
เพื่อนๆโดนผีหลอกที่หอในครับ
#1
โพสต์เมื่อ 24 August 2010 - 08:58 PM
#2
โพสต์เมื่อ 24 August 2010 - 10:14 PM
เขาอยากได้บุญ
แล้วให้มาวัด (วัดพระธรรมกายก็ได้ ไหน ๆ ก็อยู่ใกล้แล้วหนิ)
มาทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่หอฉัน
รวมพล คนถูกแกล้ง ถูกหลอก มาให้หมดยกแก๊งค์เลย
แล้วระหว่างที่พระสวดให้พร
ก็แผ่เมตตาให้เขาไปเลย
อย่างน้อยคนมาทำบุญก็ได้ใจใส ๆ กลับไปล่ะค่ะ
จำไว้นะคะ จะเกิดอะไรขึ้นก็แผ่เมตตาให้
แต่ถ้านึกคำแผ่ไม่ออก ก็เอารูปหลวงปู่สดมาดูและขอให้หลวงปู่ท่านช่วยนะคะ
ขอให้บุญคุ้มครองค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 24 August 2010 - 11:20 PM
#5
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 12:43 AM
หลายยยยยยยยย ปีก่อน พี่เห็นท่าไม่ดี เผ่นกลับบ้านอยู่หอได้สัก 2 วันมั้ง
เพื่อนพี่ก็เล่าบ่อยๆ แต่บอกตรงๆ ไม่ค่อยเชื่อที่เพื่อนเล่าอะ
เพราะเขาบอกว่า พอผีมา เขาก็สวดคาถาชินบัญชร ผีหัวเราะ บอกว่าสวดผิด
ขำๆ น้อง
เอางี้นะน้องจ๋า...
พี่เองก็มีประสบการณ์ในเรื่องกายละเอียดอยู่เนืองๆ
ให้ทำอย่างที่ คุณเดือนฉายงามแสง บอกนะจ๊ะน้องนะ
ส่วนใหญ่สำเร็จ
แต่หากยังไม่ได้ผล เพราะว่าอาจจะเป็นที่อยู่ของเขา
เวลานั่งสมาธิทีไรมาทุ้กที ไม่เป็นอันนั่ง...(หลวงพ่อบอกว่า เขาจะทำไ้ด้ก็แต่คนที่มีเชื้อกับลูกคนที่มีเชื้อ o_O')
สิ่งที่พี่ทำคือ นึกเอาบุญ วนรอบเขตที่อยู่ของเรา และไม่อนุญาตให้เข้ามารบกวน
และขู่ว่า ทำอย่างนี้ บาปนะเนี่ย..
เมื่อทำดังนี้แล้ว........เงียบ...
นึกๆ ก็รู้สึกว่าเราอาจจะโหดไป กายละเอียดอาจจะงอนเราก็ได้
ก็เลยบอกว่า อนุญาตให้เข้ามาตอนที่เราไม่อยู่ และ แบ่งบุญให้เขาบ่อยๆ
และขอโทษเขาที่โหดไปหน่อย แต่ก็ยืนยันว่า ขออย่ามารบกวนในพื้นที่ของเราเลย จะแบ่งบุญให้บ่อยๆแล้วกันจ้า
ขำขำนะจ๊ะน้อง
แต่ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นความจริงจ้า..
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#6
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 01:09 AM
#7
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 04:11 AM
#8
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 07:08 AM



#9
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 07:11 AM
..แต่เมื่อเราต้องอยู่ร่วมในพื้นที่ด้วย มันจำเป็น หรือเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องจำกัดเขต เอาสิ่งที่มีอำนาจเหนือกว่ามาควบคุม ก็เหมือนตำรวจจับผู้ร้ายนั่นแหละ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ ปฏิบัติธรรม นั่ง นอน ยืน เดิน ก็ไม่ได้ หวาดระแวงไปหมด ไม่งั้นจะมีพระคาถามาเพื่อสิ่งใดเล่า ก็เพื่อมาจำกัดเขตหรือควบคุมกายละเอียดที่ชอบเกเร และไม่รู้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่ได้จบแค่นี้ไงครับ ที่สำคัญเขาอยู่ได้เพราะอายุขัยมันยังไม่หมดบนโลกมนุษย์ (แต่ดันตายก่อน ไปเกิดก็ไม่ได้ นรกก็ไปไม่ได้ สวรรค์ก็ไปไม่ได้) แต่เรื่องสวรรค์คงไม่ได้ไปแล้วล่ะ เพราะต้องใช้กำลังบุญมาก คนอุทิศบุญให้ก็คงลืมกันไปแล้ว หรือคิดไปแล้วว่า ลูกช้านไปดี เหอๆ
..เอาเมตตาเป็นตัวนำก็ได้ครับ เขาเหล่านั้นน่าสงสาร แต่ทำตนไม่น่าสงสาร แต่เรารู้ไง เขาเหล่านั้นไม่รู้ ถ้าการอาราธนาอำนาจที่เหนือกว่าพวกเขามาปกป้องดูแลตัวเราได้ เขาเข้ามาไม่ได้ เขาก็จะค่อยๆรู้เอง และเริ่มสลดล่ะทีนี้ เหอๆ เหมือนสอนสัตว์โลกว่าเป็นไปตามกรรมนั่นเอง บุญมากปกครองบุญน้อย บุญน้อยมิอาจอยู่ได้
#10
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 08:18 AM
คือ ต้องให้ออกมาหลอกมาหลอนเสียก่อน ถึงจะกระตือรือร้นในการทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล
รู้ทั้งรู้ว่า พวกท่านเหล่านั้นเขารอส่วนบุญส่วนกุศลกันอยู่ ทำไมไม่คิดจะทำให้เป็นประจำ สม่ำเสมอ ต้องปล่อยให้เขาออกมาขอ
แล้วตานี้ พอออกมาขอท่านนึงแล้วได้รับ พวกเรากระวีกระวาดออกมาใส่บาตรทำบุญแต่เช้า ท่านอื่นๆเห็นเข้า ก็..เฮ๊ย...ดีนี่หว่า คืนนี้เอาบ้างดีกว่า คราวนี้ก็จัดคิวออกมาแสดงกันเป็นงานประจำกันเลย
แค่เราหัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับทุกสรรพสัตว์โดยไม่เฉพาะเจาะจง ใครอนุโมทนาก็ขอให้ได้ส่วนบุญส่วนกุศลกันไปตามส่วน ให้เป็นประจำและสม่ำเสมอ แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้วครับ ดีไม่ดีท่านเหล่านั้นจะมาคอยเฝ้าดูแล รักษาเราให้อีกต่างหาก เพราะรู้ว่าคอยเฝ้าดูแลคนนี้แล้วจะได้แต่บุญใหญ่ๆ ไม่ต้องคอยออกไปลอยหา
แถมจะทำให้เป็นผีที่มีมารยาทอีก เพราะเขาจะรู้ตัวว่าต้องทำตัวกับเราอย่างไร เราถึงจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ เกิดเพ่นพ่านมากไปเขาโมโหขึ้นมา(ก็กลัวนั่นแหละ) เกิดไม่อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แล้วจะลำบาก เขาก็จะทำตัวให้เป็นผีมีมารยาทที่ดีงาม
งานตักบาตรหมู่ แบบโครงการตักบาตรหนึ่งล้านเนี้ยแหละเป็นบุญ เป็นทานกุศลที่มหาศาลนัก ทำให้เกิดขึ้นทุกมหาวิทยาลัย ทุกสถานศึกษา ทุกหมู่บ้าน ให้ทุกๆคนได้รับโอกาศในการใส่บาตรร่วมในโครงการนี้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด ช่วยๆกันผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้นทั่วไทยนะครับ ทั้งผีทั้งคนนั่นแหละ
#11
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 09:06 AM
และสำคัญ อาราธนารูปหลวงปู่ มาประดิษฐ์ฐานไว้ในที่ที่มีบ่อยๆ
#12
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 09:23 AM
จะได้ไม่ประมาทหลงระเริง หาทางหลุดพ้นกัน
ใกล้วัดแคนี้ มาได้ทุกวันอาทิตย์เลยครับ
ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#13
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 01:09 PM
แต่ถ้ามาเป็นเสียงให้ตกใจ หรือให้หลอนๆ แบบนี้ใครจะไม่กลัว ผมไม่เชือ
#14
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 01:15 PM
#15
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 01:31 PM
#16
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 01:32 PM
เช่น ร่ำรวย แล้วพามาปล่อยที่วัด บอกให้ย้ายมวัด
จะได้บุญเยอะ
#17
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 08:18 PM
ตอนนี้เพื่อนๆก็สวดมนต์กันยกใหญ่เลยครับ และได้ยินมาว่าอาจมีการตักบาตรที่หอใน เร็วๆนี้ครับ (สงสัยถูกหลอกกันมาก)555

#18
โพสต์เมื่อ 25 August 2010 - 11:38 PM
#19
โพสต์เมื่อ 27 August 2010 - 10:54 PM

#20
โพสต์เมื่อ 29 August 2010 - 09:04 AM

#21
โพสต์เมื่อ 30 August 2010 - 10:39 PM
#22
โพสต์เมื่อ 30 August 2010 - 10:43 PM
นั่งสมาธิ ทำใจใสๆๆ แผ่เมตตา และสวดบทยันทุน
พระคาถายันทุนบทนี้ใช้สำหรับสวดป้องกันอันตรายต่างๆ เช่นเกิดนิมิตฝันไม่ดี เกิดอาเภทสังหรณ์ใจ
ให้สวดพระคาถานี้จะกลับเป็นความดีขึ้น แม้จะมีเคราะห์ร้ายต่างๆเกิดขึ้น ให้ทำน้ำมนต์อาบเสีย
ด้วยพระคาถาบทนี้ จะบำบัดอันตรายให้หายสิ้นได้
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
หรือ รัตนสูตร
"เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้น ที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร ก็เมื่อพระเถระกล่าวคำว่า "ยังกิญจิ" เท่านั้น พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่อาศัยกองหยากเยื่อ และประเทศแห่งฝาเรือนเป็นต้น ซึ่งยังไม่หนีไปในกาลก่อน ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง ๔ ....เมื่อพวกอมนุษย์ไปกันแล้ว โรคของมนุษย์ทั้งหลายก็สงบ" ดังนี้
ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
สะเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
ยะทัชฌะคา สัก์ยะมุนี สะมาหิโต
นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยีสุจิง
สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา
จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ
นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
เต ขีระพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม