คืออยากทราบว่าเมื่อสัตว์เดรัจฉานตายแล้ว กายละเอียดจะหลุดออกไปตามฐานต่างๆหรือเปล่า อย่างเช่นกายมนุษย์จะมีฐานที่ตั้งของใจ เมื่อตายจิตก็จะออกเดินทางตามฐานของใจกายเดรัจฉานจะมีฐานของใจเหมือนกันหรือเปล่า และเมื่อออกจากกายเดรัจฉานหยาบแล้ว จะมีกายเดรัจฉานละเอียดหรือเปล่าหรือว่าเมื่อตอนเป็นสัตว์เดรัจฉานพอตายแล้วกายละเอียดจะเป็นกายมนุษย์แล้วจะวนเวียนอยู่7วันเพราะนึกถึงบุญหรือบาปไม่ออกเพราะสัตว์เดรัจฉานไม่รู้จักบาปบุญแล้วมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปยมโลกหรือว่าตายแล้วจะไปเกิดเลยตามกรรมที่ตัวเองได้กระทำไว้ ตัวอย่างเช่นช้างกับลิงที่ อุปฐากพระพุทธเจ้าพอตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และถ้าเราเลี้ยงหมาไว้หรือเห็นหมาที่ใกล้จะตายแล้วเราไปบอกให้นึกถึงบุญหมาพวกนี้จะไปดีหรือเปล่าเพราะว่าสัตว์เดรัจฉานก็คืออดีตมนุษย์นั่นเอง

ปรโลกของเดรัจฉาน
เริ่มโดย Sorewa Watashi shigume, Oct 22 2009 08:38 AM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 08:38 AM
#2
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 09:41 AM
หมาที่ว่า ตลอดชีวิตมัน มันทำบุญอะไรบ้างหละ
#3
*sky noi*
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 10:39 AM
เคยได้ยินครูไม่ใหญ่เล่าถึงไก่นะ ตอนมันตาย หลังจากถูกกัดตายมั้งคะ กายละเอียดก็หลุดออกมา เป็นมนุษย์นั่งพับขา
เท้าแขนมาข้างหน้าสองข้าง ทำหน้า งง ๆ ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แล้วก็ไปเกิดเป็นไก่อีกแล้ว จนกว่าจะหมดกรรมน่ะค่ะ
คงไม่ทันได้นึกถึงบุญกันค่ะ ที่มาเกิดเป็นไก่เพราะในอดีตเกิดเป็นเด็กวัด แต่มีนิสัยชอบฆ่าไก่ ด้วยบุญที่เคยทำในวัดจึงมาเกิดอยู่ในวัด
ด้วยกรรมที่ฆ่าไก่ก็ต้องมาเกิดเป็นไก่ถูกฆ่าบ้าง
กรณีที่บุญมากๆ ก่อนตายใจผูกพันกับสิ่งใด(บวกกับกรรมเก่าหมดหรือส่งผลไม่ได้) ก็จะถูกดึงดูดไปสวรรค์ตามกำลังบุญเลยตามที่เราได้ยินได้ฟังมาค่ะ เช่น ช้างกับลิงที่ อุปฐากพระพุทธเจ้าพอตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ หรือมีเคสหนึ่ง คาราบาวตัวนี้เดินไปเห็นพระธุดงค์แล้วเกิดความศรัทธา เคารพ รัก เมื่อจะละโลกภาพนี้มาปรากฏในใจก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ด้วย
แต่จะมีกรณีที่วนเวียนๆในโลกมนุษย์ 7 วันด้วยรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบว่าค่ะ ผีหมา ผีแมว ผีจิ้งจก ผียุง เง้อ..
เท้าแขนมาข้างหน้าสองข้าง ทำหน้า งง ๆ ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แล้วก็ไปเกิดเป็นไก่อีกแล้ว จนกว่าจะหมดกรรมน่ะค่ะ
คงไม่ทันได้นึกถึงบุญกันค่ะ ที่มาเกิดเป็นไก่เพราะในอดีตเกิดเป็นเด็กวัด แต่มีนิสัยชอบฆ่าไก่ ด้วยบุญที่เคยทำในวัดจึงมาเกิดอยู่ในวัด
ด้วยกรรมที่ฆ่าไก่ก็ต้องมาเกิดเป็นไก่ถูกฆ่าบ้าง
กรณีที่บุญมากๆ ก่อนตายใจผูกพันกับสิ่งใด(บวกกับกรรมเก่าหมดหรือส่งผลไม่ได้) ก็จะถูกดึงดูดไปสวรรค์ตามกำลังบุญเลยตามที่เราได้ยินได้ฟังมาค่ะ เช่น ช้างกับลิงที่ อุปฐากพระพุทธเจ้าพอตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ หรือมีเคสหนึ่ง คาราบาวตัวนี้เดินไปเห็นพระธุดงค์แล้วเกิดความศรัทธา เคารพ รัก เมื่อจะละโลกภาพนี้มาปรากฏในใจก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ด้วย
แต่จะมีกรณีที่วนเวียนๆในโลกมนุษย์ 7 วันด้วยรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบว่าค่ะ ผีหมา ผีแมว ผีจิ้งจก ผียุง เง้อ..
#4
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 10:44 AM
เท่าที่เห็นนะครับก็ตอนที่เขาแห่ขบวนพระประจำปีของจังหวัดขบวนพระผ่านหน้าบ้านแล้วผมเห็น
สุนัขที่เลี้ยงไว้วิ่งไปดูแล้วก็ยิ้มผมก็เลยพลอยดีใจ(อนุโมทนาบุญด้วย) และทุกครั้งที่ตักบาตรก็จะเอา
บุญมาฝากก็คือคุยกับเขา แต่สุนัขของผมยังแข็งแรงดีอยู่ไม่ได้เป็นอะไร ที่ถามก็เพราะว่าอยากรู้เท่านั้นเอง
อยากรู้เรื่องปรโลกของสัตว์เดรัจฉานว่าจะเหมือนกับเราหรือเปล่า
สุนัขที่เลี้ยงไว้วิ่งไปดูแล้วก็ยิ้มผมก็เลยพลอยดีใจ(อนุโมทนาบุญด้วย) และทุกครั้งที่ตักบาตรก็จะเอา
บุญมาฝากก็คือคุยกับเขา แต่สุนัขของผมยังแข็งแรงดีอยู่ไม่ได้เป็นอะไร ที่ถามก็เพราะว่าอยากรู้เท่านั้นเอง
อยากรู้เรื่องปรโลกของสัตว์เดรัจฉานว่าจะเหมือนกับเราหรือเปล่า

#5
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 12:15 PM
1.กายละเอียดจะหลุดออกไปตามฐานต่างๆหรือเปล่า
ถูกต้องครับ
2. กายเดรัจฉานจะมีฐานของใจเหมือนกันหรือเปล่า
มีครับ แต่สัตว์เดรัจฉานมีลำตัวไปตามขวาง จึงหาฐานที่7 ไม่เจอ ทั้งที่มีอยู่
3.จะมีกายเดรัจฉานละเอียดหรือเปล่า หรือว่าเมื่อตอนเป็นสัตว์เดรัจฉานพอตายแล้ว กายละเอียดจะเป็นกายมนุษย์
เป็นกายมนุษย์ละเอียดครับ
4. ละโลกแล้ว ต้องไปรอ 7 วันหรือเปล่า
เมื่อละโลกแล้ว หากบาปยังหุ้มใจอยู่หนาแน่น ก็มักจะคิดแค่เรื่องของสัตว์นั้นๆ เอง เช่น หากเป็นหมาก็จะคิดเรื่องหมา
ดังนั้น เมื่อตายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องรอ 7 วัน แต่พร้อมที่จะเข้าท้องมารดาที่เป็นหมาได้เลย
ยกเว้น กรรมเบาบาง หรือ ได้สร้างบุญกับพระอริยะ ดังเช่น ลิงที่ยกตัวอย่างมา
หรือ ได้สร้างบาปกับพระอริยะ เช่น อีกา ที่ขโมยอาหารที่เขาจะนำไปถวายพระ ตายแล้วไปเกิดเป็นเปรตอีกา
5. ถ้าเราเลี้ยงหมาไว้ หรือเห็นหมาที่ใกล้จะตายแล้วเราไปบอกให้นึกถึงบุญ หมาพวกนี้จะไปดีหรือเปล่า
ก็มีโอกาสถ้ากรรมเบาบางมากๆ แล้ว ใกล้จะพ้นกรรมจากกำเนิดเดรัจฉานแล้ว
แต่ถ้ากรรมยังหนัก ต้องมีบุญแรงกว่านั้น เช่น ได้เห็นพระแล้วเกิดจิตเลื่อมใสก่อนตาย หรือได้สร้างบุญกับพระ
เช่น หมาค่อยเ่ห่าไล่สัตว์ร้าย นำทางพระไปใส่บาตร ฯลฯ
ถูกต้องครับ
2. กายเดรัจฉานจะมีฐานของใจเหมือนกันหรือเปล่า
มีครับ แต่สัตว์เดรัจฉานมีลำตัวไปตามขวาง จึงหาฐานที่7 ไม่เจอ ทั้งที่มีอยู่
3.จะมีกายเดรัจฉานละเอียดหรือเปล่า หรือว่าเมื่อตอนเป็นสัตว์เดรัจฉานพอตายแล้ว กายละเอียดจะเป็นกายมนุษย์
เป็นกายมนุษย์ละเอียดครับ
4. ละโลกแล้ว ต้องไปรอ 7 วันหรือเปล่า
เมื่อละโลกแล้ว หากบาปยังหุ้มใจอยู่หนาแน่น ก็มักจะคิดแค่เรื่องของสัตว์นั้นๆ เอง เช่น หากเป็นหมาก็จะคิดเรื่องหมา
ดังนั้น เมื่อตายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องรอ 7 วัน แต่พร้อมที่จะเข้าท้องมารดาที่เป็นหมาได้เลย
ยกเว้น กรรมเบาบาง หรือ ได้สร้างบุญกับพระอริยะ ดังเช่น ลิงที่ยกตัวอย่างมา
หรือ ได้สร้างบาปกับพระอริยะ เช่น อีกา ที่ขโมยอาหารที่เขาจะนำไปถวายพระ ตายแล้วไปเกิดเป็นเปรตอีกา
5. ถ้าเราเลี้ยงหมาไว้ หรือเห็นหมาที่ใกล้จะตายแล้วเราไปบอกให้นึกถึงบุญ หมาพวกนี้จะไปดีหรือเปล่า
ก็มีโอกาสถ้ากรรมเบาบางมากๆ แล้ว ใกล้จะพ้นกรรมจากกำเนิดเดรัจฉานแล้ว
แต่ถ้ากรรมยังหนัก ต้องมีบุญแรงกว่านั้น เช่น ได้เห็นพระแล้วเกิดจิตเลื่อมใสก่อนตาย หรือได้สร้างบุญกับพระ
เช่น หมาค่อยเ่ห่าไล่สัตว์ร้าย นำทางพระไปใส่บาตร ฯลฯ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#6
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 03:13 PM
ขอถามอีกนิดนะครับคือสงสัยเหมือนกัน
คือในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติในเดรัจฉานภูมิ
มีอยู่ชาติหนึ่งที่พระองค์เคยเกิดเป็นกวางแล้วพระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน
พระเทวทัตได้ดักสัตว์อยู่บนต้นไม้แล้วโยนลูกไม้มาหาพระโพธิสัตว์
แต่พระโพธิสัตว์รู้ว่าลูกไม้ที่โยนมาให้ไม่ใช่ลูกไม้ธรรมดาจึงไม่กินลูกไม้นั้น
เมื่อนายพรานเห็นดังนั้นจึงโกรธแล้วโยนหอกใส่พระโพธิสัตว์
แต่ก็ไม่โดนพระโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ได้กล่าวว่าถ้านายพรานฆ่าตนนายพรานจะต้องได้รับกรรมคือต้องตกนรก
อยากรู้ว่ากวางพระโพธิสัตว์รู้ได้อย่างไรเพราะขนาดสัตว์เดรัจฉานในปัจจุบันยังไม่รู้เลยว่ามีสวรรค์หรือนรกอยู่จริงหรือว่า
ในยุคนั้นสัตว์เดรัจฉานมีปัญญาเหมือนมนุษย์คือคิดอ่านพูดใช้เหตุผลเหมือนมนุษย์ทุกอย่างเพียงแต่ว่าอยู่ในขันธ์เดรัจฉานเท่านั้น
เหมือนพญานาคพญาครุฑหรือเปล่าที่มีปัญญาคิดอ่านใช้เหตุผลเหมือนมนุษย์เพียงแต่อยู่ในขันธ์นาคยันธ์ครุฑเท่านั้น
คือในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติในเดรัจฉานภูมิ
มีอยู่ชาติหนึ่งที่พระองค์เคยเกิดเป็นกวางแล้วพระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน
พระเทวทัตได้ดักสัตว์อยู่บนต้นไม้แล้วโยนลูกไม้มาหาพระโพธิสัตว์
แต่พระโพธิสัตว์รู้ว่าลูกไม้ที่โยนมาให้ไม่ใช่ลูกไม้ธรรมดาจึงไม่กินลูกไม้นั้น
เมื่อนายพรานเห็นดังนั้นจึงโกรธแล้วโยนหอกใส่พระโพธิสัตว์
แต่ก็ไม่โดนพระโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ได้กล่าวว่าถ้านายพรานฆ่าตนนายพรานจะต้องได้รับกรรมคือต้องตกนรก
อยากรู้ว่ากวางพระโพธิสัตว์รู้ได้อย่างไรเพราะขนาดสัตว์เดรัจฉานในปัจจุบันยังไม่รู้เลยว่ามีสวรรค์หรือนรกอยู่จริงหรือว่า
ในยุคนั้นสัตว์เดรัจฉานมีปัญญาเหมือนมนุษย์คือคิดอ่านพูดใช้เหตุผลเหมือนมนุษย์ทุกอย่างเพียงแต่ว่าอยู่ในขันธ์เดรัจฉานเท่านั้น
เหมือนพญานาคพญาครุฑหรือเปล่าที่มีปัญญาคิดอ่านใช้เหตุผลเหมือนมนุษย์เพียงแต่อยู่ในขันธ์นาคยันธ์ครุฑเท่านั้น

#7
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 05:19 PM
อ๋อ แหมผมก็ตอบเฉพาะัสัตว์เดรัจฉานในสมัยนี้เท่านั้นครับ
แต่ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานในอดีต (ยุคที่มนุษย์อายุยืนเป็นหมื่ีนเป็นแสนปี) ย่อมต้องมีบุญมากกว่าสัตว์เดรัจฉานสมัยนี้แน่นอนครับ ยิ่งถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานประเภทพระโพธิสัตว์ด้วยแล้ว หายห่วงครับ อย่าว่าแต่เรื่องที่คุณยกมาเลย มีหลายๆ เรื่องทีเดียวที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้ว บางทีรู้อรรถรู้ธรรมยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วๆไปอีกนะครับ
เช่น บางชาติพระองค์เกิดเป็นพญาสุนัขนอกวัง ได้เข้าไปช่วยเหล่าบริวารที่กำลังจะถูกพระราชาฆ่าตาย เพราะพระราชาเ้ข้าใจผิดว่าสุนัขนอกวังมากินหนังหุ้มรถม้าของพระองค์ จนพญาสุนัขก็ให้พระราชานำอาหารที่กินแล้วอาเจียน(ขออภัยผมจำไม่ได้แล้วว่าอะไร) มาให้สุนัขในวังกิน พอสุนัขในวังกินเข้าไปแล้ว ก็สำรอกออกมาเป็นหลักฐาน คือ หนังหุ้มรถของพระราชา ซึ่งก็ทำให้สุนัขนอกวังพ้นผิดไปโดยปริยาย จากนั้นสุนัขพระโพธิสัตว์ก็สั่งสอนพระราชาว่า อย่าหูเบา อะไรทำนองนั้น นี่สุนัขพระโพธิสัตว์สอนขนาดพระราชา เห็นมั้ยครับ
ยังมีอีก บางชาติพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาปลา ช่วงหนึ่งฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำแห้งขอด จนปลาจะตายหมดอยู่แล้ว ปลาพระโพธิสัตว์มีจิตเมตตา จึงตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ด้วยความสัตย์ที่ตนไม่เคยกินปลาตัวอื่นเลย ขอให้ฝนตก จากนั้น ฝนก็ตกลงมา นี่ปลาพระโพธิสัตว์ยังรู้่เทคนิคทำให้ฝนตกเลย ในขณะที่มนุษย์น้อยคนที่จะรู้ จึงไปบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ ให้ฝนตก
ยังมีอีก บางชาติพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช้าง ชาตินั้น พระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน นายพรานคิดจะล่าพญาช้างเอางาไปถวายพระราชา จึงนำผ้าเหลืองมาห่ม แล้วใช้หอกแทงพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์แม้ถูกแทง แต่เห็นคนแทงห่มผ้าเหลือง จึงไม่ทำร้าย ท่านยอมตายดีกว่าจะทำร้ายผู้ห่มผ้าของพระสงฆ์ นี่ท่านคิดได้ขนาดนั้นเลย ในขณะที่คนธรรมดาคิดไม่ได้
ถามว่า ก็เมื่อคิดได้ขนาดนี้ทำไมจึงมาเป็นสัตว์เดรัจฉานล่ะ ก็ขอบอกว่า กิเลสมนุษย์นั้น อย่าได้คิดประมาททีเดียวเชียวครับ ชาตินี้คิดได้ บางชาติอาจคิดไม่ได้ เป็นต้น แต่ลองพิจารณาข้อสังเกตุนะครับ เวลาที่พระองค์มีพร้อมทุกอย่าง(ตอนบำเพ็ญบารมีอยู่) มักจะมีหลายๆชาติที่คิดไม่ได้ คิดไม่ดี แต่ครั้นพอกรรมส่งผลไปเ้ป็นเดรัจฉานขึ้นมา ก็กลับคิดได้ดีกว่ามนุษย์อีก มันต้องมีเหตุสิน่า
หรือว่า ผู้ออกแบบกฏแห่งกรรม พอเห็นมนุษย์จะได้ดี เขาก็ส่งกิเลสมาขวางเต็มพิกัด แต่พอมนุษย์นั้นตกต่ำด้วยวิบากกรรมแล้ว เขาก็ผ่อนคลายกิเลสลง อะไรทำนองนี้น่ะครับ
แต่ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานในอดีต (ยุคที่มนุษย์อายุยืนเป็นหมื่ีนเป็นแสนปี) ย่อมต้องมีบุญมากกว่าสัตว์เดรัจฉานสมัยนี้แน่นอนครับ ยิ่งถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานประเภทพระโพธิสัตว์ด้วยแล้ว หายห่วงครับ อย่าว่าแต่เรื่องที่คุณยกมาเลย มีหลายๆ เรื่องทีเดียวที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้ว บางทีรู้อรรถรู้ธรรมยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วๆไปอีกนะครับ
เช่น บางชาติพระองค์เกิดเป็นพญาสุนัขนอกวัง ได้เข้าไปช่วยเหล่าบริวารที่กำลังจะถูกพระราชาฆ่าตาย เพราะพระราชาเ้ข้าใจผิดว่าสุนัขนอกวังมากินหนังหุ้มรถม้าของพระองค์ จนพญาสุนัขก็ให้พระราชานำอาหารที่กินแล้วอาเจียน(ขออภัยผมจำไม่ได้แล้วว่าอะไร) มาให้สุนัขในวังกิน พอสุนัขในวังกินเข้าไปแล้ว ก็สำรอกออกมาเป็นหลักฐาน คือ หนังหุ้มรถของพระราชา ซึ่งก็ทำให้สุนัขนอกวังพ้นผิดไปโดยปริยาย จากนั้นสุนัขพระโพธิสัตว์ก็สั่งสอนพระราชาว่า อย่าหูเบา อะไรทำนองนั้น นี่สุนัขพระโพธิสัตว์สอนขนาดพระราชา เห็นมั้ยครับ
ยังมีอีก บางชาติพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาปลา ช่วงหนึ่งฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำแห้งขอด จนปลาจะตายหมดอยู่แล้ว ปลาพระโพธิสัตว์มีจิตเมตตา จึงตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ด้วยความสัตย์ที่ตนไม่เคยกินปลาตัวอื่นเลย ขอให้ฝนตก จากนั้น ฝนก็ตกลงมา นี่ปลาพระโพธิสัตว์ยังรู้่เทคนิคทำให้ฝนตกเลย ในขณะที่มนุษย์น้อยคนที่จะรู้ จึงไปบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ ให้ฝนตก
ยังมีอีก บางชาติพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช้าง ชาตินั้น พระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน นายพรานคิดจะล่าพญาช้างเอางาไปถวายพระราชา จึงนำผ้าเหลืองมาห่ม แล้วใช้หอกแทงพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์แม้ถูกแทง แต่เห็นคนแทงห่มผ้าเหลือง จึงไม่ทำร้าย ท่านยอมตายดีกว่าจะทำร้ายผู้ห่มผ้าของพระสงฆ์ นี่ท่านคิดได้ขนาดนั้นเลย ในขณะที่คนธรรมดาคิดไม่ได้
ถามว่า ก็เมื่อคิดได้ขนาดนี้ทำไมจึงมาเป็นสัตว์เดรัจฉานล่ะ ก็ขอบอกว่า กิเลสมนุษย์นั้น อย่าได้คิดประมาททีเดียวเชียวครับ ชาตินี้คิดได้ บางชาติอาจคิดไม่ได้ เป็นต้น แต่ลองพิจารณาข้อสังเกตุนะครับ เวลาที่พระองค์มีพร้อมทุกอย่าง(ตอนบำเพ็ญบารมีอยู่) มักจะมีหลายๆชาติที่คิดไม่ได้ คิดไม่ดี แต่ครั้นพอกรรมส่งผลไปเ้ป็นเดรัจฉานขึ้นมา ก็กลับคิดได้ดีกว่ามนุษย์อีก มันต้องมีเหตุสิน่า
หรือว่า ผู้ออกแบบกฏแห่งกรรม พอเห็นมนุษย์จะได้ดี เขาก็ส่งกิเลสมาขวางเต็มพิกัด แต่พอมนุษย์นั้นตกต่ำด้วยวิบากกรรมแล้ว เขาก็ผ่อนคลายกิเลสลง อะไรทำนองนี้น่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#8
โพสต์เมื่อ 22 October 2009 - 07:08 PM
ชัดเจนครับคุณหัดฝัน...สาธุ...สาธุ...สาธุ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC