
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
#1
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 12:48 PM
แต่แล้วไม่กี่วันมานี้เอง เขานอนหลับปรกติอย่างไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆ แต่แล้วเขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
เรื่องนี้ ให้ข้อคิดแก่เราว่า อย่าได้ประมาทในวัย ว่าเรายังหนุ่มยังสาว ยังแข็งแรงอยู่ แล้วละเลยการสร้างบารมี เพราะความตายไม่มีนิมิตหมายใดๆ คุณครูไม่ใหญ่ยังบอกทิ้งท้ายว่า สุดท้ายก็ล้วนตายหมด
ความไม่ประมาท คือ คุณธรรมที่สำัคัญยิ่งต่อทุกชีวิตจริงๆ
#2
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 01:04 PM
ว่างๆคุณหัดฝันนำความภูมิใจในสมัยอยู่ชมรมฯมาเขียนบทความเล่าสู่กันฟังก็ดีนะครับ เช่นรู้จักวัดอย่างไร จัดสอบทางก้าวหน้าอย่างไร จัดบวชช่วยงานอะไร ภูมิใจงานไหนเป็นพิเศษ น้องๆสมาชิกในเวปมีอยู่กันหลายคน จะได้เป็นการยกใจเพื่อนสมาชิก
ขออนุโมทนาบุญกับน้องอ้นด้วยครับ ที่ได้สร้างบุญอันเยี่ยมยอด
#3
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 01:50 PM
- เสียดายแทนน้องที่...ไม่ได้จบด้วยผ้าชุดสุดท้าย แต่ก็ดีใจที่น้อง...เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้
#4
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 02:20 PM
ฮ้าว เร็วๆ เข้า ใครยังมีกายหยาบอยู่ ก็รีบเร่งสร้างบารมีน่ะค่ะ
วันศุกร์นี้ก่อนเลย แล้วตามด้วยวันอาทิตย์นี้ บุญใหญ่ๆ ทั้งนั้น
พบกันที่วัดน่ะค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 03:51 PM
เอาบุญช่วยงานที่คลินิครัตเวชเสา E19 ในวันบรรชาสามเณร 10000 กว่ารูปมาฝากครับ
สาธุ
#6
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 09:03 PM
คิดถึงพี่อ้นเสมอคับ

#7
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 09:06 PM
พวกพระเอกก็เข้ามาช่วย มีอยู่ตอนนึงที่นางเอกตกน้ำ แล้วจะจมน้ำ พอพระเอกช่วยขึ้นมาก็เลยถามว่า ที่อยู่มา 300กว่าปีนี้ ไม่เคยคิดจะหัดว่ายน้ำเลยหรือ นางเอกก็ตอบว่า "ไม่ทันได้คิด"
คิดดูสิ มีเวลาตั้ง 300กว่าปี แต่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตกน้ำตาย นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงๆก็ต้องบอกว่า ประมาทไหมล่ะชีวิต
ผมก็เลยมานั่งคิดได้ว่า การมีชีวิตยืนยาวก็ใช่ว่าจะดีซะทีเดียว อาจจะเป็นทางมาแห่งความประมาทในชีวิตก็ได้
สู้มีชีวิตอย่างทุกวันนี้ ได้รู้ความจริงของชีวิต ได้รู้ว่าคุณค่าของเวลาที่ผ่านไปจะมีค่าที่สุดได้อย่างไร ได้รู้ว่าทำอย่างไรถึงจะ "รอด" ก็ถือว่าคุ้มที่สุดแล้ว
เวลาที่เหลืออยู่ เวลาที่ไม่มีนิมิตหมาย จะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราใช้ขณะปัจจุบันนี้อย่างดีที่สุด ใช้เพื่อที่สุดแห่งธรรม ใช้เพื่อให้ตัวเองและผู้อื่น "รอด"
เกิดมาครั้งนี้ ต้องใช้ให้คุ้มที่สุดครับ
คุณน้องเธอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้แล้ว แล้วตัวเราล่ะครับ ตามกลับไปไม่ได้ จะอายเขานา
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
#8
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 09:32 PM
เสียดายชีวิตนักสร้างบารมีในกายมนุษย์ของพี่อ้นจังเลยที่ต้องมาแตกดับไปตามวิบากกรรม
แต่ก็ต้องแสดงความยินดีกับ "เทพบุตรอ้น" ที่สามารถกลับ "ดุสิตบุรี" ได้อย่างสง่างาม
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
จากน้องๆชมรมพุทธฯ
#9
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 09:51 PM
แสดงว่าบุญที่คุณครูไม่ใหญ่ให้มานี่ ดั๋งๆทุกบุญเลยนะเนี่ย
#10
โพสต์เมื่อ 02 September 2009 - 10:04 PM
และขอแบ่งบุญทุกบุญให้น้องอ้นด้วยนะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#11
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 12:27 AM
#12
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 09:34 AM
#13
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 11:01 AM
#14
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 11:48 AM
นี่ก็เตือนตัวเองเสมอว่า ทุกอนุวินาทีนี้ ใจต้องอยู่ในบุญ ระลึกถึงบุญตลอดเวลาและต้องสั่งสมบุญ
ทุกบุญ ต้องเป็นคน "งกบุญ" ตอนนี้ ได้ยื่นใบลาเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปสั่งสมบุญตั้งแต่เช้า
ไว้เจอกันนะ พวกเรา......
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#15
โพสต์เมื่อ 05 September 2009 - 06:25 AM
#16
โพสต์เมื่อ 23 September 2009 - 07:38 PM