พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยได้สอนว่า
“ลูกจะเรียนธรรมะได้ดีก็ต้องเอาอย่างยาย
ลูกต้องทำแบบคุณยายให้ได้นะ
ฝึกให้เข้าไปในจิตวิญญาณเลย
ปลูกฝังนิสัยแบบคุณยาย จะได้นั่งธรรมะได้ดีเหมือนคุณยาย”
ลูกต้องทำแบบคุณยายให้ได้นะ
ฝึกให้เข้าไปในจิตวิญญาณเลย
ปลูกฝังนิสัยแบบคุณยาย จะได้นั่งธรรมะได้ดีเหมือนคุณยาย”
ถ้าเราไม่ฝึกหยาบให้เป็นคนละเอียด คนประณีตหรือเป็นคนช่างสังเกต หรือว่าไม่กระทบกระทั่งกับใครง่ายๆ เวลานั่งสมาธิก็จะเป็นอย่างที่หยาบฝึกไว้ อย่างที่คุณยายได้พูดไว้เลยว่า ถ้าหยาบยังไม่ละเอียดแล้ว ละเอียดจะละเอียดได้อย่างไร มันมาจากการสั่งสมนิสัยที่ทำหยาบๆ จากข้างนอก
การฝึกหยาบนี่ไม่ใช่แค่การฝึกทำความสะอาด หรือการจัดของให้เป็นระเบียบเท่านั้น แต่มันหมายถึง ความคิด คำพูด การกระทำที่เราแสดงออกกับคนรอบข้างตัวเราด้วย หยาบอันนี้จะคุมหมดเลย เพราะใจเป็นผู้ควบคุมคำพูด, ความคิด, การกระทำทั้งหมด เพราะฉะนั้นการฝึกตรงนี้จะเป็นการฝึกคุณสมบัติ หรือผู้ที่จะศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างคุณยาย
บางคนคิดอยากจะนั่งธรรมะอย่างเดียว งานหยาบไม่อยากทำ คุณยายก็เลยสอนว่า ยายเอาบุญทั้งหมดเลยทั้งบุญหยาบ บุญละเอียด บุญหยาบเราก็จะได้ฝึกตัว บุญละเอียดนี่เราจะสอนตัวเองได้ แต่ถ้าเราเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว งานหยาบๆก็จะสำเร็จง่ายขึ้น
เวลาที่คุณยายทำงานหยาบ คุณยายก็จะทำแบบละเอียด ประณีต รวดเร็ว เนี๊ยบ เฉียบ คล่องแคล่ว ว่องไวมาก แม้ว่าขณะนั้นคุณยายจะอายุ ๖๐-๗๐ แต่ความไวนี่คนอายุ๑๘-๒๐ นี่สู้ท่านไม่ได้เลย เรียกว่าหันหลังปุ๊บท่านเสร็จปั๊บเลย ท่านไวมาก
หลวงพ่อบอกว่า เวลาที่หลวงปู่ถามคุณยาย ถ้าใจคุณยายไม่ละเอียด จะตอบคำถามหลวงปู่ไม่ได้ ต้องละเอียดตลอดเวลาเลย ท่านบอกว่าถ้าไม่รู้เขารู้เรา ไม่รู้จริงเห็นจริงนี่จะตอบไม่ได้ เพราะฉะนั้น เรียนวิชชาธรรมกายจะต้องละเอียดในละเอียดตลอดเวลาเลย ต้องเอาแบบอย่างคุณยาย การฝึกหยาบและละเอียดต้องฝึกไปพร้อมๆกัน
เป้าหมายชีวิตของคุณยาย
หลวงพ่อทัตตะท่านถามคุณยายว่า ยาย บารมีอย่างคุณยายนี่ถ้าคิดว่าจะเข้าพระนิพพานเป็นพระอรหันต์เสียตั้งแต่ชาตินี้ทำได้มั้ยครับ
ท่านนิ่งไปสักพักแล้วก็ตอบว่า...ได้ ถ้าทำตามรอยพระพุทธเจ้าที่ท่านทำมา ก็จะเป็นเพียงพระอรหันต์องค์หนึ่งเท่านั้น แต่ยายไม่เอา ยายมุ่งหน้าที่จะปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ให้ถึงต้นในต้นของพญามารที่ไม่มีต้นอีกต่อไป จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมแล้วจึงค่อยเข้าพระนิพพาน
คุณยายท่านจะเห็นแก่สัตว์โลกแล้วก็เดินตามรอยหลวงปู่ ตามรอยพระพุทธเจ้าภาคปราบ แล้วท่านตั้งเป้าหมายของท่านไว้อย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยไม่ว่าท่านจะอายุเท่าไร ตอนที่คุณยายอายุ ๙๐ ตอนใกล้จะละสังขารมโนปณิธานของท่านก็ไม่เปลี่ยน แปลง คิดแต่จะปราบไอ้ดำอย่างเดียว
มีอยู่วันหนึ่ง พระเดชระคุณหลวงพ่อธัมมะท่านไปเยี่ยมคุณยายที่กุฏิตรงข้ามโรงเรียนพระปริยัติ ท่านก็ถามคุณยายว่า ยาย วันหนึ่งๆ คุณยายคิดอะไร เพราะตอนนั้นคุณยายอายุมาก สังขารก็ไม่มีแรงจะทำอะไรเท่าไหร่ อยู่แต่ในกุฏิไม่ค่อยได้รับแขก คุณยายก็ตอบว่า ยายคิดแต่จะไปปราบไอ้ดำให้สำเร็จ มโนปณิธานของท่านไม่เคยเปลี่ยนเลย ตอบสั้นๆ แล้วก็ตรงเป๊ะ
หลวงพ่อบอกว่า หลวงพ่อเคารพรักคุณยายมาก คุณยายท่านไม่ได้สู้กับคนนะ ท่านสู้กับพญามาร คุณยายมุ่งไปเรื่องหลัก ไม่ได้สนใจเรื่องปลีกย่อย นิสัยคุณยาย ความโลภ ความโกรธ ความหลง คุณยายไม่มี คุณยายไม่ติดอะไรเลย ใจของคุณยายไม่กระเพื่อม ใจของคุณยายไม่เคยกระเพื่อมเลย ยายคิดจะไปปราบไอ้ดำอย่างเดียว เวลาท่านเจอใครทำไม่ได้ดังใจ ท่านไม่โกรธคนนั้นนะ ท่านถือว่าท่านกำลังต่อสู้กับพญามาร ไม่ใช้คนนั้น คนนี้ ซึ่งคนนั้นเป็นแค่ปลายทาง
หลวงพ่อทัตตะ ท่านเคยถามคุณยายว่า ยาย นั่งสมาธิวันละ ๑๒ ชั่วโมง นั่งแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันยายได้อะไร
ยายก็บอกว่า ยายจะไปให้ถึงต้นบุญต้นบาปที่แท้จริง แต่ยังไปไม่ถึงต้นบาป คือต้นธาตุของพญามาร คุณยายก็สรุปกับหลวงพ่อทัตตะว่า หมดต้นธาตุต้นธรรมนี่มีแต่บุญกับบาป อย่างอื่นไม่มีเลย มนุษย์เหมือนหุ่นถูกเชิดด้วยบุญและบาป คุณยายเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่า ที่สุดในโลกนี่มีแต่บุญกับบาป มีแต่ธาตุกับธรรมเท่านั้น
แล้วหลวงพ่อทัตตะก็ถามยายอีกว่า ยาย นั่งสมาธิมากๆ แล้วยายได้อะไรอีก คุณยายก็ตอบว่า ยายได้นิสัยรักบุญกลัวบาปและก็ไม่ทำบาป คำตอบคุณยายจะสั้นๆ แต่มันมีความหมายลึกซึ้ง
คุณยายบอกว่าจริงๆ แล้ว คุณยายไม่ได้นั่งธรรมะวันละ ๑๒ ชั่วโมง แต่มากกว่า ๑๒ แล้วนั่งก็ไม่ใช่แค่เดือนเดียว ไม่ใช่ปีเดียว แต่หลายๆ ปี
หลวงพ่อทัตตะ ท่านก็เลยบอกว่า พวกเราจะตามคุณยายไปให้ทันคุณยาย เรานั่งรวดเดียว ๖ ชั่วโมงยังไม่เท่าคุณยายเลย ท่านถามว่าแล้วเรานั่งสมาธิแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันรึยัง ถ้ายัง จะให้ติดตัวข้ามชาติได้ ต้องทำเป็นนิสัยแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
หลวงพ่อธัมมะเคยเล่าว่า คุณยายเวลาจะเดินออกจากห้องทำวิชชา สมมุติว่ารอบของคุณยายหมดเวลาแล้วคุณยายก็จะออกเป็นคนสุดท้าย จะยังไม่ออกจนกว่าชุดใหม่จะเข้ามา แล้วคุณยายก็จะรอฟังหลวงปู่สั่งงานอีกครึ่งชั่วโมง แล้วคุณยายจึงจะกลับไปที่บ้านพัก ในระหว่างที่คุณยายกลับไปบ้านพัก คุณยายก็จะเอาสิ่งที่หลวงปู่สอน สั่งงานให้ชุดใหม่ไปทำในระหว่างที่คุณยายซักผ้า อาบน้ำ ถูบ้าน แล้วคุณยายก็จะเข้าห้องปฏิบัติธรรม ก่อนชุดของคุณยายจะเข้าอีกครึ่งชั่วโมง คือรอฟังว่าชุดเก่าก่อนที่จะออกนี่หลวงปู่สั่งอะไรอีก แล้วคุณยายก็ต่อได้เลยในรอบของคุณยายต่อ เพราะฉะนั้นวิชชาของคุณยายก็จะไม่ขาดช่วงแบบเก็บหมดเลย
โปรดติดตามตอนต่อไป....