
ความรัก กับความถูกต้อง
#1
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:19 PM
นางเอ รู้สึกแปลกใจในความรู้สึกของตนมาก เพราะเกิดมาในชีวิต ไม่เคยคิดชอบเพศเดียวกัน แต่ทำไมตนถึงมีความรู้สึกนี้กับน้องบีได้ ทั้งสองแอบคบหากันเงียบๆ โดยไม่ให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรู้
มาวันหนึ่ง กรรมส่งผล ทำให้เรื่องเกิดแดงขึ้นมา นางเอ ต้องเลือกระหว่างครอบครัวตัวเอง สามี หรือ น้องบี
..
คำถาม
1. ระหว่าง ความรู้สึก ที่เรียกว่า “ความรัก” กับ “ความถูกต้อง” เลือกอะไรดี
2. ความรัก ที่อยู่บนความเดือดร้อนของผู้อื่น อีกทั้งผิดศีลธรรม คุณธรรม สิ่งนี้มันสมควรจะได้รับการยกย่องหรือว่า มันคือ ความรัก
3. มีผู้แย้งผู้เขียนว่า “พี่ไม่เข้าใจหรอก เวลาที่เรารักใครสักคน มันห้ามยาก” ผู้เขียนถึงไม่เข้าใจว่า ความรักมันควรจะคู่กับความถูกต้องมิใช่หรือ และความรักของคนเรา มันควรจะยืนอยู่บนศีลข้อ 3 มิใช่หรือ ถ้าการที่เราจะรักใครสักคน แล้วคนๆ นั้น เป็นคนที่มีเจ้าของ แม้-แม้ว่า เขาจะไม่มีีความสุขเลยยยยย ก็ตาม เราจำเป็นด้วยหรือที่จะช่วยให้มันขาดสะบั้นเร็วขึ้น
4. เคยได้ยินคำหนึ่งของคุณครูไม่ใหญ่ว่า “ความรัก เป็นของสูงส่ง ไม่ใช่ของสำส่อน” แล้วมันไม่ถูกหรือที่ผู้เขียนเห็นควรว่า “ความรัก ต้องคู่กับศีลธรรม และความถูกต้อง” เราต้องห้ามใจเราไม่ให้ทำิผิด เห็นผิด และเดินทางผิดมิใช่หรือ
5. ทำไมคนเรามักหาข้ออ้างและเงื่อนไขให้กับตนเอง เพื่อทอนความผิดบาปนั้นให้มันดูมีน้ำหนักเบาบางลง เพียงเงื่อนไขของความรู้สึก(กิเลสดีๆ นี่เอง) บังตาเราให้เห็นผิดเป็นชอบได้หนอ
#2
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:32 PM
ผมเลยมาเจิมชื่อรออ่านคำตอบก่อนนะครับ
จะบอกว่าถูกต้องที่ดีต้องถูกกฎแห่งกรรมด้วยครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#3
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:35 PM
ให้กลับมายังทางที่ถูกที่ควรร ไม่อยากให้ใครทำบาปทำกรรมมากไปกว่านี้แล้วหล่ะคะ
#4
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:38 PM
1. ข้อนี้หากตอบกับนักสร้างบารมี คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องเลือกความถูกต้อง แทนที่จะเลือกความถูกใจ แต่หากต้องไปตอบกับคนทั่วๆไป ที่ยังมิได้ศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมอย่างถ่องแท้ ความยากจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า จะเลือกอะไร แต่ความยากอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรที่จะอธิบายให้เขารู้ว่า จะต้องเลือกความถูกต้อง
สิ่งหนึ่งที่ครูไม่ใหญ่มักจะใช้อธิบายเรื่อยๆนะครับว่า "หากกฏแห่งกรรมไม่มีจริง ลูกถูกใจลูกก็ทำไปเถิดลูก หลวงพ่อจะไม่ห้ามเลย แต่นี่กฏแห่งกรรมมันมีจริง หากทำไม่ถูกต้องมันต้องรับกรรมนั้น ไม่รู้กี่ชาติกี่ชาติ ดังนั้น จงเลือกทำตามความถูกต้องเถิดลูก เพื่อความปลอดภัยในสังสารวัฏของตัวลูกเอง"
2. ก็ตอบเหมือนข้อ 1 ครับ การไม่ได้ความยกย่อง อาจไม่ทำให้ผู้ที่กำลังตกในห้วงรักสนใจ "ดังภาษิตที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอด" แต่กฏแห่งกรรมไม่สนใจไม่ได้ เพราะมันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าเรื่องถุกยกย่องไม่ยกย่องอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
3. ความรักของผู้ที่ตกอยู่ในความครอบงำของกิเลส ย่อมไม่อาจมีความถูกต้องมาควรคู่ได้ครับ เหมือนคนทีอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นจนไม่อาจทนได้ เลยปล้น เลยขโมย เพราะมันเลยขอบเขตของความถูกต้อง มีทางเดียวต้องทำให้เขาได้สติขึ้นมา
4. ถูกต้องแล้วที่ผู้เขียนเห็นเช่นนั้น แต่มิอาจทำให้ผู้ที่ถูกกิเลสครอบงำเห็นตามได้ครับ เหมือนคนที่ผงเข้าตาอยู่ จะให้เขาเห็นเหมือนเราทุกเรื่องย่อมเป็นไปไม่ได้ ยกเว้น เขี่ยผงออกจากตาของเขาก่อน
5. เพราะกิเลสนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่นัก มีผู้กล่าวว่า สำหรับกิเลสแล้ว แม้จักรวาล(ที่กว้างใหญ่ไพศาล)ก็ยังแคบไป ผู้ยังอยู่ในจักรวาลทุกคนได้ชื่อว่า ตกในอำนาจกิเลส มากหรือน้อยเท่านั้น แม้พรหมโลก(ที่สูงส่งมากแล้ว)ก็ยังต่ำไป สรรพสัตว์ตั้งแต่สัตว์นรก ไปจนถึงพรหมโลก ก็ไม่พ้นอำนาจกิเลส
#5
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:44 PM
เอ แล้วจะช่วยเค้าเขี่ยยังไงละคะ การนั่งสมาธิก็ส่วนหนึ่ง ยกเรื่องกฏแห่งกรรมก็ส่วนหนึ่ง มีวิธีไหนบ้างอีกมั้ยคะ หรือต้องวางอุเบกขาไปอย่างนั้น
#6
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:47 PM
#7
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:49 PM
รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นหลวงพ่อองค์เป็นๆ ค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:57 PM
บัวอยู่ที่โคนตม สอนยาก แนะนำยาก ยิ่งมีมานะในตนสูง ยิ่งยากค่ะ
ช่วยได้ก็ช่วย ถ้าช่วยไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเขาไปน่ะ
เราสร้างบารมีของเราดีกว่าค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 09:28 PM
สิ่งที่ท่านจขกท.ได้เตือนเขาไปแล้ว ทำสุดความสามารถ ทำดีที่สุดแล้ว เขาไม่คิดจะทำ เขาก็รับฟังแต่ทำไม่ได้ ก็ต้องวางอุเบกขา กรรมใครกรรมมันล่ะคะ หากธุลีนัยน์ตาน้อย เดี๋ยวเขาก็เห็นเอง ทำได้เอง
แต่วิบากกรรมกาเมฯ มันร้ายแรงเหลือเกิน
#10
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:32 PM
มันไม่ใช่หรอก เชื่อดิ ยิ้มหวานๆ ให้สามที
จะว่าไปผมเคยเป็นนะครับ
คิดว่ามันคือความรักแต่จริงๆมันไม่ใช่
คิดๆว่ามันคือความใคร่แต่มันก็ไม่เชิง
คิดๆว่ามันคือสิ่งที่ไขว้คว้าแต่จริงมันไม่มีตัวตน
คิดไปคิดว่า คิดมาคิดไป ก็สรุปว่า
"รักที่แท้จริงคือความรักในตัวเองครับ รักในพระรัตนตรัยในตัวเอง"
ปล. ผมว่าก็ให้คำแนะนำเพื่อนไปได้นะครับ แต่อย่าเอาใจเราไปเกาะติดกับปัญหามากเกินไป เดี่ยวใจเราจะขุ่นได้ง่าย
เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องคิดได้ด้วยตัวเอง ชวนเค้ามาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนซิครับ ได้ผลชะงัดเชียว :-)
#11
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:48 PM
...ถ้าศีล ได้กระจายความหมายออกไปเร็ว และแรงกว่านี้ โลก และมนุษย์จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบยิ่งกว่านี้ ภาพที่ไม่ดีจะค่อยไม่มีมาให้เห็น ศีลธรรมจะกลับคืนสู่มนุษยชาติได้ก็ต้องด้วยพวกเราช่วยกัน ต้องแก้ที่เหตุในเหตุ แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว จะแก้ให้มีความเห็นถูกคงยาก และใช้เวลา และความพยายามอยู่มาก แต่ก็เป็นไปได้ ถ้าบุญในตัวคนคนนั้นยังได้ช่องอยู่ แต่ถ้าอกุศลจิตเต็มเปี่ยมแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับคนปิดหู ปิดตา ปิดปาก ไม่รับรู้ รับฟังอะไรจากใครอีกต่อไปนั่นเอง...
...คนที่ตกอยู่ในความลุ่มหลง กามคุณ ยากที่จะฟังในเรื่องศีลธรรม ถ้าจะช่วยจริงๆ คงต้องชี้คุณ และโทษให้เห็นในเบื้องต้นก่อน เช่น เวลาเขาทะเลาะกันก็ค่อยๆ ชี้โทษ ...ส่วนเวลาเขามีความสุข ก็ชี้คุณว่า สุขก็เพียงประเดี๋ยวเดียว ไม่อาจผิดขนบธรรมเนียมประเพณีอันถูกต้องได้ ฯลฯ วิธีช่วยสามี ของเขา ไม่รู้มีลูกด้วยกันป่าว? ก็คงต้องให้ตัวสามีทำเองด้วย รู้จักเปลี่ยนในทางที่ดี ให้มองเห็นว่า เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ที่ถูกต้อง ที่เอาใจใส่ ไม่เละเทะเกเร จนเขาเห็น และเข้าใจนั่นแหละ เรียกว่า รัก 3 เศร้า ถ้าจะหายเศร้าก็ต้องคุยกันยาว และอาจจบลงด้วย 1 คนผู้จากไปนั่นเอง... เฮ้อออ ชีวิตมนุษย์ ยากแท้ หยั่งถึง..
#12
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:49 PM
1.ความรักกับความถูกต้อง ก็ง่ายง่ายเลยครับ เลือกทั้งสอง ก็คือความรักที่ถูกต้องไงครับ นั่นคือรักตัวเองและปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต
ซึ่งปัญหาอยู่ที่ว่าทำอย่างไร ถึงจะให้เขาคิดแบบนี้
เพราะความไม่รู้ของเพื่อนมนุษย์เราแหละครับ อย่าทิ้งเขา ถ้าเราช่วยได้ก็ควรช่วย แต่ก็ควรใช้อุเบกขา หากมันเป็นสิ่งที่สุดความสามารถที่จะทำให้เขามาทางนี้
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ตอนนี้เอาใจมาทำเรื่องใสๆๆๆๆๆกันดีกว่า^^
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
#13
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 03:04 AM
แต่อย่างไรก็ต้องดูความเหมาะสมตามโอกาส
เป็นกำลังใจเช่นกันครับ
#14
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 09:05 AM
ให้ปลอดภัยทั้งภพนี้ และภพหน้า มันจึงยาก แต่ต้องทำค่ะ เป็นกำลังใจให้