่วงทุกข์ได้ก็เพราะเห็นโทษของกาม ก้าวออกจากกามด้วยสมถะและวิปัสสนาเท่านั้น

ด้วยเหตุนั้น ทานที่เป็นเครื่องปรุงแต่งจิต ขัดเกลาจิตให้อ่อน ให้ควรแก่การเจริญสมถะและวิปัสสนาจนบรรลุมรรคผลไม่ต้องกลับมาเกิดอีก จึงเป็นทานที่มีผลมากและมีอานิสงส์มาก แม้สังฆทานที่กล่าวว่ามีผลมาก มีอานิสงส์มาก ก็เพราะผู้ถวายมีโอกาสได้ฟังธรรมจากสงฆ์แล้วบรรลุอริยสัจธรรม ก้าวล่วงทุกข์ทั้งปวงไม่ต้องกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก

QUOTE
การนั่งสมาธิ ได้บุญอะไรบ้าง
- ภาวนามัย...เข้าถึงแหล่งแห่งบุญเขต 
ไฟล์แนบ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#6
โพสต์เมื่อ 20 July 2009 - 11:52 AM
พุทธพจน์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง
"แม้บัณฑิตนักปราชญทั้งหลายในอดีตและปัจจุบันจะเสริญ "ทาน" เป็นอันมากก็จริง แต่ "บทแห่งธรรม" เพียงบทเดียว ย่อมประเสริฐกว่า "ทานทั้งหลาย" เหล่านั้น ทั้งนี้เพราะบัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อน ล้วนเข้าถึงธรรมอันประเสริฐที่ซึ่งพ้นแล้วจากทุกข์ทั้งปวง ก็ด้วย "บทแห่งธรรม" นั้น
"แม้บัณฑิตนักปราชญทั้งหลายในอดีตและปัจจุบันจะเสริญ "ทาน" เป็นอันมากก็จริง แต่ "บทแห่งธรรม" เพียงบทเดียว ย่อมประเสริฐกว่า "ทานทั้งหลาย" เหล่านั้น ทั้งนี้เพราะบัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อน ล้วนเข้าถึงธรรมอันประเสริฐที่ซึ่งพ้นแล้วจากทุกข์ทั้งปวง ก็ด้วย "บทแห่งธรรม" นั้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร