
ฝังใจ
#1
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 04:35 PM
คือมีเกิดเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต และคนใกล้ตัวที่เรารักและไว้ใจที่สุดเป็นคนที่ทำร้ายเราให้เจ็บช้ำที่สุด
พยามรักษาใจให้กลับมาใสเหมื่อนเดิม และก็ให้อภัยในทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าทำเราไว้
แต่ก็มีบางครั้งใจก็ยังไปนึกถึงเรื่องร้ายๆ (จนทำให้ใจหมอง)
พอรู้สึกตัวก็ต้องทำเริ่มทำใจให้ใสใหม่ เป็นแบบนี้บางบ้างครั้ง
แต่จะทำไงดีค่ะ ไม่อยากนึกถึงเรื่องที่เลวร้ายนี้อีกแล้ว อยากรักษาใจให้ใสได้ตลอดเวลา
แต่ทุกวันนี้ยังต้องเจอหน้าคนที่เคยทำร้ายเราอยู่ทุกวัน เลยลืมไม่ได้ทุกที
นึกทีไรก็เสียใจ.....T-T ** มันฝังใจจริงๆค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 05:16 PM
ให้เวลาช่วยรักษาใจ... มองโลกในแงบวกไว้มากๆ
#3
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 05:27 PM
#4
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 05:30 PM
#5
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 05:35 PM
#6
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 07:58 PM
เดี่ยวขอตัวไปทำใจให้ใสๆ แล้วจะแวะมาตอบนะครับตอนนี้ยังไม่นิ่งเท่าไหร
ฝากเพลงไปฟังเล่นๆ ก่อนแล้วกัน อาจดูเศร้าๆ แต่มีข้อคิดนะครับ (MV ถ้าไม่เหมาะสมลบได้นะครับ)
"คนเราจักต้องพลัดพลากของรักของชอบใจด้วยกันหมดทั้งสิ้น"
#7
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 09:52 PM
kissy รู้นะ ...ว่าคุณ คิดไรอยู่อ่ะ
555+
ตอบไม่ตรง รึเปล่าเอ่ย
555+
to... พี่น้ำ
อย่าไปสนใจเลย ค่ะ คิดไรมาก
ทุกอย่าง ไม่มีตัวตน
ถ้าเห็น ก็เหมือนไม่เห็น เพราะว่า ไม่มีตัวตน
สิ่งที่พี่ กำลังรู้สึก แล้วใจหมองอ่ะ
เป็นเพราะว่า พี่เอาเรื่อง มาใส่ ในใจเอง จริง ๆ แล้ว ไม่มีอะไรเลย
คล้าย ๆ กับ ว่า พี่ดูละคร แล้วอิน ไปกับละคร
ตอนนี้ มารเอาเรื่อง มาใส่ใจพี่ พี่ก็อิน ไปกับ เรื่องที่มาร ให้มา
เพราะฉะนั้น ออกมาเถอะ... พี่ อย่าเข้าไปเลย มันไม่มีอะไรหรอก
อย่าคิดมาก..
ไปหา หลวงปู่ กันไหม
555+
เชื่อมั๊ย ว่า....อาการแบบนี้ kissy เคยเป็น คิดว่า น่าจะ คล้าย ๆ กัน หรือว่าเหมือนกันเลยแหละ
แต่ตอนนี้หาย แล้ว....
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้.. เค้า.. อย่ายอมแพ้
พี่น้ำ..ต้องกล้า ที่จะตัดสินใจ นะคะ
#8
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 10:10 PM
เอาเนื้อเพลงนี้ไปร้องดีกว่าครับว่า "ผ่านวันนี้ไป เรื่องราวที่ไม่ดี พรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา"
#9
โพสต์เมื่อ 27 January 2010 - 10:55 PM
เพลงๆนึงครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อเพลง "ก้อนหินก้อนนั้น"
น่าจะของโรส....เอ่อ ผมทำลิงค์ไม่เป็นซะด้วยไม่อย่างนั้นจะทำลิงค์ให้ฟัง
เนื้อร้องดีมากครับ(ในบรรดาเพลงทางโลก) คิดว่าถ้าลองฟังดีๆจะช่วย
เป็นกำลังใจได้บ้าง คล้ายๆกับที่คุณtnawutบอกครับเวลาจะเป็นตัวช่วย
รักษาใจให้เข้มแข็งขึ้น เอาใจช่วยนะครับ และคิดว่าที่นี่มีหลายๆคนพร้อมเป็น
กำลังใจให้อยุ่แล้ว

ปล.คุณแสงตะวันครับ MVเพลงเพราะดีครับภาพประกอบก็สวยแต่...ทำให้ใจผม
ไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ 555

ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#10
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 05:24 AM
kissy ว่า.. เพลงเพราะดีเหมือนกัน ค่ะ
แต่ ภาพ.. ก็งั้น ๆ แหละ ( อิจฉา.. ตัวเอง ไม่สวยเหมือนคน ใน ภาพ แต่จำ ท่าไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาถ่ายรูป จะทำท่าแบบนี้บ้าง )
#11
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 07:55 AM
เพราะฉะนั้น ออกมาเถอะ... พี่ อย่าเข้าไปเลย มันไม่มีอะไรหรอก
ชอบจริงๆ คุณ kissy สุดยอดมากๆ ขอคารวะด้วยน้ำปานะ 1 จอก
ถึงคุณน้ำ อย่าลืมซิครับว่าเรากำลังรบกับใครอยู่ ดังนั้นมันอาจมีบาดแผลบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถ้ายอมให้ข้าศึกในใจเราแสดงฤิทธิบ่อยๆ มันจะได้ใจครับ เหมือนมวยหนะครับ เวลาเห็นคู่ต่อสู้
ออกอาการ ฝ่ายตรงข้ามจะเดินเข้าใส่ทันที ดังนั้นแนะนำยาฉีดซัก 2 เม็ดครับ คือ อุเบกขา กับ ขันติ
พี่น้ำ..ต้องกล้า ที่จะตัดสินใจ นะคะ
ขออ้างของคำพูดคุณ kissy แล้วต่อยอดความคิดแล้วกันนะครับ เพราะคุณ kissy ตอบได้สมบูรณ์ทีเดียว
สงสัยเพราะเป็นประสบการณ์ตรง ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นนะครับ :-) คนทุกคนมีเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่เหมือนกันหรอก
คุณน้ำอย่าลืมหาแหล่งกำลังใจที่ดีที่สุดภายในตัวนะครับ เพราะผมเชื่อว่าความรู็สึกพวกนี้มันเป็นอารมณ์โลกครับ เราเผลอ
เมื่อไหรมันก็เข้ามาอีก ที่สำคัญคำว่า "ตัดสินใจ" ผมเชื่อว่าคุณน้ำตัดสินใจกับปัญหานี้ไปแล้วหละ และเป็นการตัดสินใจที่ดี
ด้วย แต่ปัญหาก็คือ "ทำอย่างไรเราถึงจะรักษาการตัดสินใจนั้นได้ตลอดเวลา" มันซิยาก แต่ยากพอสู้ครับ
ไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ 555
ของ share ส่วนตัวนะครับ บทท่องนี้ใช้ไม่ได้ผลกับผมครับ ฮ่า ฮ่า โดยส่วนตัวผมฟังเรื่องธาตุ 4 ของหลวงพ่อทัตตะในแผ่น mp 3 ฟังแล้วพิจารณาตามไปรู้สึกจะได้ผลกว่าครับ เวลาเจอสาวๆ ก็จับแยกธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ใจ) ซะเลย ฮิ ฮิ มันก็แค่น้นแล ที่สำคัญฟังคำสอนยายครับได้ผลชะงักนัก "...มีคุณน้อยนิดเดียว แต่มีโทษมาก...."
เพลงๆนึงครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อเพลง "ก้อนหินก้อนนั้น"
จัดไปครับ ชอบเหมือนกัน
ปล. ที่พิมพ์ซะยาวก็ไว้สอนตัวเองด้วยครับ มีคนเคยบอกผมว่า "ก่อนจะสอนคนอื่น ก็ทำตามที่ตัวเองสอนให้ได้ก่อน" โคตรเจ็บเลยแต่ได้ข้อคิดดีครับ ฮิ ฮิ ไม่ได้โกรธคนพูดนะครับ แต่โกรธตัวเองที่ สอนตัวเองได้มันก็ต้องทำตามที่ตัวเองสอนได้ซิ อย่างว่า "เราเกิดมาสร้างบารมี ก็ต้องสร้างบารมี"
#12
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 08:46 AM
กิเลสหนาปัญาบางต่างกันที่
เรามีเพื่อนกัลยาณมิตรสุดแสนดี(เช่นผมไง)
และยังมีDMCเป็นเพื่อนใจ
เตือนให้เรากำหนดใจในวิถี
อภัยทานคือสุดยอดของความดี
เพราะทานนี้ทำได้ยากกว่าทานใด
แต่ใต้ตะวันธรรมดวงนี้นั้นมีหรือ
ผู้ได้ชื่อลูกพระธัมฯทำไม่ได้
เห็นแล้วหมองแสดงว่าในจิตใจ
ยังไม่ได้ให้อภัยอย่างแท้จริง
ให้เอาอย่างพญานาคภูริทัต
มีศีสสัตย์ไม่ทำร้ายหมองูจำได้ไหม
เรื่องไม่ดีอย่าเอามาใส่ใจ
รักษาใจให้ใสๆไว้ก็พอ
สิ่งผิดพลาดในอดีตลืมให้หมด
แล้วกำหนดใจนิ่งๆดิ่งใสๆ
รู้ว่ายากแต่อย่าลืมเราลูกใคร
ต้องเป็นกัลยาณมิตรให้ทุกคนถึงปลายทาง
(รวมถึงเขาคนนั้นด้วย)
เพราะเป้าหมายหมู่คณะจะขนสัตว์
รื้อสังสารวัฏไปทั้งหมดสู่เป้าหมาย
ติดกระโหลกกระลาคาในใจ
แล้วจะกลับดุสิตได้ยังไงกัน
เป็นกำลังใจให้ครับ
#13
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 09:52 AM
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ
คิดว่า ปัญหานี้อาจจะคล้ายกันกับ ดิฉันเลยค่ะ
เคยประสบมา เมื่อปีที่แล้ว
คนที่เราสนิทและรัก ใกล้ตัวเรามาก(ขอออกตัวก่อนนะคะว่า....ไม่มีแฟน...เดี๋ยวคิดไปนั่น....)
นึกไม่ถึงว่าจะทำร้ายเรา ด้วยการกระทำ และ วาจา
เจ็บค่ะ เจ็บปวดรวดร้าว
เจ็บจนต้องหนี
รับไม่ได้ รับไม่ได้อย่างแรง ทั้งที่พยายามแล้ว
ใจหมองมากกกกกกกก ถึงมากที่สุด
ถึงขนาดที่ว่า ไปหล่อพระวันคุ้มครองโลก นั่งน้ำตาซึมไปด้วย แบบไม่เอาบุญเลยอ่ะ
ตอนนั้นได้โอกาศ เลยหนีมาไกลพอสมควร ลองมองย้อนกลับไป รวมระยะเวลาได้ปีแล้ว
ทำใจได้เกือบสนิทแล้ว(แสดงว่ายังไม่สนิด...ยังมีคิดโกรธและอยากเอาคืนนิดนิด)....
สรุปว่า
ต้องนั่งธรรมะให้มากมาก เพื่อทำใจให้ใส กลบใจที่หมอง
แผ่ส่วนบุญกุศลด้วย
พยายามอย่าเจอสิ่งเร้านั้นอีก(ถ้าทำได้)
และ เวลาจะช่วยให้ดีขึ้นได้
สู้ๆๆๆๆๆ
ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละ
เราไม่ทำเขา
เขาก็ทำเรา
#14
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 10:15 AM
ใครไม่เคยคงไม่เข้าใจ กะว่าถ้าปรึกษาพวกพี่ๆ แล้วยังไม่ดีขึ้น
กะจะพาตัวเองไปปรึกษาแพทย์เลย...อื่ม
#15
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 10:55 AM
ใครไม่เคยคงไม่เข้าใจ กะว่าถ้าปรึกษาพวกพี่ๆ แล้วยังไม่ดีขึ้น
กะจะพาตัวเองไปปรึกษาแพทย์เลย...อื่ม
บางครั้งความรู้สึกเจ็บนั้นอาจเป็นเพราะเราต้องการเจ็บก็ได้ แต่เมื่อเจ็บจนพอแล้ว ก็ต้องจำบ้างครับ เพราะเจ็บบ่อยๆ มันไม่ดีต่อการสร้างบารมี
ก่อนที่จะเจ็บต่อตอบคำถามนี้ก่อนนะครับ "เราเกิดมาทำไม" ถ้าเกิดมาเจ็บก็เจ็บต่อไปเถอะครับ แต่ถ้ามีสิ่งอื่นที่ควรทำและเป็นไปเพื่อการสร้างบารมี ก็จงไปทำสิ่งนั้นเสียเถิด ว่าแล้วก็ขอตัวไปนั่งสมาธิก่อนดีกว่า ชักเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว ฮิ ฮิ
#16
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 10:56 AM
ด้วย แต่ปัญหาก็คือ "ทำอย่างไรเราถึงจะรักษาการตัดสินใจนั้นได้ตลอดเวลา" มันซิยาก แต่ยากพอสู้ครับ
ยาก.. ก็ต้องสู้ ซิคะ จริง มั๊ย..เอ่ย..
kissy รู้ ว่ามันเจ็บ... แต่พี่น้ำ ต้องสู้..
ถ้าพี่ ไม่สู้ ผล ก็ มีแค่ แพ้ อย่างเดียว
แต่ถ้า พี่สู้ มีผล 2 อย่าง คือ แพ้ กับ ชนะ
แต่อยากจะขอ ให้พี่ เลือก ชนะ อย่างเดียวนะคะ
( เคยสู้มาแล้ว ชนะ ด้วย ถึง ยิ้ม ได้ ไง 555+ )
สงสาร.. พี่น้ำ จังเลยอ่ะ..
พี่น้ำ.. ต้องสู้นะ
จอมมาร มันอยู่ที่ใจ พี่เอง ข้างในใจ ที่พี่เป็นคนเพาะมัน เอง
สู้ ....เค้า....นะ
พี่ต้อง ชนะ..นะคะ
#17
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 04:07 PM
อ่านจากข้อความ น่าจะเป็นเรื่อง......ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยครับ
จากเรื่อง.... มีวิบากกรรมเก่า คือกรรมกาเม
ตามมาส่งผลในปัจจุบัน ผมว่านะ 80 % ของเพศหญิงเจอลักษณะนี้เยอะครับ
บางคนรอดมาได้หวุดหวิด(บุญส่งผลทัน) บางคนกลับไม่รอด(กรรมตามมาส่งผล)
วัฎสงสารมันน่ากลัวอย่างนี้หล่ะครับ
จนทำให้ต้องเจ็บช้ำใจ บางคนคิดสั้นไปเลยก็มี กลับ ยิ่งสร้างกรรมหนักให้กับตัวเองเสียอีก
คุณ น้ำแข็งใส ยังโชคดีมากนะครับ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้พบเหล่ากัลยาณมิตร
รู้ทันเภทภัยในวัฎสงสาร ได้รู้เป้าหมายของชีวิต ว่าเราเกิดมาทำไม
และทำให้รู้วิธีการแก้ปัญหาในชีวิต ได้เป็นอย่างดี
ตอนที่ผมเข้าวัดใหม่ ๆ สมัยเป็นนิสิต เจอพระอาจารย์ สอนจำได้เลยครับว่า “ข้างนอกน่ะ เขารอเราพลาดอยู่นะ
ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวรักษาใจกันให้ดี ๆ แล้วรีบมาไว ๆ”
คุณครูไม่ใหญ่เทศน์ ว่า “ร่างกายของเราพ่อแม่ให้มากันทุกคน
แต่เราเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์กัน ต้องเอามาใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์
เขาอยู่กับเราได้ในเวลานิดเดียว เมื่อเทียบกับ ภพภูมิอื่น ๆ ”
ผมคิดว่าตัดใจจากเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นไปเลยดีกว่าครับ ตั้งหน้าตั้งตากันใหม่
ถือว่าเราได้ชดใช้กรรมในอดีตไปแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะสร้างบารมีให้เต็มที่หล่ะ
-
-
นั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และประพฤติพรรมจรรย์
อธิฐานจิตให้ได้เกิดมาเป็นชายได้บวชเพื่อสร้างบารมีกันต่อไป
แนะนำเพลงของวัดเอา ไปฟังครับ ไพเราะ กินใจและสร้างกำลังใจ หลายเพลง เช่น
-โลกคอยความหวัง
-ปันความสุขให้
-เพราะห่วงใยเธอ
-อยากให้กลับคืนมา <-------เพลงนี้เพราะมาก กินใจดีทีเดียวครับ ถ้าจำไม่ผิด คุณครูไม่ใหญ่แต่งเอง
แล้วให้ คุณอัจจิมา นำไปร้อง
-ใจละไม
-แด่ตะวันธรรม
-ดาวภายใน
-เขาคอยคุณอยู่
-ไม่มีใครเอาไปได้
-แล้วเธอจะเจอตัวเอง
-อย่าร้องไห้
-ใครคนหนึ่ง
-ตะวันใส
ลองหาโหลดไปฟังดูนะครับ
#18
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 05:51 PM
#19
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 07:01 PM
เชื่อหรือไม่ว่าบางครั้ง.... คุณคนนั้นของคุณน้ำอาจจะคิดว่า "เรื่องราวเหล่านั้นมันเกิดขึ้น้มาได้ยังไงว่ะ เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด" (เชื่อไหมครับทุกอย่างมีฉากหลัง) แล้วเค้าก็อาจพยายามขอโทษ เพียงแต่คุณน้ำไม่ยอมเปิดใจรับมัน (อันนี้เดาๆ ฝันๆ เอา อย่าคิดมาก ฮิ ฮิ)
คุณน้ำถือศีล 8 ช่วงที่เค้าอบรมแสนรูปกันนี้ซิครับ ผมว่าช่วยได้เยอะทีเดียว เพราะตอนนี้ผมก็กำลังทำอยู่เช่นกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องฟังเพลงรักๆ ใคร่ๆ ให้ใจหมอง ไม่กินข้าวเย็น จะได้รู้อารมณ์ตัวเองมากขึ้น รู้ว่าอะไรควรห้ามใจ แล้วมันจะฟุ้งน้อยลงครับ
ปล. ช่วงนี้เราเปิดศึกแล้วครับ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังคิดจะทำความดีอย่างยิ่งยวด มันมักจะมีอะไรมาทดสอบ ลองใจอยู่เสมอ สู้ๆ เด้อครับเด้อ
#20
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 09:03 PM
ห๊า.... จริง ๆ หรอเนี่ย เปิดศึกแล้วหรอ
..........น่ากลัว ..........
ไปแอบ ช่วยงาน ( หลบภัย )ที่ ธุดง ชุมพร ก่อนดีมั๊ยเนี่ย
555555555555+
#21
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 09:12 PM
ตอนที่พี่บ่าวเจอเรื่องหนักเหนือความคาดฝันน่าจะทำนองเดียวกันกับเจ้าของกระทู้ พี่บ่าวก็ตั้งใจว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะต้องยกใจเราให้สูงขึ้น จึงตั้งสัจจะรักษาศีลแปดเก้าสิบวัน เรียกว่าเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส
ตอนนั้นบ่าวก็เคยคิดจะไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน แต่ได้อาศัยดีเอ็มซี หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย สวดมนต์ นั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ
แนะนำให้โหลด หนังสือ ในที่สุดคุณก็ชนะ และ ความรักที่น่ารัก มาอ่าน
ผ่านไปหนึ่งปี แม้จะไม่หายขาด แต่ก็ดีขึ้น เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
เรื่อง "ฝังใจ" มันก็ผ่านเข้ามาเป็นบางครั้ง เคยถามผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งว่า ทำไมยังฝังใจ ท่านตอบว่า ก็เพราะเรายังไม่สิ้นกรรมต่อกัน
มองให้เป็นละครของโลก อย่างที่น้องkissy บอก
และที่สำคัญทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์สิ่งของ กำลังเดินทางไปสู่จุดสลาย ให้หมั่นเจริญมรณานุสติ มากๆ เล่นเกมส์ที่คุณหัดฝันให้ไว้ว่า ถ้าเราเหลือเวลาชีวิต หนึ่งวัน สิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดคืออะไร
ถ้าเป็นพี่บ่าว ก็อยากตอบว่า อยากใจใสๆ เข้าถึงดวงธรรมภายใน นี่คือสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตจ้า
เป็นกำลังใจให้ใจใสไวๆ
#22
โพสต์เมื่อ 28 January 2010 - 11:32 PM
อยากจับน้ำแข็งใส ใส่ในขัน..
อันที่จริง.........ในร้ายก็มีดีนะคะ
ดีที่ได้ฝึกฝนตนเอง ทำข้อสอบวิชชาชีวิต

ข้อนี้จะแก้ด้วย บารมีข้อไหน นับไปเล้ย................
อืมมม ไม่รู้ข้อไหนละก็ ลงขันไปก่อน มิใช่ขันน้ำ หรือขันธ์ห้า แต่เป็นขันติ จะได้ไม่ขันแตก
เห็นเขาทุกวันก็เหมือนเราเห็นแผ่นดิน และท้องฟ้า ของมันคู่กันสุขกับทุกข์ ดำกับขาว พระกับมาร
แต่นิพพานไม่มีคู่ ใช่มั้ย..............
แผ่นดินรับได้ทุกอย่างโดยไม่เป็นทุกข์ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ปล่อยมันไป..อยู่ในหัวข้อธรรมขันติบารมี
ฝึกบ่อย ๆน้ำแข็งใส ก็จะกลายเป็นน้ำและไอน้ำ ด้วยอุณภูมิ(จิต)สูงขึ้น ๆเป็นจิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ค่ะ
ผู้เขียนนี่ก็กำลังฝึกฝนตัวเองเหมือนกัน....หลายเรื่องด้วย.....but ok and stay with the present.

#23
โพสต์เมื่อ 29 January 2010 - 12:04 PM
#24
โพสต์เมื่อ 29 January 2010 - 01:48 PM
#25
โพสต์เมื่อ 30 January 2010 - 03:29 AM

#26
โพสต์เมื่อ 31 January 2010 - 04:42 PM
ประสบปัญหานี้มานานเหมือนกัน เคยหมองมาทุกงานบุญใหญ่เลยบางครั้งถึงขั้นร้องให้ในวัดโฮๆคนเดียวจนค่ำ
ชีวิตแห่งความรักทางโลก มันขึ้นๆลงๆไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรสำคัญเท่าใจหรอกเราค่ะดิ้นรนทุกวิถีทางทั้ววิธีที่ดีและร้ายผลคือทุกข์ทรมานเข้าตัวเองทั้งนั้นค่ะ พอถึงจุดหนึ่งที่ใจเรามั่นคงก็จะไม่หวั่นไหวยินร้ายในเรื่องไม่ดีของเขาแม้ล่วงเกินเราไว้เยอะเหลือเกิน
แต่ตอนนี้เขาคนนั้นก็เตรียมตัวบวชอยู่
เราก็คอยเป็นธุระช่วยเขา เขาก็อยากให้เรายกโทษให้ทั้งหมด แต่ก็ยังทำร้ายเราอยู่ดีเพราะความพลั้งพลาด มองแล้วในชีวิตของคนเราก็เคยพลาดมาทั้งนั้น
เวลาที่เหลือก่อนเขาไปลพบุรีเราก็ประคองใจไว้ไม่ล่วงเกินให้เขาต้องใจหมอง
เขา...กำลังจะเป็นพระ เขาก็คือผู้มีบุญ และมีโอกาสในการรู้และเข้าใจธรรมมะได้มากขึ้น
การอบรมครั้งนี้เราควรสนับสนุนเขาค่ะ ให้เขามีกำลังใจในการฝึกฝนตนเอง
คิดถึงเรื่องดีๆดีกว่าค่ะ ...ถ้าคน...คนนั้นที่เคยทำให้คุณน้ำแข็งใส ต้องหม่นหมองแม้เป็นบางครั้งบางเวลาก็ควร"ให้อภัยเขาค่ะ"
เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี เป็นพี่เป็นน้อง เป็นน้ำหยดใสๆที่คอยหล่อเลี้ยงจิตใจ ให้บรรดาเหล่าต้นกล้าเข้าถึงดวงตะวันธรรมค่ะ
แล้วคุณความดีของคุณน้ำแข็งใสจะสะท้อนให้คุณได้เจอแต่สิ่งที่ดีและความสุขตลอดไปค่ะ
#27
โพสต์เมื่อ 31 January 2010 - 09:02 PM
เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี เป็นพี่เป็นน้อง เป็นน้ำหยดใสๆที่คอยหล่อเลี้ยงจิตใจ ให้บรรดาเหล่าต้นกล้าเข้าถึงดวงตะวันธรรมค่ะ
ขอบคุณคุณน้ำค้างนะครับ
ที่สุดของที่สุดเลยครับ ขออนุโมทนาบุญกับข้อธรรมะดีๆ สุดยอดครับ
#28
โพสต์เมื่อ 04 February 2010 - 10:52 AM
ทุกข์ทรมารอยู่ตั้งนาน ตอนนี้น้ำดีขึ้นมากเลยค่ะ เพราะน้ำค้นพบคำตอบที่ตัวเองเคยสงสัยมาตลอด ว่าทำไมน่า..ถึงยังฝังใจกับเรื่องเก่าๆ อยู่อย่างนี้ คำถามนี้ติดใจมาตลอดเกือบเดือน และแล้ววันนี้ก็เข้าใจจนได้ ว่าที่แท้จริงเราเอาใจไปหลงไหลในราคะจริตนั้นเอง ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา อื่ม...ทุกข์ตั้งนาน ** น้ำอยากให้คนที่เจอปัญหาอย่างน้ำได้รู้เหมื่อนที่น้ำรู้บ้างจังเลย น้ำทำใจได้เพราะ อสุภกรรมฐาน อ่านแล้วศึกษาแล้วเข้าใจ ก็ปล่อยวาง
http://www.kmitl.ac....umma/asupa.html
** ขอบคุณกำลังใจจากพี่ๆ ทุกๆท่านมากเลยค่ะ
#29
โพสต์เมื่อ 04 February 2010 - 11:51 AM
ละความยึดมั่นว่าเป็นตัวเรา ของเรา
ถ้า ภาษาของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน จะนิยมใช้คำว่า คลายความผูกพันในคน สัตว์ สิ่งของต่างๆ น่ะครับ
อสุภกรรมฐาน
หมายถึง การพิจารณาความไม่งามของร่างกายเป็นอารมณ์ เช่น พิจารณาซากศพ เป็นต้น ครับ