
เกิดมาผมไม่เคยป่วยหนักขนาดนี้เลย (2009)
#1
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 10:52 AM
พอรุ่งขึ้นเป็นวันศุกร์ผมก็นอนพักทั้งวัน เปิดTV DVD ดูไปเรื่อยๆอาการก็เหมือนจะหายแต่ก็ไม่หายตอนนั้นอยากกินของอะไรที่มันหวานๆมาก ก็เลยลองขี่มอไซไปเซเว่น ปรากฏว่าพอไปถึงหน้าเซเว่นผมแทบจะเป็นลมไปเจอแดดแรงกล้ามาก ดวงตาพร่ามัวไปหมด ดีที่ไม่เป็นอะไรแต่ก็กัดฟันกลับบ้านมาจนได้ พอถึงเวลา 14.00 ปรากฏว่าไข้กลับมาสูงอีก มือไม้ไม่มีเรี่ยวแรง นั่งเฉยๆยังจับสั่นไปทั้งตัว แม่บอกให้ผมไปหาหมอตั้งแต่เช้าแต่ผมไม่ยอมไป พอถึงตอนนี้ผมก็เลยตัดสินใจกัดฟันขับรถไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึง พยาบาลซักประวัติเห็นเป็นอาการของไข้หวัดใหญ่ 2009 เท่านั้นแหละครับ เขารีบไห้ผมออกไปที่ระเบียงเอาอุปกรไปตรวจผมอย่างละเอียด และรีบเอาMaskมาให้ผมปิดปากปิดจมูกทันที เมื่อก่อนผมเคยเห็นคนที่ใส่Mask ว่าเป็นพวกตัวตลก ขวัญอ่อนตื่นตูม แต่มาวันนี้มันถึงวันของผมบ้างแล้วครับ
ผลการตรวจปรากฏว่า ผมยังไม่ได้เป็นไข้หวัด 2009 เพียงแต่เป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่ถ้าผมไม่รีบมาหาหมอในตอนนี้ มันอาจจะกลายร่างเป็น2009 และถ้าเชื้อลุกลาม ผมคงตาย ปิดฉากชีวิตสิริปโภผู้น่าสงสาร แต่เมื่อไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ 2009 หมอก็ให้ยาผมมาถุงใหญ่ๆ และแถมฉีดให้อีก1เข็ม กลับมาบ้านแล้วอาการไข้ก็ทุเลาลงคงเป็นเพราะฤทธิยาลดไข้ที่หมอฉีดให้มาครับ
มาถึงตรงนี้และครับ ประเด็นที่ผมจะเล่าให้พี่น้องทุกท่านได้ฟัง ผมเข้านอนในเวลา 19.00 และตื่นมาอีกทีตอนกลางดึก ด้วยอาการจับสั่น รุนแรงมาก ผมรู้สึกว่าไข้มันสูงกว่าเมื่อคืนวานนี้มากกมายนัก เมื่อวานว่าแย่ที่สุดแล้ว คืนนี้ยิ่งหนักไปอีกไม่รู้กี่เท่า ปากคอสั่นรัวมือเท้าไม่มีแรง นอนพลิกตัวกระสับกระส่าย สักพักก็ต้องลุกขึ้นมาอาเจียนลงตรงข้างเตียงนั่นเอง อาเจียนไม่รู้กี่ครั้ง พื้นห้องสกปรกไปหมด ผมกำลังจะโทรศัพไปเรียกรถพยาบาลให้มารับ ตอนนั้นเอง เพื่อนผมคนนึงโทรมาหาด้วยความเป็นห่วง ได้แนะนำไห้ผมเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดอุณภูมิร่างกาย ผมก็พยามทำตาม ผมพยามเดินและเปิดประตูห้องให้เบาที่สุด เพราะกลัวแม่จะตื่นมาเห็นผมในสภาพนี้
ผมลุกมาดื่มน้ำอุ่นและเอาผ้าเช็ดตัว และกินยาลดไข้ที่หมอไห้มาอีก2เม็ด ปรากฏว่ากินเข้าไปก็อาเจียนออกหมด สภาพตอนนั้นผมทรมาณมาก มากที่สุดในชีวิตที่เคยล้มเจ็บป่วยมาทั้งหมด
ผมกลับเข้าไปนอนด้วยอาการที่ทรมาณสุดๆแบบนั้น ผมนึกถึงบุญกุศลที่เคยสร้างสมมาทั้งหมด นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เพราะมันไม่มีอารมจะนึก แม้เพียงแต่คำว่า สัมมาอรหัง ยังไม่มีอารมจะนึกได้ ผมนึกว่า นี่จะเป็นวันตายของผมแล้วหรือ ผมนึกถึงหลวงปู่ขอให้ท่านช่วย ผมยังไม่อยากตายในตอนนี้เลย ชีวิตนี้ผมยังทำบุญได้ไม่เยอะ หลวงปู่อย่าให้ผมตายเลย อารมตอนนั้นผมกลัวตายจริงๆครับ คนเราไม่เจ็บป่วยเจียนตายจะไม่รู้เลย แล้วผมก็ลุกขึ้นมาอยู่ในท่าหมอบกราบลงตรงหมอนขอไห้หลวงปู่ช่วย แล้วก็หลับตาลงและนอนอย่างผ่อนคลาย จนหลับลงได้ และมารู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนตี 5.00
ตื่นมาเช้าวันนี้ อาการไข้หายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนกับเมื่อคืนนี้ผมถูกวิบากกรรมเล่นตลกทำไห้ผมประสบความทุกทรมาณเจียนตาย ที่ผมเอามาเล่าให้ทุกท่านฟังก็เพื่อเป็นอุทาหรว่า คนเราพอเจ็บป่วยแล้วมันนึกถึงบุญไม่ออกเป็นยังไง แม้แต่คำว่าสัมมาอะระหัง ยังนึกไม่ออก และด้วยความที่ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนหนุ่มแน่น สุขภาพแข็งแรงมาตลอด อยู่ๆผมก็ล้มเจ็บป่วยลงดื้อๆ และป่วยอย่างชนิดที่ต้องนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว เมื่อเช้าผมตื่นมาผมลุกขึ้นมานั่งนึกถึงอาการเมื่อคืน ผมนั่งน้ำตาไหลสงสารตัวเอง เกิดมาไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยทุกทรมาณขนาดนี้ สำหรับคนอื่นที่เจ็บป่วยทุกข์ทรมาณอย่างไรเราก็ได้แต่เคยมองและเห็นด้วยสายตาและรับฟังจากเขามาเท่านั้น
ถ้าเราไม่ได้เป็นเอง และสำผัสเอง เราก็จะไม่มีวันรับรู้ถึงอาการของความทุกข์ทรมาณนั้นอย่างแท้จริง สำหรับผมในวันนี้ ด้วยอายุเพียงแค่นี้ ก็ถือว่าผมไม่สบายหนักที่สุดของผมแล้ว ผมก็เลยขอเอามาเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกันเป็นปกิณกะเตือนใจเพื่อความไม่ประมาทในชีวิตของเราต่อไปครับ
เขียนมายาวมาก ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
#2
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 11:00 AM
GET WELL SOON!

#3
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 01:04 PM
เวลาเราป่วยจะนึกถึงบุญไม่ออกจริง ๆ ค่ะ
ขนาดเวลาโมโหใคร ยังนึกถึงบุญไม่ได้เลยค่ะ
หลวงพ่อท่านเลยให้เราทำบุญบ่อย ๆ ตลอดต่อเนื่องจะได้นึกถึงบุญออกเวลาเกิดคับขันไงคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#4
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 01:06 PM
จริงๆ แล้วก็อยากให้คุณสิริปโป ใช้หลักที่ยึดมั่นความดี เคยทำได้นะคะ...ยังไง ก็สัมมา อาระหัง หลวงปู่ช่วยด้วย
พยายามทำใจให้ใสๆๆๆๆๆ ร่างกายเราเจ็บ ใจเราต้องไม่เจ็บตามค่ะ...
อยากจะบอกว่า...ตอนนี้ ยึดมั่นความดี ก็ยังไม่หายดีจากการเจ็บป่วยเลย..ซ้ำร้ายไข้หวัดก็ยังมาถามหา...แล้วทรัพย์สินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง
เพียงชิ้นเดียวก็หลุดมือไปแล้ว....แต่ บุญ ยังตามติดตัวเรามาค่ะ...คิดถึงบุญไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร สัมมา อาระหัง ให้ได้ก็แล้วกัน
สัมมาไป สัมมา มา บุญที่เราเคยทำ เดี๋ยวก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าค่ะ...
อ้อ...มีอีกวิธีนึงนะคะ ที่จะทำให้เรานึกออก....เอารูปที่เราเคยทำบุญทุกบุญมาติดที่ประตูห้องนอนนะคะ ทำเป็นบอร์ดไว้เลยค่ะ
บุญใหญ่บุญไหนที่เคยทำ ที่เราปลื้มมาก ถึงมากที่สุด ก็เอามาติด...เวลาเราเข้าห้องนอน ออกจากห้องนอน เราเห็นทุกวัน ทุกวัน
เราก็ปลื้มทุกวัน ทุกวัน อิอิ ทีนี้ คงทำให้นึกง่ายขึ้นนะ...
ก็อยากให้กำลังใจค่ะ...เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา ค่ะ...ไม่มีหรอกค่ะ ใครในโลกนี้ เกิดมาแล้วจะหนีพ้นไปได้...เพราะฉะนั้นให้มองเป็นเรื่องธรรมดานะคะ...
อย่างนี้แล้ว ยิ่งต้องเร่งทำบุญ สร้างบารมี ทำกฐินคุณยายให้สำเร็จได้โดยง่ายด้วยกันนะคะ....
#5
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 05:08 PM
เรายังไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้
#6
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 06:40 PM
#7
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 08:23 PM
#8
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 08:57 PM
#9
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 09:29 PM
ขอให้หายไวๆนะครับ
เอาบุญถวายคิลานเภสัช เป็นสังฆทานที่ มหา'ลัยมาฝากนะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 19 September 2009 - 11:53 PM
ตัว ณ 072 เองก็เฉียด 2009 มาหลายรอบแล้ว แต่ก็รอดตัวมาได้มาหลายครั้ง ช่วงนี้ก็ป่วยบ่อยไม่เป็นหวัดก็ท้องเสีย สลับกัน จนครั้งที่หวัดกับท้องเสียเป็นพร้อมกัน ก็รู้สึกเหมือนว่าหายป่วยได้เพราะนึกถึงหลวงพ่อ
นึกๆ ไป หลายๆ ครั้งก็รู้สึกเหมือนวิบากกรรม (หรือวิบากมารกันแน่?)กำลังวิ่งไล่หลังอยู่ ยังไงยังงั้น
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#11
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 12:23 AM
#12
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 08:04 AM
#13
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 03:25 PM
ขอให้ผู้ที่เจ็บป่วยทุกท่านรวมทั้งเจ้าของกระทู้หายป่วยไวๆ มีกำลังสร้างบุญสร้างบารมีต่อไปนะครับ
#14
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 06:42 PM
#15
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 07:27 PM
#16
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 09:10 PM
#17
โพสต์เมื่อ 20 September 2009 - 10:52 PM

เบื้องต้น อาการคล้ายกันเลยนะนี่...
สาธุ ..บุญรักษา..
#18
โพสต์เมื่อ 21 September 2009 - 10:08 AM
#19
โพสต์เมื่อ 23 September 2009 - 02:32 PM