อ้างอิงจากย้อนรอยหมู่คณะตอนที่ 9 คุณยายเรียกหลวงพ่อ นะครับ
http://www.dmc.tv/fo...mp;#entry174018
ผมเองก็ได้เกริ่นเกร็ดเล็กๆ ที่ไม่เล็กของคุณยายมา 3 ตอนแล้ว บัดนี้เห็นว่าสมควรแก่เวลา(เดี๋ยวจะหมดเรื่องหากิน อิอิ) ก็จะได้ว่าเรื่องของตัวเองต่อไปนะครับ เอาเรื่องอะไรก่อนดีล่ะ ระหว่างเรื่องอาสาสมัคร หรือเรื่องชมรมพุทธ เอ เอาเรื่องชมรมพุทธต่อก่อนดีกว่า
หลังจากที่ผมขึ้นชมรมพุทธไม่นาน ก็ได้รับบุญกิจกรรมชมรมพุทธที่ยิ่งใหญ่มากๆ กิจกรรมนั้นก็คือ กิจกรรมสอบแข่นขันตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าครับ ตามที่ได้ยินมานั้น กิจกรรมนี้จัดมาหลายปีแล้ว ตอนแรกมีคนมาร่วมแค่หลักร้อยคน แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ ปี พอถึงยุคผมในช่วงปี 2530 มีคนมาสอบถึง 2 หมื่นคนเลยทีเดียวซึ่งผมเองก็รู้สึกว่ามากแล้ว แต่ปัจจุบันคนมาร่วมสอบแข่งขันตอบปัญหาธรรมะแต่ละปีกลายเป็น 4 ล้านคน ซึ่งผมเองก็ภูมิใจที่มีส่วนในการส่งต่อไม้ผลัดทำให้กิจกรรมทางก้าวหน้าเจริญเติบโตอย่างก้าวหน้าตามชื่อกิจกรรมจริงๆ
วันแรกที่ผมได้ร่วมรับบุญ ผมก็ไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วล่ะครับ เพราะพวกเราจะต้องช่วยเรียงข้อสอบซึ่งพึ่งเสร็จจากโรงพิมพ์หมาดๆ 2 หมื่นชุด ต้องเรียงให้เสร็จก่อนถึงวันสอบจริงในวันรุ่งขึ้น ผมรับบุญจัดเรียงข้อสอบไปอย่างสนุกสนานเบิกบาน รู้สึกดีใจที่เราได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ครั้นถึงรุ่งเช้าพวกเราก็เรียงข้อสอบเสร็จทันเวลาพอดี
ขณะที่ผมกำลังคิดว่า เสร็จแล้วจะได้กลับไปนอนเสียที รุ่นพี่ๆ ก็บอกว่า ยังไม่เสร็จ ยังต้องขับรถตระเวณนำไปส่งยังศูนย์สอบต่างๆ ก่อน (ดีว่าตอนนั้นมีไม่กี่ศูนย์ ไม่งั้น เป็นเรื่องนะเนี่ย) แต่ก่อนที่จะขนข้อสอบเดินทางไป พี่ปุ๋ย(ปัจจุบันเป็นผู้ประสานงานอยู่ USA) ก็เรียกน้องๆ ทุกคนมารวมกัน แล้วกล่าวนำอธิษฐานจิต ด้วยถ้อยคำที่ผมไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนในชีวิต (คล้ายๆ บทอธิษฐานจิตในสมัยนี้) แต่พอฟังแล้วว่าตาม ก็รู้สึกว่าทุกถ้อยคำเป็นถ้อยคำที่ดี อธิษฐานจิตเสร็จ ผมก็นั่งรถไปกับรุ่นพี่ ตระเวณนำข้อสอบไปส่งยังศูนย์สอบต่างๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ภายหลังผมก็ติดใจ เลยมาขึ้นชมรมพุทธแทบทุกวัน แล้วก็ได้มาจัดกิจกรรมทางก้าวหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้สำคัญนัก เพราะมีการประกวดการเล่านิทานชาดกประกอบละคร ในชั้นระดับประถมร่วมด้วย ถือเป็นไฮไลท์ของงานเลยทีเดียว เพราะเสียงใสๆ น้ำเสียงสูงขึ้นต่ำลงเป็นจังหวะๆ ของเด็กๆ ทำเอาคนแถวนั้น เข้ามาดูกันเป็นการใหญ่
ยิ่งพอถึงตอนที่พระองค์ภาฯ (โรงเรียนของพระองค์ท่านก็เข้าร่วมกิจกรรมด้วย) ขึ้นเล่านิทาน โดยพระองค์ท่านเป็นผู้เล่าด้วยตัวเอง ส่วนเพื่อนๆ นักเรียนก็แสดงละครประกอบนิทานไปด้วย เรียกว่า เรียกคนมาดูกันที่ศาลาพระเกี้ยวจนล้นหลามไปเลย หลังจากนั้น ก็มีการประกาศผลการเล่านิทานชาดก ปรากฏว่า โรงเรียนของพระองค์ภาฯ ได้รางวัลชนะเลิศ
พี่อนันต์(ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ฝ่ายศิลป์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง) ซึ่งมีฝืมือทางด้านศิลปแห่งยุคของชมรม ก็ลงมือถ่ายรูปภาพงานกิจกรรมครั้งนี้ด้วยตัวเขาเอง และได้นำภาพไปล้างด่วน แล้วก็นำเอกสารการรับรูปมาให้ผม โดยวานให้ผมช่วยไปรับรูปภาพที่ร้านซึ่งอยู่ตรงข้ามจุฬาฯ ในช่วงเย็นๆ
ตัวผมเองก็เก็บเอกสารนั้นไว้อย่างดี แล้วก็ไปร่วมกับเพื่อนๆ รับบุญเก็บงาน เก็บสถานที่ให้เรียบร้อย จนเวลาได้ล่วงเลยจากเย็นไปเป็นค่ำ นักข่าวที่นัดกับอาจารย์เสาวลักษณ์ไว้ก็มาขอรูปเพื่อเตรียมจะไปทำข่าว และแล้วความทรงจำของผมก็หวนคืนมา "ตายล่ะ ลืมไปเอารูปภาพที่พี่อนันต์ล้างไว้ ทำไงดี"
อาจารย์ก็บอกขึ้นมาว่า "ทำยังไงล่ะ ทีนี้" ส่วนนักข่าวก็ยืนรออยู่ พี่อนันต์ก็บอกให้เขารอก่อน ส่วนผมก็รีบวิ่งออกประตูรั้วจุฬาฯ ข้ามสะพานลอยไปโดยเร็ว ปานลมพัด เอ้ย ปานคนวิ่ง พอไปถึงหน้าร้าน ร้านปิดไปเรียบเรียบแล้ว ผมใจแป้ว รีบกดกริ่งเรียก แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ผมจึงตะโกนให้เจ้าของร้านช่วยเปิดประตูด้วย
สักพักก็ได้ยินเสียงเจ้าของร้านแว่วมาว่า "ร้านปิดแล้ว ให้มาใหม่พรุ่งนี้" ผมนึกในใจทันทีว่า "ไม่มีวันพรุ่งนี้ สำหรับผมแล้ว เพราะถ้าข่าวออกช้าไปหนึ่งวัน นั่นก็ไม่ใช่ข่าวสำคัญอีกต่อไปแล้ว" จึงบอกเจ้าของร้านไปว่า "ผมมีเรื่องด่วนให้เจ้าของร้านช่วยเหลือหน่อย" เจ้าของร้านจึงให้เข้าทางประตูหลัง
พอเข้าประตูได้ ผมก็ไม่รอช้า งัดเอกสารการรับรูปที่เก็บไว้อย่างดีออกมา ซึ่งเจ้าของร้านก็ตรงไปหยิบภาพที่ล้างไว้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะในรูปภาพชุดนั้น มีรูปภาพพระองค์ภาฯ อยู่ก็เป็นได้ จึงสะดุดตาเจ้าของร้าน เมื่อได้ภาพมา ผมก็ควักเงินจ่ายเรียบร้อย จากนั้น ผมก็ยึดหลักโกยหน้าตั้ง รีบวิ่งกลับมาที่จุดนัดพบทันที
พี่อนันต์ อาจารย์ และนักข่าวก็ยืนรออยู่ อาจารย์ก็บอกว่า "ทันเวลาพอดี แล้วก็นำภาพทั้งหมดในมือผมไปคุยกับนักข่าวต่อไป" ผมก็กลับไปบ้านอย่างอ่อนล้า เพราะตรากตรำมาทั้งวัน ครั้นวันรุ่งขึ้น ผมเดินทางไปมหาวิทยาลัย แล้วเหลือบไปที่แผงขายหนังสือริมถนน เห็นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งโชว์อยู่ ซึ่งข่าวกิจกรรมการเล่านิทานชาดกประกอบละคร ระดับประถมได้ไปปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ โดยมีโรงเรียนของพระองค์ภาฯ ได้รางวัลชนะเลิศ แล้วก็มีภาพพระองค์ภาฯ ทรงรับรางวัล ที่พี่อนันต์ได้ถ่ายไว้ ติดอยู่ที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ด้วย
ผมนึกขึ้นในใจว่า "นี่ถ้าไม่มีเรา ข่าวดังระดับประเทศไม่มีทางได้ออกหนังสือพิมพ์นะเนี่ย แต่อีกใจก็คิดขึ้นมาว่า ก็เพราะมีเอ็งนั่นแหละ ข่าวดังระดับประเทศเกือบจะไม่ได้ออกแล้ว" สักพักผมก็ยุติความคิดนั้น แล้วมุ่งหน้าไปเรียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม พอนึกย้อนเหตุการณ์ในวันนี้ "ผมยังคงคิดว่า เรานั่นแหละ อยู่เบื้องหลังข่าวดังระดับประเทศครับ"

ย้อนรอยหมู่คณะตอนที่ 10
เริ่มโดย หัดฝัน, May 05 2010 05:03 PM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 05:03 PM
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#2
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 07:22 PM
สาธุ ๆๆๆ อนุโมทนาบูญด้วยครับ
#3
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 07:47 PM
อ่านแล้ว...เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย...เหนื่อย...... แต่รับบุญเต็มๆ อนุโมทนาบูญด้วยนะค่ะ
สาธุ ๆ ๆ
สาธุ ๆ ๆ
#5
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 09:56 PM
ขออนุโมทนาบุญ สาธุๆๆ
#6
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 09:57 PM
คุณหัดฝัน ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับชาติเชียวนะ ที่ วิ่งได้มาราธอน ขอตบมือให้กับนักวิ่งระดับชาติค่ะ
ไม่มีคุณหัดฝัน ก้อไม่มีข่าวดังระดับชาติ
ไม่มีคุณหัดฝัน พวกเราก้อ อดได้ฟังเรื่องสนุก ๆ 5555
เราก็ได้ไปช่วยงานการสอบแข่งขันปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า แต่ไม่ได้ไปวิ่งมาราธอนเหมือนคุณหัดฝันค่ะ
อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันน่ะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ไม่มีคุณหัดฝัน ก้อไม่มีข่าวดังระดับชาติ
ไม่มีคุณหัดฝัน พวกเราก้อ อดได้ฟังเรื่องสนุก ๆ 5555
เราก็ได้ไปช่วยงานการสอบแข่งขันปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า แต่ไม่ได้ไปวิ่งมาราธอนเหมือนคุณหัดฝันค่ะ
อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันน่ะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 10:07 PM
...บุญเยอะจริงๆ ไม่เสียดายเลยที่เรียกว่า "หัดฝัน ผู้มีบุญพิเศษ" อิอิ หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ มักเป็นของผู้ที่ยิ่งใหญ่...
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#8
โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 10:13 PM
สุดยอดครับ ลุ้นตามเลยนะเนี้ย :-)
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ จิ๊กซอแต่ละตัวสำคัญมาก ๆ กับความสำเร็จของหมู่คณะ พี่หัดฝันเป็นโคตรจิ๊กซอเลยครับ :-)
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ จิ๊กซอแต่ละตัวสำคัญมาก ๆ กับความสำเร็จของหมู่คณะ พี่หัดฝันเป็นโคตรจิ๊กซอเลยครับ :-)
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"
#9
โพสต์เมื่อ 06 May 2010 - 09:55 AM
สาธุค่ะ
อ่านที่พี่หัดฝันเล่าให้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนได้วิ่งไปรับรูปที่ร้านกับพี่หัดฝันด้วยเลยค่ะ
อ่านที่พี่หัดฝันเล่าให้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนได้วิ่งไปรับรูปที่ร้านกับพี่หัดฝันด้วยเลยค่ะ

#10
โพสต์เมื่อ 07 May 2010 - 07:52 AM
สาธุ ครับผม