พอดีเพื่อนฝากถามคำถามมาน่ะค่ะ (เพื่อนทำงานอะไรสักอย่าง ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ)
คำถามว่า พระพุทธศาสนา สอนเรื่อง อนัตตา คือ ความไม่มีตัวตน
แล้วกรรมดี กรรมชั่ว จะส่งผลต่อผู้กระทำได้อย่างไร
ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ
อนุโมทนาบุญค่ะ
^/\^

พี่ๆน้องวงบุญขา ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มโดย ฺิlittle butterfly, Jan 27 2010 08:31 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 08:31 PM
#2
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 09:08 PM
อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน
พระพุทธศาสนาสอนให้ปล่อยวางเปลือกไปหาแก่นแท้น่ะครับ
กายมนุษย์หยาบนั้น เป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนที่จะใช้เป็นที่พึ่งที่ระลึก ต้องปล่อยต้องวาง
เพราะเวลาตาย เมื่อจิตดับจากกายมนุษย์หยาบ จิตก็จะเกิดใหม่ในกายอื่นทันที
เมื่อกายดับ จิตไม่ได้ดับสูญตามไปด้วย เหมือนพลังงานที่ไม่สูญหายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบได้ ตามเหตุปัจจัยที่มากระตุ้น
เช่น พูดผ่านโทรศัพท์ ตอนพูดพลังงานเสียงก็เปล่งออกมา พอไปผ่านระบบการเปลี่ยนพลังงานของโทรศัพท์ พลังงานเสียงก็เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าผ่านสายโทรศัพท์ไปยังสายปลายทาง แล้วถูกระบบโทรศัพท์ปลายทาง เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ากลับเป็นพลังงานเสียงเข้าหูผู้ฟัง เป็นต้น
จิตก็เช่นเดียวกัน เกิดดับตลอดเวลาอยู่ในร่างของกายหยาบ จนเมื่อถึงคราวกายหยาบดับ จิตก็ดับจากกายหยาบ แล้วไปเกิดไปในกายต่อไป จากเหตุปัจจัยที่มากระตุ้น ก็คือ กรรมดีกรรมชั่วที่ทำมานั่นเอง
หากทำกรรมดี ก็จะเป็นเหตุกระตุ้นให้ไปเกิดในที่ดีๆ เช่น เป็นเทวดา พรหม หรือเป็นมนุษย์ใหม่ หรือถ้าดีมากๆ ก็หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์
หากทำกรรมชั่ว ก็จะเป็นเหตุกระตุ้นให้ไปเกิดในที่แย่ๆ เช่น เป็นสัตว์นรก เดรัจฉาน อสุรกาย เปรต เป็นต้น
พระพุทธศาสนาสอนให้ปล่อยวางเปลือกไปหาแก่นแท้น่ะครับ
กายมนุษย์หยาบนั้น เป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนที่จะใช้เป็นที่พึ่งที่ระลึก ต้องปล่อยต้องวาง
เพราะเวลาตาย เมื่อจิตดับจากกายมนุษย์หยาบ จิตก็จะเกิดใหม่ในกายอื่นทันที
เมื่อกายดับ จิตไม่ได้ดับสูญตามไปด้วย เหมือนพลังงานที่ไม่สูญหายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบได้ ตามเหตุปัจจัยที่มากระตุ้น
เช่น พูดผ่านโทรศัพท์ ตอนพูดพลังงานเสียงก็เปล่งออกมา พอไปผ่านระบบการเปลี่ยนพลังงานของโทรศัพท์ พลังงานเสียงก็เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าผ่านสายโทรศัพท์ไปยังสายปลายทาง แล้วถูกระบบโทรศัพท์ปลายทาง เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ากลับเป็นพลังงานเสียงเข้าหูผู้ฟัง เป็นต้น
จิตก็เช่นเดียวกัน เกิดดับตลอดเวลาอยู่ในร่างของกายหยาบ จนเมื่อถึงคราวกายหยาบดับ จิตก็ดับจากกายหยาบ แล้วไปเกิดไปในกายต่อไป จากเหตุปัจจัยที่มากระตุ้น ก็คือ กรรมดีกรรมชั่วที่ทำมานั่นเอง
หากทำกรรมดี ก็จะเป็นเหตุกระตุ้นให้ไปเกิดในที่ดีๆ เช่น เป็นเทวดา พรหม หรือเป็นมนุษย์ใหม่ หรือถ้าดีมากๆ ก็หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์
หากทำกรรมชั่ว ก็จะเป็นเหตุกระตุ้นให้ไปเกิดในที่แย่ๆ เช่น เป็นสัตว์นรก เดรัจฉาน อสุรกาย เปรต เป็นต้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 10:29 AM
เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น คุณยายสอนว่าให้นึกถึงบุญเยอะๆแล้วบุญจะช่วยเราเอง ผมก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน เมื่อรู้สึกอึดอัด ก็จะให้เวลาตัวเองได้สวดมนต์ นั่งหลับตานิ่งๆ หายใจเข้าลึกๆ 4-5 ครั้ง สบายๆ พอใจสบายๆเดี๋ยวก็พบทางออก หรือไม่ก็หาที่ปรึกษา พระอาจารย์ที่วัดพระรรมกายเก่งทุกรูปครับ สำคัญที่ตัวเราและใจต้องใส ทำตัวเป็นตัวแบบอย่างแห่งความดีและความสำเร็จทั้งหลายครับ แล้วทุกคนจะเชื่อเราเอง ฟันธง!
#4
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 08:05 PM

ในเมื่ือ มนุษย์ ยัง ไม่มีตัวตน ซะแล้ว
จะมี ตน ไหน มารับวิบาก คือ ผลแห่งกรรม( กุศลกรรมบท อกุศลกรรมบท )
คือ เสวยสุขเวทนา ทุกขเวทนา ในนิพพาน ภพสาม โลกันตร์ ล่ะครับ
ส่วนถ้า อนัตตา หมายถึง ( ขันธ์ ๕ ในมนุษย์ อมนุษย์ ) ไม่ใช่ ตัวตน ( ที่แท้จริง )
จึงไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น อุปทาน ในขันธ์ ๕
แบบนี้ น่าพอฟัง เข้าใจ เป็นจริง ได้มากกว่า หรือเปล่าครับ ?
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 10:36 PM
ยืนยัน ความเห็นข้างบนครับ
แปล อนัตตา ผิด ว่า ไม่มีตัวตน นี่ สุดท้ายจะตีความผิดไปไกลเลยล่ะครับ สุดท้าย นิพพาน เป็นอนัตตา กลายเป็นตายแล้วสูญไปเลย
ช่วยไปบอกเพื่อนนะครับว่า อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน(ที่แท้จริง) ไม่ใช่ไม่มีตัวตน พอแปลถูกแล้วก็จะเข้าใจอะไรๆ ได้เองแหละครับ
แปล อนัตตา ผิด ว่า ไม่มีตัวตน นี่ สุดท้ายจะตีความผิดไปไกลเลยล่ะครับ สุดท้าย นิพพาน เป็นอนัตตา กลายเป็นตายแล้วสูญไปเลย
ช่วยไปบอกเพื่อนนะครับว่า อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน(ที่แท้จริง) ไม่ใช่ไม่มีตัวตน พอแปลถูกแล้วก็จะเข้าใจอะไรๆ ได้เองแหละครับ
#6
โพสต์เมื่อ 31 January 2010 - 03:55 PM
QUOTE
พระพุทธศาสนา สอนเรื่อง อนัตตา คือ ความไม่มีตัวตน
- พุทธศาสนา กล่าวถึง สรรพสิ่งทั้งปวงล้วนตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ อันประกอบด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา - อนัตตา = ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง เพราะ เกิดมาแล้ว ตั้งอยู่ เสื่อมสลาย
QUOTE
แล้วกรรมดี กรรมชั่ว จะส่งผลต่อผู้กระทำได้อย่างไร
- ได้ทั้งผลปัจจุบัน และ ผลในภายภาคหน้า กล่าวโดยย่อ...- กรรมดี...ผลปัจจุบัน...ใจใส...สุขกาย สบายใจ หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ฯลฯ...ทำบ่อยๆเป็นอาจิณก็ เป็นที่เกรงใจ เลื่อมใส ศรัทธาต่อผู้พบเห็น...ละโลกไปก็มีสุคติเป็นที่ไป
- กรรมชั่ว..ผลปัจจุบัน...ใจหมอง...หวาดผวา วิตก กลุ้ม เสียใจ กินไม่เจริญอาหาร ฯลฯ...ทำบ่อยเป็นอาจิณ ก็จิตเศร้าหมอง อยู่แบบอดสู บุคลิกภาพผิดปกติ...ละโลกไปก็มีทุคติเป็นที่ไป
ส่วนใหญ่ที่เห็นในสังคมก็มักจะเป็นเรื่องบุญปนเปกับบาปมากกว่า
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#7
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 04:33 AM
ชาวเราต้องการกัลยาณมิตรก็ด้วยเหตุนี้ละครับ