ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระพุทธองค์ตรัสถึงกฎแห่งกรรมว่า ....


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สุขสันต์ หรรษา

สุขสันต์ หรรษา
  • Members
  • 14 โพสต์
  • Location:Thailand
  • Interests:DMC เรื่องราวธรรมต่างๆ กฏแห่งกรรม

โพสต์เมื่อ 17 March 2006 - 09:33 PM

พระพุทธองค์ตรัสถึงกฎแห่งกรรมว่า
อดีตชาติได้แต่ประกอบแต่กรรมดี
จึงได้เกิดมามียศสูงศักดิ์และร่ำรวยในโภคทรัพย์ ผู้ใดบำเพ็ญธรรมมาตลอดจะได้บุญวาสนาไปทุกภพทุกชาติ มนุษย์จงฟังให้ดี
ฟังตถาคตกล่าวผลกรรมของไตรภพผลกรรมของไตรภพเป็นเรื่องใหญ่
จงอย่าดูหมิ่นพุทธพจน์ จงฟังผลกรรมดังต่อไปนี้

ปัจจุบันเป็นขุนนางเพราะเหตุใด
ชาติก่อนนำทองคำสร้างพระพุทธรูป>>

สิ่งที่ได้รับในชาตินี้เพราะชาติก่อนทำไว้>>
ถวายเครื่องทรงสักการะพระพุทธองค์>>

ทองคำสร้างองค์ดั่งสร้างตนเอง>>
เครื่องทรงสักการะคืออาภรณ์ประดับกาย>>

ดังนั้นอย่าคิดว่าขุนนางนั้นเป็นง่าย>>
หากไม่ได้สร้างบุญก่อกุศลแต่ปางก่อนไว้ ไฉนเลยจะได้รับ>>

มีรถนั่งมีเรื่อขี่เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนสร้างถนนทำสะพาน>>

มีเสื้อผ้าแพรพรรณประดับกายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนบริจาคเสื้อผ้าให้ผู้ยากจน>>

มีอาหารอิ่มสมบูรณ์เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนบริจาคข้าวปลาอาหารและน้ำดื่มให้ผู้ยากจน>>

ที่ไม่มีจะกินจะใส่เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนไม่เคยบริจาคทานเลยแม้แต่น้อย>>

มีตึกรามบ้านบ้านช่องเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนบริจาคข้าวสารช่วยผู้ยากไร้>>

มีบุญมีวาสนาเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนสร้างวัดสร้างศาลา>>

มีหน้าตามีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนบูชาพระพุทธรูปดอกไม้เครื่องหอม>>

มีปัญญา มีความปราดเปรื่องเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนสวดมนต์สรรเสริญพระนามพระพุทธเจ้า>>

มีภรรยาดีมีมรรยาทพร้อมเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนได้สร้างสมบุญกุศลมาร่วมกัน>>

สามีภรรยามีอายุยืนยาวเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนได้แต่งริ้วธงประดับหน้าพระพุทธรูป>>

มีพ่อแม่อยู่ครบเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนเห็นอกเห็นใจผู้กำพร้า>>

ไม่มีพ่อแม่เพราะเหตุใด >>
เพราะชาติก่อนชอบยิงนกตกปลา>>

เลี้ยงลูกไม่รู้จักโตเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบเจ็บแค้นผู้อื่น>>

ชาตินี้ไม่มีลูกเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนข่มเหงรังแกลูกชาวบ้าน>>

ชาตินี้อายุยืนเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบซื้อสัตว์ปลดปล่อยชีวิต>>

ชาตินี้อายุสั้นเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต>>

ชาตินี้ไม่มีภรรยาเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบผิดประเวณี ข่มขื่นลูกเมียเขา>>

ชาตินี้เป็นม่ายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบดูหมิ่นดูแคลนสามี>>

ชาตินี้เป็นทาสเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น>>

ชาตินี้มีตาดีเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนซื้อน้ำมันเติมตะเกียงบูชาพระ>>

ชาตินี้ตาบอดเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบอ่านหนังสือลามก>>

ชาตินี้ปากแหว่งเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนกล่าวร้ายใส่ความผู้อื่น>>

ชาตินี้หูหนวกเป็นใบ้เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนปากร้ายด่าว่าพ่อแม่>>

ชาตินี้หลังค่อมเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนหัวเราะคนที่ไหว้พระ>>

ชาตินี้มืองอแขนคดเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนเคยตีพ่อแม่>>

ชาตินี้ขาเป๋ตีนเป๋เพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนทำลายถนนและสะพาน>>

ชาตินี้เป็นวัวเป็นควายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนเป็นหนีเขาแล้วไม่ใช้คืน>>

ชาตินี้เป็นหมูเป็นหมาเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนมีใจคิดหลอกลวงเขา>>

ชาตินี้มีโรคมากเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนดีใจที่เห็นคนอื่นเคราะห์ร้าย>>

ชาตินี้มีสุขภาพแข็งแรงเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนบริจาคยารักษาโรค>>
ชาตินี้ติดคุกติดตะรางเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนเห็นคนตกทุกข์ได้ยากแล้วไม่ช่วยเหลือ>>

ชาตินี้อดอาหารตายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนหัวเราะขอทาน>>

ชาตินี้ต้องถูกเขาเบื่อยาตายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนเบื่อปลาในคลอง>>

ชาตินี่โดดเดี่ยวทุกข์ทรมานเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนใจบาปคิดแต่จะทำร้ายผู้อื่น>>

ชาตินี้แคระแกรนเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนชอบเหยียดหยาบดูแคลนคนรับใช้>>

ชาตินี้อาเจียนเป็นโลหิตเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนปลุกปั้นยุแหย่คนอื่นให้แตกแยกกัน>>

ชาตินี้ถูกฟ้าผ่าตายเพราะอะไร>>
เพราะชาติก่อนพูดจาเสียดสีผู้ออกบวช>>

ชาตินี้ถูกสัตว์ร้ายกัดตายเพราะเหตุใด>>
เพราะชาติก่อนก่อศัตรูคู่อาฆาต>>

สรรพกรรมที่ก่อไว้กรรมตามสนอง>>
ต้องตกนรกทุกข์ทรมานจะโทษใครเล่า>>

อย่าพูดว่ากฏแห่งกรรมไม่มีใครเห็น>>
กรรมสนองเร็วก็ตกที่ตัวเอง กรรมสนองช้าก็ตกที่ลูกหลาน>>

ถ้าไม่ศรัทธาในพระรัตนตรัย ไม่รีบทำทาน>>
ก็จงดูบุคคลที่มีบุญวาสนาสิ>>

เพราะเขาทำบุญไว้แต่ชาติก่อน ชาตินี้บุญจึงตอบสนอง>>
แม้ปัจจุบันสั่งสมบุญกุศล บุญนั้นก็จะคุ้มครองถึงบุตรหลาน>>

หากใครกล่าวร้ายเรื่องกฎแห่งกรรม>>
ชาติหน้าก็ไม่ได้เกิดเป็นคนอีก(เกิดอยู่ในอบายภูมิ)>>

หากเชื่อถือยึดมั่นในกฎแห่งกรรม>>
ความเจริญมั่งมีศรีสุข ก็จะมาเยือนถึงบ้าน>>

หากใครค่อยแนะนำเผยแพร่เรื่องกฎแห่งกรรม>>
ก็จะเจริญยิ่งๆขึ้นชั่วลูกชั่วหลาน>>

หากใครยึดมั่นในกฎแห่งกรรม>>
ฆาตเคราะห์ภัยพิบัติจะอยู่ห่างไกลตัว>>

หากใครเที่ยวบรรยายเรื่องกฎแห่งกรรม>>
ทุกๆชาติจะเป็นผู้มีปัญญาเลิศ>>

หากใครหมั่นสวดมนต์ในเรื่องกฎแห่งกรรม>>
ชาติหน้าไปถึงไหนถึงไหนก็มีแต่คนนับหน้าถือตา>>

หากใครพิมพ์หนังสือเรื่องกฎแห่งกรรมแจก>>
ชาติหน้าก็จะมีกายมงคลรุ่งโรจน์>>

หากใครถามเรื่องกฎแห่งกรรมเมื่อชาติก่อน>>
ควรศึกษาเรื่องราวของพระกัสสปพระพุทธเจ้าที่มีรัศมีแวววาว>>

หากถามเหตุผลของชาติหน้า>>
ก็ให้ดูพวกที่กล่าวร้ายพระธรรมในเมืองนรก>>

หากใครก็ตามยึดมั่นในกฎแห่งกรรม>>
ก็จะได้ไปเกิดในสุขาวดีแดนพุทธเกษตร>>

เรื่องกฎแห่งกรรมในสามโลกนี้พูดกันไม่จบ>>
สวรรค์ไม่เคยขาดคนจิตกุศล>>

ในพระรัตนตรัยเป็นแก้ววิเศษ>>
รู้จักสละบ้างผลได้รับเหลือคณานับ>>

เหมือนดั่งสะสมอริยทรัพย์ไว้ในเซฟที่มั่นคง>>
จะได้รับผลประโยชน์ทุกๆชาติไป>>

หากถามเรื่องชาติปางก่อน>>
ก็ให้ดูผลที่ได้รับในปัจจุบัน>>

หากจะถามเรื่องชาติหน้า>>
ก็ให้ดูในสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน>>
>>


#2 laity

laity
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2006 - 11:58 AM

่อยากให้ระุบุถึงแหล่งที่มาที่ใช้่อ้างอิง ด้วยครับ ซึ่งจะดีต่อการค้นคว้าในภายหน้า
สาธุครับ
อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางในชีวิตการสร้างบารมี และ
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา

โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น