หลวงพ่อธตฺตชีโวท่านบอกมาว่าเป็นสูตรที่หลวงพ่อธมฺมชโยใช้ต้มทานมาตั้งแต่เด็ก
ตัวยาสมุนไพรมีดังนี้เน้อ
1. บอระเพ็ด
2. ใบมะกา
3. ฝักคูณ
4. ข่า
วิธีต้มยา
1. เอาตัวยาทั้งหมดเท่าๆกันมาหั่นบางๆแล้วเอาห่อผ้าขาวบาง
2. ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ห่อผ้าขาวบางที่มียาลงไป
3. ใช้ไฟอ่อนๆต้มยาทิ้งไว้ 30 นาที
4. ปิดไฟทิ้งห่อผ้าไว้ในหม้อประมาณ 1 ชั่วโมง
5. เอาห่อผ้าออกจากหม้อ
สียาที่ต้มออกมาจะออกสีเขียวข้น(คล้ายสีน้ำใบบัวบกข้นๆ) รสขม
ใครอยากต้มไปถวายพระแสนรูปเอาบุญมหาศาลก็สาธุล่วงหน้าเลยนะจ๊ะ เพราะบวชหมู่จะชอบเจอกับปัญหานี้อยู่เป็นปกติ ถ้าเราช่วยๆกันพระท่านก็มีสุขภาพดี กำลังใจก็ดีไปด้วย สวดมนต์ก็เสียงดัง นั่งสมาธิได้อารมณ์สบายๆชิลๆ
สาธุๆนะจ๊ะ
ปล. ถ้าข้อมูลข้างต้นมีตรงไหนไม่ถูกต้องประการใด รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะจ๊ะ

สูตรยาหลวงพ่อฯ
เริ่มโดย Pontana, Jan 17 2010 01:18 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 01:18 PM
#2
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 06:49 PM
ลองปรึกษาพระอาจารย์ที่ดูแลโครงการ และ คณะแพทย์ของชมรมรัตนเวช ก่อนดีไหมครับ
ถ้าทีมแพทย์และทีมพระอนุมัติ ค่อยทำ
ถ้าทีมแพทย์และทีมพระอนุมัติ ค่อยทำ
#3
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 08:46 PM

"มะกา"...ใบขับเสมหะ
บรรดาพรรณไม้ที่เป็นสมุนไพรนั้น "มะกา" หรือบางท้องถิ่น เรียก ก้องแกบ ซำซา มัดกา เป็นต้น
แม้จะมีสรรพคุณไม่มาก แต่คนเก่าคนแก่ โดยเฉพาะชาวปักษ์ใต้จะนำใบมาทำเป็นยาขับเสมหะ
ส่วนเปลือกซึ่งมีรสฝาด ใช้ในการสมานแผล ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นต้นชนิดนี้กันแล้ว
"มะกา" เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าชายทะเล ในวงศ์ EUPHORBIACEAE
สูงเต็มที่ไม่เกิน 10 เมตร เปลือกค่อนข้างเรียบ สีน้ำตาล แตกกิ่งก้านมาก ทรงต้นออกแนวเป็นพุ่ม
ใบ เป็นใบเดี่ยว ขึ้นเรียงสลับตามกิ่ง ทรงรี กว้าง 4-6 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร
โคนใบสอบ ปลายใบแหลมมน ผิวใบเกลี้ยงสีเขียว ก้านใบสั้น ขอบใบเรียบ มีเส้นแขนงใบราว 8-14 คู่
ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ มีดอกขนาดเล็กเวลาบานสีเหลือง
มีดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย อยู่ในกลุ่มหรือกระจุกเดียวกัน
ผล ทรงกลมขนาดเล็ก สีเขียว เมื่อแก่จะสีน้ำตาลแห้งและแตก มีเมล็ดมาก
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง ชอบความชื้นมาก ดินร่วนระบายน้ำได้ดี และมีแสงแดดส่องเต็มวัน
"นายสวีสอง" (นสพ.คมชัดลึก)
#4
โพสต์เมื่อ 18 January 2010 - 08:47 AM
คำว่า ยา หรือ โอสถ ใช่ว่าในสูตรเดียวกันจะบำรุงได้ทุกคนครับ...ร่างกายคนเราประกอบด้วยธาตุหลักและธาตุรองที่ต่างกันไป...
เช่น...คนธาตุดินเหมาะกับการดื่มน้ำดอกอัญชัน น้ำทอง...คนธาตุน้ำเหมาะกับน้ำกระเจี๊ยบ...คนธาตุลมเหมาะกับน้ำขิง...คนธาตุไฟเหมาะกับน้ำใบบัวบก เป็นต้น ส่วนใครจะเป็นธาตุใดลองศึกษาตามลิ๊งค์
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3123
เช่น...คนธาตุดินเหมาะกับการดื่มน้ำดอกอัญชัน น้ำทอง...คนธาตุน้ำเหมาะกับน้ำกระเจี๊ยบ...คนธาตุลมเหมาะกับน้ำขิง...คนธาตุไฟเหมาะกับน้ำใบบัวบก เป็นต้น ส่วนใครจะเป็นธาตุใดลองศึกษาตามลิ๊งค์
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3123
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#5
โพสต์เมื่อ 20 January 2010 - 11:56 AM
ขมปึ้ดเลยสิเนี่ย
#6
โพสต์เมื่อ 22 January 2010 - 05:18 PM
เท่าที่เริ่มศึกษาศาสตร์ทางด้านนี้ขึ้นมา เริ่มพบว่า สมุนไพรไทยที่ว่ามีสรรพคุณดีๆ หลายขนาน บางครั้งไม่สามารถเปล่งสรรพคุณออกมาได้ ทั้งนี้เพราะเตรียมการไม่ถูกวิธี เช่น ต้มเคี่ยวยาในเวลาน้อยเกินไป เป็นต้น ดังนั้น ท่านใดที่อ่านข้อมูลว่า สมุนไพรนั้น มีสรรพคุณด้านนั้นด้านนี้ ก็อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมน่ะครับ ว่าต้องใช้วิธีการเตรียมอย่างไรหรือไม่ เป็นต้น ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร