ผมเคยคิดว่าจุดที่น่าจะใช่คือจุดที่เริ่มเรียนคณะที่ผมใฝ่ฝันในดินแดนที่เป็นความฝัน นั่นคือที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 4ปีที่นั่นมันทำให้ผมเปลี่ยนจนไอ้เด็กหัวเกรี๊ยนคนนึง ไม่คิดอะไรมากกมายกับชีวิต เป็นอีกคนหนึ่งที่พร้อมจะเดินตามล่าหาความฝัน ดังนั้นเมือวันหยุดยาวที่ผ่านมาผมจึงตัดสินใจที่จะไปใช้เวลาที่นั่นด้วยตัวคนเดียว เพื่อลองย้อนคิดถึงความรู้สึกในตอนนั้นๆ หนึ่งวัน หนึ่งคืนที่นั่น เป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมมากๆ ได้คิดอะไรกับตัวเองเยอะ ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ทั้งหลังจากเรียนจบ และก่อนเิริ่มเรียนที่นั่น อะไรที่ผมได้จากการเดินทางครั้งนี่นะหรือครับ สิ่งที่ผมต้องการไปหาคือผมคิดอะไรตอนนั้น แต่คำตอบที่ผมได้คือ "ผมไม่ได้คิดอะไร" แต่ผม "ลงมือทำในสิ่งที่ผมรักอย่างเต็มที่" สิ่งมันก็ดูเหมือนธรรมดาๆ ผมถามตัวเองต่อมันต้องมีอะไรอีกซะการที่เราไม่คิดอะไรแล้วชีวิตมันจะพัฒนาได้อย่างไรคำตอบที่ได้คือ "ผมอยู่ในบุญตลอดเวลา" แค่นี้้จริงๆ ??? .... อ้าวแล้วความฝันวันเด็กหละอยู่ตรงไหนหว่า มันไม่ได้อยู่ที่นี่นี่น่า ใช่ครับมันไม่ได้อยู่ที่นี่่ !!
ดังนั้นจะให้ย้อนกลับไปกรุงเทพใหม่ เพื่อนึกถึงตัวเองตอนเรียน ม.ปลายหรือ มันก็ขับรถไกลซะเหลือเกิน งั้นเอาเป็นว่า หลับตาแล้วย้อนคิดแล้วกันครับประหยัดเวลาดี คิดทบไปทบมา นิ่งไปนิ่งมา จนพบว่าจุดที่ผมเคจตั้งเป้าหมายกับชีวิตไว้มันอยู่ในช่วงปิดเทอม ม.4 ที่ผมได้ไปบวชธรรมทายาทรุ่นที่ 19 ที่วัดพระธรรมกายแห่งนี้ครับ มันเป็นจุดที่ใจผมใสมาก ใสจนไม่คิดว่าตัวเองจะทำใจให้ใสได้ขนาดนั้น แต่ผมพบปัญหาต่อไปครับ แล้วไอ้ความฝันที่เคยคิดไว้หนะมันคืออะไรกันแน่ ที่จำได้ชัดๆ คำปณิธานว่า "ผมจะละในสิ่งที่เคยละ ผมจะละเลิกในสิ่งที่ควรเลิก" ณ.ลานธรรม ตอนเตรียมงานวันมาฆบูชา และพระอาทิตย์กำลังตกดิน แต่จะละจะเลิกเพื่ออะไรนี่ซิคือปัญหา ดูซิครับมันน่าแปลกใจไหมครับ น่าแปลกทีเดียว ทำไมการค้นหาความฝันวันเด็กนี้มันยุ่งยากจังหว่า ฮืม ....... คำตอบที่ได้ก็เพราะว่ากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ใจผมตอนนั้นตอนที่เป็นสามเณชธรรมทายาท กับใจผมในตอนนี้มันคนละเรื่องกันครับ เรื่องราวในชีวิตที่ผ่านเข้ามา มันก่อให้เกิดเครื่องปรุงแต่งมากมาย ใส่เข้ามาในความฝันวันเด็กในตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมก็พอนึกถึงเป้าหมายชีิวิตในตอนนั้นออกลางๆ แ้ล้วครับ แต่ยังไม่ชัดเท่าไหร ถ้าจะให้ชัดจริงคงต้องทำใจให้ใสเท่ากับตอนนั้นหรือมากกว่า ดีไม่ดีผมอาจจะนึกย้อนไปไกลกว่าตอนเป็นธรรมทายาทก็ได้ ว่าไหมครับ :-)
อย่าลืมนะครับ ความฝันแต่่และคนต่างกัน ที่ผมเขียนมาเป็นแค่ความฝันของผมเอง ลองคิดย้อนกลับไปหาตัวเองในตอนที่เราไม่มีใครซิครับ อย่าลืมนะครับ "เราเกิดมาก็คนเดียว เวลาตายไปก็คนเดียว" แ้ล้วไอ้ิสิ่งต่างๆ รอบตัวเราตอนนี้ มันคืออะไร มันเป็นของจริงหรือ
สำหรับตัวผมเองบทสรุปส่งท้ายของเรื่องราวนี้คือ "ผมยังไม่เคยได้ไล่ตามความฝันที่แท้จริงของผม ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลย" ที่ผ่านมาทำกับเล่นๆ ซะมากกว่า ดังนั้นไม่แปลกใจครับว่า สิ่งที่ได้มาก็เป็นแค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่ผมควรจะได้ ควรจะเป็น ปัญหาคือแล้วเราจะเริ่มต้นเมื่อไหร คำตอบก็คือ ก็ต้องเิริ่มตอนนี้ครับ แต่ไอ้สนิมที่มันเกาะกินใจกว่า 20 ปี จะทำยังไง นั่นคือจุดเริ่มต้นของ Project "ยอดมนุษย์ 100% 7,777 วัน" เพื่อเป็นกุลสโลบายในการปรับใจตัวเอง ถ้ากายไม่สะอาดแล้วใจจะสะอาดได้อย่างไร ส่วน Project ที่สองที่จะเริ่มตามมาติดๆคือ "เนสัชชิกังคัง" ครับ การที่จะแก้นิสัยเสียกว่า 20 ปี มันคงมีวิธีนี้วิธีเดียวสำหรับชีวิตในตอนนี้
ขอจบเรื่องราวไว้ที่คำพูดของหลวงปู่นะครับ "เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทำกับเขาไม่ได้เชียวหรือ ทำไมจะไม่ได้ ทำจริงเข้า ทำไม่จริงต่างหากล่ะ มันไม่ได้ จริงและก็ได้ทุกคน จริงแค่ไหน ? แค่ชีวิตซิ"
Happy & Smile
@--แสงตะวัน---@

