
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชาย
#1
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 05:49 PM
ที่หอประชุม จุฬา มีภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่น่าประทับใจมากมาย
เช่นพายุมา เหล่าธรรมทายาท ต้องช่วยกันจับกลด กลางทุ่งน่า
กลดบางหลังก็ปลิวไปกับกระแสลมและฝนบ้าง จะเห็นความอดทนความเพียรของเหล่าธรรมทายาท
มีการเดินธุดงค์ ดูแล้วรู้สึกประทับใจ
สำหรับรุ่นผมเป็นช่วง กระแสที่วัดจะแรงมาก หลังฝึกร่างกายที่เขาชนไก่จะเดินทางไกลไปเพื่อปลงผม ที่วัดถ้ำพุหว้า ระยะทางประมาณ30กิโลเมตร
ยิ่งช่วงใกล้ถึงวัดยิ่งต้องหมดแรงเพราะทางขึ้นเขาชันมาก แต่พอเจอวัดกลางป่าที่งดงาม จิตใจยิ่งฟูฟ่อง
เพราะวัดสวยงามน่ารื่นรมมากทีเดียวครับ
เดินตั้งแต่ ตี 4 ถึง 12.00 พอดี ระหว่างทาง จะเจอชาวบ้านในป่า มาร่วมอนุโมทนบุญตลอด2ข้างทางด้วยความปิติ
พอถึงวัดถึงได้ทราบว่าฝนพันปีเป็นอย่างไร
รุ่นผม จะเป็นรุ่นขุดถ้ำครับเพื่อใช้ถ้ำสร้างโบสถ์เป็นถ้ำหินอ่อนสวยงามมาก ต้องช่วยกันขุดถ้ำเกือบทั้งคืน บางคืนแทบไม่ได้นอน
บางคืนนอน ๆ อยู่ซักเที่ยงคืนถึงตี 2 ฝยตกน้ำท่วมกลด จนต้องนั่งหลับแช่น้ำฝนในกลดกันเลย ฝนตกหนักมาก
บางคนปักกลดช่องน้ำไหลพอดี เจอกระแสน้ำจนกลดล่ม น้อง ๆ เพื่อน ๆ ในกลุ่ม ร้องเสียงแซ่ซ้อง
"พี่ ภันเตครับ ช่วยด้วยครับน้ำท่วมกลดแล้ว"เป็นเสียงที่รอดมา จากสายฝนและลม มายังที่กลดของผม
รุ่นผมไม่แน่ใจว่าเป็นปีเดียวหรือเปล่าที่ธรรมทายาทต้องฝึกตัวต่างสถานที่
คือใช้สถานที่ วัดถ้ำพุหว้าเป็นวัดป่าบนยอดเขา จ.กาญ ฝึกตัวแล้วกลับมาที่วัดพระธรรมกายช่วงใกล้บวช
บริเวณที่ใช้อบรมจะเป็นยอดเขาที่พื้นไม่สม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยเกล็ดหินเล็ก ๆ
หลังจากปลงผมแล้วต้องมีการถอดรองเท้า เดิน ผลคือถ้าเดินไม่ระวังก็โดนเกล็ดหินทิ่ม(บนยอดเขาเต็มไปด้วยหินเล็กน้อยใหญ่
พื้นเพิ่งปรับสภาพเพื่อใช้ในการอบรม)
เพราะหินจะมีลักษณะเล็กและแหลมมาก ผมโดนประจำ อาจจะเป็นคนเนื้อบางก็ได้
หรือเกือบตลอดทั้งชิวิต ใส่แต่ถุงเท้าและรองเท้า
ต้องค่อย ๆ ดึงหินที่เท้าออกอย่างระมัดระวัง
บางครั้งเลือดก็ออกมาซิบ ๆ ที่ปักกลดจะเป็นป่าได้ถางไว้แล้ว แต่ก็ยังมีหินขนาดน้อยใหญ่ปะปนอยู่มาก
ยามนอนในกลดเวลากลางคืนหากพลิกตัวไม่ดี ก็อาจเจอหินทิ่มหลังเอาได้
สำหรับบรรยากาศดีมากครับป่าเขาลำเนาไพรเหมาะแก่การปฎิบัติธรรม จะมีเสียงไก่แจ้ขันบ้างเวลานั่งสมาธิ
นึกซะว่าเป็นเศษกรรมที่เราทำมาในอดีต
ยังอยู่ในความทรงจำผมเสมอครับคิดถึงเมื่อ คิดถึงเมื่อไหร่ก็ปลื้มแสนปลื้มครับ
ถ้าหากจะให้เขียนผมคิดว่ามีเรื่องมากมายเลยหล่ะครับ
ความทรงจำจากการฝึกฝนตนเองก่อนและหลังบวช
เช่น เรื่องที่ต้องกลั้นน้ำตาของกลุ่มธรรมทายาทผมที่วัดถ้ำพุหว้า
จากเพื่อนธรรมทายาทเพิ่งเรียนจบ วิศวที่ มช. หนีพ่อแม่มาบวช และพ่อแม่กับญาติอีกรถตู้มาตามไม่ให้บวชอีก หนีมาครั้งนี้ครั้งที่ 3
ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งเกือบจะถึงวันบวชอยู่แล้ว เพื่อนที่ประพฤติดีและตั้งใจมาตลอดต้องจากไป
โดยไปเก็บกลดตนเองและเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยความบรรจงและเศร้าโศก
หลังจากนั้นก็ไปขอคุณพ่อคุณแม่มากล่าวลา โดยเหล่าผู้ปกครองของเพื่อนยืนรออยู่ที่รถ
เพิ่อนกล่าวลาหมู่เพื่อนที่กลุ่มธรรมทายาทและพระพี่เลี้ยงด้วยความอาลัย
ทุกคนในกลุ่มต้องกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่มีใคร ต้านทาน ต่อความอาลัยนี้ได้แม้แต่ พระพี่เลี้ยงทั้ง 2 รูป
หลังจากนั้นก็ได้พบกับเพื่อนอีกครั้ง ที่หลังโบสถ์ยืนประนมมือร้องไห้สงบนิ่งด้วยชุดขาว
โดยเหล่าธรรมทายาทกำลังเวียนประทักษิณเพื่ออุปสมบท
แต่ละรอบที่เดินผ่านเพื่อนผู้นี้ยิ่งทำให้ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เป็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก ว่าการบวชไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้อย่างง่าย เลย
การบวชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก ผมพยามส่งบุญให้เพื่อนผู้นี้และช่วยให้เขาได้บวชในภพชาตินี้
และคิดว่าสิ่งที่เขาคิดอยู่ขณะนั้นจะสมหวังโดยเร็วพลัน และจะพยามตั้งใจเพื่อเป็นพระแท้
เหมาะแก่การกราบไหว้ อย่างแท้จริง
ฉะนั้นแสนรูปนี้จะเป็นแสนรูปที่ยิ่งใหญ่และเป้นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ
และก็เกิดขึ้นแล้ว ด้วยบุญและบารมีของทุกท่านที่ได้ช่วยกัน
อนุโมทนาบุญครับ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชาย และจะต้องมีอีกครั้งหนึ่งครับในภพชาตินี้ ไปตลอดทุกภพทุกชาติ
#2
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 08:32 PM
ของผมรุ่น "ดับไฟ" ครับ จำได้เลยครับว่าตอนนั้นกำลังซ้อมขานนาคที่สภาจาก แล้วบังเอิญมีสะเก็ดไฟจากป่าด้านข้างวัดมาติดที่หลังคาสภาจากดังนั้นภาระกิจคือช่วยกันดับไฟครับ ผมเลยตั้งชื่อเอาเองว่ารุ่น "ดับไฟ" ไม่แน่ใจใครบวชในรุ่นนั้นบางหรือเปล่า
#3
โพสต์เมื่อ 23 February 2010 - 09:16 AM
สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 23 February 2010 - 02:07 PM
#5
โพสต์เมื่อ 03 March 2010 - 08:04 PM
#6
โพสต์เมื่อ 05 March 2010 - 12:24 AM
ผมน่าจะมาไวกว่านี้นะครับ
พี่อุตส่าชวนมาบวชตั้งแต่จบ ม.3
ตอนนั้นมันติดทางโลก กิเลสหนา มากๆๆ
ขนาดตอนที่มาบวช รุ่น37 ผมยังไม่อยากมาเลย
พอดีว่าปีก่อนแล้วไปรับปากพี่ว่าเอาไว้ปีหน้า
ก็เลยได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะครับ
ถ้ารู้อย่างงี้มาบวชตั้งแต่ จบม.3 ก็ดี
คิดแล้วเสียใจภายหลัง จริงๆ เลยครับ
หยุดคิดดีกว่าง่ะ --
+^^ Just You Make ^^
+
#7
โพสต์เมื่อ 09 March 2010 - 01:28 AM
#8
โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 05:04 AM
ผมจะรออ่าน
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#9
โพสต์เมื่อ 16 April 2010 - 08:01 PM
#10
โพสต์เมื่อ 03 May 2010 - 11:27 AM
ไม่ว่าใคร...ถ้าเลือกทางผิดก็คงไม่มีทางไปถึงที่หมายตามที่ต้องการได้หรอก!.
"อาวุธสงครามเป็นสิ่งที่สร้างการสู้รบกันแน่หรือหรือเป็นเพราะว่าจิตใจคนกันแน่"
"ทั้งที่เรียกร้องหาสันติภาพแต่มือกลับถือปืนเอาไว้นั่นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกก้ได้"
"ผู้ปฏิเสธการสังหารผู้คนแม้จะตายอย่างทรมานก็สามารถข่มตาหลับลงได้
ในทางกลับกันผู้ที่สังหารผู้คนมากมายแม้จะตายอย่างสงบก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้..."